เอเจนซี/MGR Online - รัฐบาลญี่ปุ่นจะเริ่มเก็บภาษีการท่องเที่ยวสำหรับผู้เดินทางออกนอกประเทศจำนวน 1,000 เยน ในวันที่ 7 มกราคมปีหน้า แต่ยกเว้นให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบและผู้โดยสารผ่านทาง คาดสร้างรายได้ให้รัฐปีละ 12,500 ล้านบาท ด้านนักท่องเที่ยวไทยยังแห่ไปญี่ปุ่นต่อเนื่อง สองเดือนแรกปีนี้ไปแล้วกว่า 1.6 แสนคน
จากกรณีเมื่อปีที่ผ่านมารัฐสภาญี่ปุ่นได้เห็นชอบให้รัฐบาลดำเนินการเก็บภาษีการท่องเที่ยว ผู้โดยสารขาออกชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจำนวน 1,000 เยนหรือเกือบ 290 บาททุกครั้งที่เดินทางออกจากญี่ปุ่น ล่าสุดได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวออกมา โดยวันนี้ (11 เม.ย.) สภาไดเอตของญี่ปุ่นได้ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2562 จะเริ่มมีการเก็บ "ภาษีซาโยนาระ" ดังกล่าวเป็นวันแรก
อย่างไรก็ตาม "ภาษีซาโยนาระ" มีข้อยกเว้นในการไม่เก็บภาษีเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ และผู้โดยสารผ่านทางที่อยู่ในญี่ปุ่นไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยจากการรายงานของจีจี้เพรส มีการคาดหมายกันว่าภาษีนี้จะสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลญี่ปุ่นได้ราว 43,000 ล้านเยนต่อปี หรือคิดเป็นงานไทยได้ราว 12,500 ล้านบาทเลยทีเดียว เพราะในปี 2559 มีผู้เดินทางออกจากญี่ปุ่นราว 40 ล้านคน/ครั้ง โดยในจำนวนนี้ 17 ล้านคน/ครั้งเป็นชาวญี่ปุ่นเอง
การออกกฎหมายเก็บภาษีผู้ที่เดินทางออกนอกประเทศดังกล่าวถือเป็นความพยายามของญี่ปุ่นในการเพิ่มรายได้ให้แก่ภาครัฐ ในยุคที่สังคมญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวแล้ว โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญมากแหล่งหนึ่งของญี่ปุ่น
จากการรายงานของสำนักข่าวเกียวโด ทางรัฐบาลญี่ปุ่นยังวางแผนที่จะขยายการให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายในระบบขนส่งสาธารณะ รวมไปถึงการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเติมขึ้น โดยกรุงโตเกียวคาดว่ารายได้จากเงินภาษีแบบใหม่ในช่วงเดือนมกราคม ถึง มีนาคม 2562 จะมีจำนวนมากถึง 6,000 ล้านเยน (ราว 1,750 ล้านบาท) โดยเงินในส่วนนี้จะถูกนำไปติดตั้งระบบตรวจคนเข้าเมืองที่มาพร้อมกับเครื่องตรวจจับใบหน้า
ทั้งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติต่างหลั่งไหลไปเยือนประเทศญี่ปุ่น โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเที่ยวยังแดนอาทิตย์อุทัยมากถึง 28.69 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.3 จากปีก่อนหน้า โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวนั้นถือว่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จากนโยบายด้านวีซ่าของญี่ปุ่นที่เปิดกว้างมากขึ้น และค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง
อย่างไรก็ตามรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ตั้งเป้าว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องแตะหลัก 40 ล้านคนให้ได้ภายในปี 2563 (ค.ศ.2020) โดยในปีดังกล่าวกรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพในการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก นอกจากนี้ในระยะถัดไป ในปี 2573 (ค.ศ.2030) ก็มีการตั้งเป้าหมายด้วยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องเพิ่มขึ้นถึงหลัก 60 ล้านคน
จาก ข้อมูลล่าสุดขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ชี้ให้เห็นว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2561 นี้มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว 164,600 คน/ครั้ง หรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง ร้อยละ 17.3 ขณะที่ในภาพรวมเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือนญี่ปุ่นแล้วถึง 5,010,800 คน/ครั้ง หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 15.7 โดย นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปเยือนญี่ปุ่นมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ ชาวเกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา
สำหรับภาษีการท่องเที่ยวซึ่งจัดเก็บจากผู้โดยสารขาออกนั้นนอกจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังมีประเทศอย่าง สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ เป็นต้น ที่ก็มีการจัดเก็บภาษีในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน