สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว สวัสดีปีใหม่ไทย ชื่นใจสงกรานต์กันทุกท่านนะครับ สงกรานต์ไปเที่ยวไหนกันหรือเปล่าครับ ขอให้เดินทางปลอดภัยและเที่ยวพักผ่อนกันให้เต็มที่ครับ ส่วนผมไปธุระที่ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีคนย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่อาศัยกันเยอะ ผมไปที่เมืองเมลเบิร์น รู้สึกได้เลยว่าผู้คนที่เดินขวักไขว่ตามท้องถนนนั้นเกือบครึ่ง เป็นคนเอเชีย ไม่จีน ก็เกาหลี มีไทยบ้างประปราย มีญี่ปุ่นบ้างนิดหน่อย และพนักงานไม่ว่าจะที่โรงแรม ร้านอาหาร หรือธนาคารก็มีคนเอเชียร่วมทำงานอยู่เยอะเลยเชียว
ปัจจุบันนี้การย้ายถิ่นมีมากขึ้น ทั้งย้ายเข้าและย้ายออก อาจจะเป็นกรณีคนจากประเทศที่พัฒนาแล้วย้ายไปอยู่ประเทศกำลังพัฒนาก็ได้ หรือคนที่ย้ายไปประเทศพัฒนาแล้วเช่นกันผู้ที่ย้ายถิ่นฐานเราอาจจะเรียกว่า immigrant คือผู้ย้ายถิ่นเข้าประเทศหรืออพยพไปอยู่ต่างประเทศ, ส่วน Migrant หมายถึง คนต่างด้าว คนต่างสัญชาติที่อพยพย้ายถิ่นไปยังอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งจะไม่ใช่นักท่องเที่ยวทั่วไป ไม่ใช่นักธุรกิจที่ไปอาศัยอยู่ต่างประเทศในช่วงระยะเวลาไม่นาน แต่ผู้ย้ายถิ่นหรือคนต่างด้าวอพยพนั้นมีจุดประสงค์เพื่อต้องการอยู่ระยะยาว ด้วยหลากหลายเหตุผลเช่น เหตุผลเรื่องหน้าที่การงาน หรือคาดหวังเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น หรือเพื่อหนีภัยสงคราม หรือหางานทำ หรืออาจจะเดินทางไปอยู่อาศัยกับญาติพี่น้องที่อยู่ที่นั่นก่อนแล้ว อาจจะมีทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย คนย้ายถิ่นจำนวนมากสามารถลงหลักปักฐานจนกลายเป็นพลเมืองในประเทศใหม่ได้เลยครับ ที่ออสเตรเลียน่าจะมีคนย้ายถิ่นฐานจำนวนมาก
เพื่อนคนไทยผมที่เรียนอยู่ที่เมลเบิร์นอยู่ก่อนแล้วเขาเห็นว่าผมเป็นคนญี่ปุ่นอาจจะอยากทานอาหารญี่ปุ่น เขาจึงแนะนำว่าถ้าอยากทานซูชิจะแนะนำร้านให้ร้านหนึ่งราคาไม่แพงมาก ผมจึงลองไปทานดู ที่จริงก็นึกแปลกในใจว่ามาเที่ยวถึงออสเตรเลียแต่ไปกินซูชิ ! ไม่ลองอาหารฝรั่งหน่อยเหรอ ทำนองนั้น (*´ω`*) ในร้านซูชิมีเชฟนักปั้นซูชิที่หน้าตาคล้ายคนญี่ปุ่นอยู่ แต่อ่านชื่อแล้วน่าจะเป็นคนจีน พนักงานเกือบทั้งหมดก็คนจีน ลูกค้าในร้านครึ่งหนึ่งฝรั่ง อีกครึ่งน่าจะคนจีน อาหารก็ถือว่าใช้ได้ครับ แต่อย่างที่บอกคนเอเชียเยอะจริงๆ เลยล่ะที่นี่
และเป็นจังหวะพอดีได้ดูทีวีท้องถิ่นรายการกีฬา ซึ่งมีกีฬาเครือจักรภพ Commonwealth Games 2018 (GC2018) ณ GoldCoast ประเทศออสเตรเลียพอดี จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-15 เมษายน 2561 และมีกีฬาว่ายน้ำจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 เมษายน 2561 เป็นการแข่งขันกีฬาของประเทศในเครือจักรภพแห่งประชาชาติ (Commonwealth of Nations)หรือ (British Commonwealth) หรือเรียกอย่างง่ายว่า เครือจักรภพ เป็นองค์กรระหว่างประเทศในระดับรัฐบาล ประกอบด้วย 52 ชาติสมาชิกซึ่งส่วนมากเคยเป็นอดีตอาณานิคมของประเทศอังกฤษซึ่งก็รวมประเทศออสเตรเลียด้วย ผมรู้สึกว่าเยี่ยมมากเพราะว่ายังสานต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาอย่างยาวนาน
แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าประเทศต่างๆ ในเครือจักรภพที่เคยเป็นเมืองอาณานิคมของอังกฤษไม่ว่าจะ แคนาดา ออสเตรเลีย อินเดีย สิงคโปร์ ศรีลังกา ฯลฯ ยังสามารถรวมตัวกันได้เยอะมาก ยังเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในกรุ๊ปเดียวกัน ถ้าให้ประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นรวมตัวกันบ้างคงไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน ผมต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้มีเจตนาจุดประเด็นหรือพูดส่งเสริมญี่ปุ่น เรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตนั้นผมเองถึงจะเคยอ่านมาแต่ผมก็เป็นคนที่เกิดในยุคปัจจุบันซึ่งแม้จะรู้สึกขอโทษแต่เรื่องที่เคยเกิดผมเองก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วยแต่ประการใด บางทีการพูดในประเด็นอ่อนไหวเช่นนี้อาจไม่ค่อยดีนัก แต่ผมเห็นกีฬาในเครือจักรภพพอดี เลยขอพูดคร่าวๆ นะครับ
จากที่เคยรู้มาสมัยก่อนประเทศต่างๆ ที่ออกล่าอาณานิคมนั้น มีหลายประเทศ มีหลากหลายเหตุผล ถ้าท่านใดมีข้อมูลเชิงลึกก็มาร่วมแชร์กันได้นะครับ เช่น
* สเปนออกล่าอาณานิคมเพราะต้องการทรัพยากรธรรมชาติและเผยแผ่ศาสนา ก็ออกเผยแพร่ศาสนา และหาทรัพยากรที่ตนต้องการ
* ฝรั่งเศสออกล่าอาณานิคมเพราะต้องการขยายอิทธิพลการเมืองและการค้า
* โปรตุเกตและฮอลันดาออกล่าอาณานิคมเพราะต้องการทำการค้า และต้องการเครื่องเทศจึงออกหาพื้นที่ที่สามารถปลูกเครื่องเทศได้ และเข้าครอบครองยึดพื้นที่นั้น เพื่อให้คนพื้นเมืองปลูก แล้วทำการค้าขายเครื่องเทศ
* ส่วนอังกฤษ มีหลายสาย ทั้งสายที่เข้าไปล่าอาณานิคมที่โซนอเมริกา โซนเอเชีย อาจจะในรูปแบบหนีภัยทางศาสนา หนีภัยเศรษฐกิจ ไปแสวงหาโอกาสและที่ดินทำกิน ต่างๆ
สายที่มาอินเดีย แอฟริกา พม่า ช่วงแรกจะเข้าไปเพื่อทำการค้า หรือเพื่อหาแหล่งวัตถุดิบและทำตลาด แต่ด้วยกลยุทธ์ทำไปทำมา ได้โอกาสช่วยยึดอำนาจปลดปล่อยประเทศที่อังกฤษเข้าไปแทรกแซงเหล่านั้นจากอาณาจักรข้างๆ ที่แก่งแย่งอำนาจทางการเมืองกันอยู่ โดยแลกกับการทำสัญญาเข้าเป็นอาณานิคม ตอนที่อังกฤษได้อินเดียเป็นเมืองอาณานิคม ก็เพราะเริ่มมาจากเรื่องการแบ่งส่วนเช่นกัน เช่น เลือกผู้เข้ารับราชการเองจากหลายๆ ฝ่าย หนึ่งในนั่นเป็นพ่อค้านายทุนหนึ่งในเครื่องญาติผู้นับถือ ศาสนาโซโรอัสเตอร์ (Zoroastrianism) ซึ่งเป็นศาสนาและปรัชญาศาสนาโบราณอย่างหนึ่ง จำนวนศาสนิกโซโรอัสเตอร์นั้นถือว่ามีคนที่นับถือศาสนานี้น้อยมาก แค่ไม่ถึงแสนคนกระมัง ทำให้คนที่เป็นข้าราชการของประเทศได้สิทธิและร่ำรวยขึ้นมา เช่นเจ้าของ Tata รถยนต์ รวยและมีพาวเวอร์มาก คนท้องถิ่นก็ไม่เกลียดอังกฤษแต่เล่นแง่กับพวกข้าราชการร่ำรวยแทน
ประเทศมหาอำนาจอย่างอังกฤษ , ฝรั่งเศสจะใช้วิธีการแบ่งส่วนอำนาจอย่างที่บอกไป ฝรั่งเศสก็เช่นกัน ใช้รัฐบาลของประเทศนั้น ทำให้คู่แข่งกันทะเลาะกันเอง เช่น ใช้ Local Government เป็นครู อาจารย์ ข้าราชการ ภายใน หรืออาจจะใช้หลักการ Minority เสียงข้างน้อย คือ ฝรั่งเป็นเจ้าของประเทศ ตัวอย่างการปกครอง เช่น ที่ประเทศลาวก็จะให้คนลาว 100 คน มีฝรั่ง 1 คนเป็นผู้ที่ทำงานร่วมกับคนลาวร้อยคนนั้น แต่จะมีคนชาติอื่นมาร่วมอีก ยกตัวอย่างว่าเป็นคนจีน และเวียดนาม ครั้นคนลาวจะติดต่อฝรั่งก็ต้องติดต่อกับคนจีนและเวียดนามนั้นด้วย แทนที่คนลาวจะเกลียดฝรั่งก็เผลอเกลียดจีนและเวียดนามไปด้วย ลืมที่ต้องเกลียดฝรั่งไปเลย ทำให้ฝรั่งได้ประโยชน์ ได้กำไร และทำให้คนไม่เกลียด
ประเทศในเอเซียที่ไม่เคยเป็นเมืองอาณานิคมใครคงจะมีแค่ ไทย ,ตุรกี และญี่ปุ่น ที่เป็นเอกราชไม่เป็นอาณานิคมประเทศใด
สำหรับประเทศไทยทุกท่านคงจะทราบกันดีในขณะที่รอบข้างของสยามหรือประเทศไทยขณะนั้นตกเป็นเมืองอาณานิคมของอังกฤษและฝรั่งเศสเกือบหมด แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดหลายๆ ประเด็น อาทิเช่น แนวคิดยอมเสียส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนมาก, การดำเนินยุทธศาสตร์ทางการเมืองระหว่างประเทศ , ความสามารถของพระมหากษัตริย์และราชวงศ์, การสร้างพันธมิตรอย่างรัสเซียมาคานอำนาจ, การเร่งพัฒนาความเจริญของประเทศชาติ เป็นต้น ทำให้สยามไม่ตกเป็นเมืองอาณานิคมของชาติใด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมครับ
ผิดกับญี่ปุ่น ตอนยุคที่ล่าอาณานิคมประเทศรอบข้างเกลียดญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด ตอนนี้คงมีแค่มีไต้หวันที่พอจะไปกันได้อยู่
เพราะคนญี่ปุ่นทำโหดร้าย ตอนที่ผมไปเที่ยวอินโดนีเซีย มีคนอินโดนีเซียเล่าประวัติศาสตร์อินโดนีเซียให้ฟัง เขาบอกว่าตอนที่อินโดนีเซียเป็นเมืองอาณานิคมของฮอลันดาก็ดีนะ แต่ตอนที่เป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นนี่ลำบากที่สุด และไม่รู้สึกขอบคุณเลย ..
เพราะผมคิดว่าคนญี่ปุ่นไม่เหมาะสมกับการมีเมืองในอาณานิคม ไม่สามารถดูแลประเทศในอาณานิคมได้ คนญี่ปุ่นกับลัทธิจักรวรรดินิยม 帝国主義 ( Imperialism ) หรือการยึดครองอาณานิคมในดินแดนต่างๆ แบบญี่ปุ่นจึงมีผลออกมาเช่นที่ทราบกัน
คนญี่ปุ่นใช้ 人道的 Humanism มนุษยนิยมดำเนินไปอย่างแข็งขัน เชื่อมั่นในมนุษย์ เป็นแนวคิดมนุษยนิยมเชื่อว่ามนุษย์มีศักยภาพ มีความสามารถ ไม่ได้ปฏิบัติกับประเทศอาณานิคมแบบที่อังกฤษและฝรั่งเศสทำ ที่ใช้หลักกฎหมายและการบริหารจัดการเสมือนเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศแม่ แต่พฤติกรรมของญี่ปุ่นที่ใช้ในการปกครองพบว่ามักไม่เปิดโอกาสให้ชาวพื้นเมืองเข้ามามีบทบาททางด้านการเมืองการปกครองเลย รวมไปถึงการพยายามทำให้ชาวพื้นเมืองเป็นญี่ปุ่น แบบยัดเยียด ดังนั้นใครล่ะจะยอม ซึ่งพฤติกรรมของญี่ปุ่นนั้นกลับเป็นไปในลักษณะของการยึดครองมากกว่าการปกครองในฐานะดินแดนในอาณานิคม เช่น จะทำให้เป็นคนจีนเป็นคนญี่ปุ่น จะให้คนเกาหลีเป็นคนญี่ปุ่น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ หรือการทำศาลเจ้าที่เกาหลี 創氏改名 Sōshi kaimei ทำให้เปลี่ยนชื่อเป็นญี่ปุ่น และ 八紘一宇 Hakkōichiu ทำสัญชาติให้เป็นเหมือนกัน หรือ 五族協和 Gozoku kyōwa ซึ่งเป็นหลักใหญ่ของการสถาปนาแมนจู ที่ถือเป็นรัฐหุ่นเชิดของญี่ปุ่น การรวมห้าเชื้อชาติภายใต้หนึ่งสหภาพ จะรวมชนชาติต่างๆ 5 ชนชาติใหญ่ ที่ประกอบด้วยชาวแมนจู, ญี่ปุ่น, จีน, มองโกล, เกาหลี ญี่ปุ่นใช้วิธีการที่ผิด สโลแกน การบุกรุก invasions ซึ่งต่างจากประเทศฝรั่ง..
มีโจ๊กข้อความตลกนานาชาติ เล่าว่า
🍀สวรรค์ในโลก คือต้องมีรูปแบบใด?
ช่างทำอาหาร: ต้องเป็นฝรั่งเศส
ตำรวจ: ต้องเป็นอังกฤษ
ช่างเทคนิค: ต้องเป็นเยอรมัน
นายธนาคาร: ต้องเป็นสวิตเซอร์แลนด์
หาแฟนต้องเป็นคนอิตาเลียน
อีกบทบอกว่า “ต้องเป็นแฟนสาวญี่ปุ่น อยู่บ้านสไตล์อิงลิช ทานอาหารจีน ได้รับเงินเดือนแบบอเมริกา” ถึงจะสวรรค์!!
🍂แล้วนรกในโลกล่ะ
ช่างทำอาหาร: คืออังกฤษ
ตำรวจ:คือเยอรมัน
ช่างเทคนิค: คือฝรั่งเศส
นายธนาคาร:คืออิตาเลียน
มีแฟนเป็นคนสวิตเซอร์แลนด์
อีกบทบอกว่านรกล่ะถ้า “ได้แฟนเป็นคนอเมริกา อยู่บ้านแคบๆ แบบญี่ปุ่น ที่คนฝรั่งเรียกกันว่าบ้านกระต่าย กินอาหารอังกฤษ รับเงินเดือนแบบจีน!!”
วันสงกรานต์ ควรจะเป็นวันเบาๆ พักผ่อน เล่นสาดน้ำ หรือถ้าพวกผมคงต้องเข้าวัด ละมัง บางทีผมอาจจะไปเซอร์เวย์วัดไทยที่เมลเบิร์นเพื่อดูวิถีชีวิตการละเล่นสงกรานต์ของคนไทยในต่างประเทศ อย่างไรก็ตามขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ นะครับ วันนี้สวัสดีครับ