xs
xsm
sm
md
lg

มายาปีศาจ ตอนที่ 2 ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บทประพันธ์ของ เอะโดะงะงะ รัมโปะ (1894-1965)
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์ อัศวเสนา

หนี้ที่ถูกกำหนดให้ต้องชำระด้วยเลือดและชีวิต...ตามตราสารคำสาปแห่งมายาปีศาจ

หลังจากทะเอะโกะเดินทางกลับไปได้สามวัน บ่ายวันนั้นอะเกะชิได้รับโทรศัพท์จากสารวัตรนะมิโคะชิโดยไม่ได้คาดหมายมาก่อน ผู้อ่านคงจะจำสารวัตรแห่งสำนักงานตำรวจโตเกียวผู้ได้รับสมญาว่าสิงห์มือปราบคนนี้กันแล้วเป็นอย่างดี

เสียงจากหูโทรศัพท์ฟังดูร้อนรนมาก สารวัตรทักทายตามธรรมเนียมอย่างย่นย่อแล้วเข้าเรื่องทันที

“ผมจะพูดถึงธุระก่อนนะ แล้วผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังตอนเจอกัน คือนายฟุกุดะ โทะกุจิโร นักธุรกิจที่รู้จักกับผมบอกว่าเกิดเหตุอะไรที่แปลกประหลาดขึ้นกับเขา อยากขอความช่วยเหลือจากคุณจึงให้ผมโทรมาขอร้องคุณให้เดินทางกลับโตเกียวโดยด่วน ส่วนเนื้อหาของเหตุการณ์มันยาวเกิดกว่าจะเล่าให้จบทางโทรศัพท์ แต่รับรองได้ว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ ขนาดผมยังคิดเลยว่ามันเป็นคดีที่เหมาะกับอุปนิสัยของนักสืบอย่างคุณมากกว่าตำรวจเสียอีก ”

“ขอโทษนะครับสารวัตรที่อุตส่าห์โทรมา ตอนนี้ผมหยุดพักงานนักสืบชั่วระยะหนึ่ง” อะเกะชิ ตอบทื่อ ๆ อย่างไม่มีอารัมภบท ผมเหน็ดเหนื่อยมากกับคดีแมงมุมปีศาจ มันทำเอาผมสิ้นเรี่ยวแรงไปเลยจริง ๆ ขอผมพักเถิดครับ”

“พูดอย่างนั้นผมก็แย่ซิคุณ” สารวัตรพูดด้วยเสียงที่แสดงว่าเขาแย่จริง ๆ ดังคำพูด “ถ้าคุณไม่มา คนที่ผิดหวังไม่ใช่นายฟุกุดะคนเดียวนะครับ ผมจะบอกความจริงให้นะว่าที่เรารู้ว่าคุณอยู่ที่นั่นก็เพราะคุณทะเอะโกะเป็นคนบอก และเธอต้องการมากเลยที่จะได้คุณมาเป็นคู่ปรึกษา”

“อะไรนะครับ...คุณทะเอะโกะอย่างนั้นรึ ผมรู้จัก แต่เธอเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์อะไรนี่ด้วยหรือครับ”
พอได้ยินชื่อทะเอะโกะ ดูเหมือนอะเกะชิจะกระตือรือร้นขึ้นมาทันที

“เกี่ยวข้องมากเลยละครับ ผมลืมบอกคุณไป นายฟุกุดะ เป็นน้องชายแท้ ๆ ของทะมะมุระ เซ็นทะโร พ่อของคุณทะเอะโกะ คือเป็นอาแท้ ๆ ของเธอนั่นเองครับ

“อย่างนั้นหรือครับ ตอนคุณทะเอะโกะพักอยู่ที่นี่เราคุ้นเคยกันบ้าง อ้อ...เขาเป็นอาของคุณคนนั้นนั่นเอง”
“ใช่ครับ ใช่ นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่นายฟุกุดะอยากขอร้องให้คุณช่วย ยังไงก็ช่วยจัดการอะไร ๆ ให้ลงตัวแล้วรีบกลับโตเกียวเถิดครับ”

“ได้ซิครับ ได้เลย”

อะเกะชิรู้สึกคึกคักเหมือนเด็กได้เงินค่าขนม ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาทำเป็นเขินหรือว่าลังเล เพราะถ้าเป็นคำขอของคุณทะเอะโกะละก็ไม่ว่าเมื่อไรก็จะไป

“เวลาหรือครับ พอดีมีรถไฟออกจากนี่บ่ายสองโมงสิบนาทีไปถึงสถานีอุเอะโนะทุ่มครึ่ง ผมจะไปรถเที่ยวนี้ละครับ”

สารวัตรรับคำเสียงใสกับคำตกลงที่เร็วเกินคาด รู้สึกพอใจเป็นที่สุด

“ขอบใจมากนะคุณ นายฟุกุดะจะต้องดีใจมาก ผมจะแจ้งเวลาเดินทางของคุณให้เขาทราบ และให้เขาส่งรถไปรับคุณที่อุเอะโนะ อย่าให้คลาดกันได้เทียวนะครับ” สารวัตรย้ำในตอนท้าย
ย่านอุเอะโนะสมัยก่อนสงคราม
ทันทีที่วางหูโทรศัพท์ นักสืบเอกก็กระวีกระวาดเตรียมตัวเดินทางกลับ คราวนี้เขาออกเดินทางด้วย

กระเป๋าเดินทางใบเดียวจึงไม่ต้องใช้เวลามาก แค่เก็บชุดนอนและเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซักไม่กี่ชิ้นลงกระเป๋าก็เสร็จ จากนั้นก็เหลือแค่จ่ายเงินค่าที่พัก แล้วยังเหลือเวลาอีกมากพอก่อนรถไฟจะออก

ระหว่างการเดินทางโดยรถไฟไม่มีเรื่องอะไรที่ควรแก่การกล่าวถึง นอกจากว่านักสืบอะเกะชิ นั่งคิดถึงทะเอะโกะไปตลอดทาง...ใบหน้าระบายรอยยิ้มอ่อนหวานราวดอกป็อปปี้ เสียงหวานเหมือนเสียงดนตรี...วนเวียนเข้ามาให้ได้เห็นและได้ยินในห้วงคิดคำนึงตามจังหวะโยกไหวของรถไฟ และนึกถึงเรื่องสยองขวัญราวฝันร้ายที่ทะเอะโกะเล่าให้ฟังในเรือวันก่อนเดินทางกลับขึ้นมาได้

“ลางสังหรณ์ของทะเอะโกะอาจเป็นจริงขึ้นมาแล้วก็ได้”

พอคิดเช่นนั้นใจของนักสืบเอกก็ลิงโลดขึ้นเต็มที่ ด้วยความมาดหมายว่าจะได้ท้าทายกับคดีลึกลับซ่อนเงื่อนแม้เพิ่งจะได้ยินเนื้อเรื่องแค่เสี้ยวเดียว

รถไฟแล่นเข้าเทียบชานชาลาสถานีอุเอะโนะเมื่อเวลาทุ่มครึ่ง พอออกจากประตูตรวจตั๋วคนขับรถที่มายืนคอยอยู่ก็เข้ามาทักโดยไม่ผิดตัวเพราะเคยเห็นรูปถ่ายของนักสืบอะเกะชิตามหน้าหนังสือพิมพ์บ่อย ๆ จนคุ้นตา

“คุณฟุกุดะส่งกระผมมารับท่านครับ”

คนขับรถกล่าวคำทักทายตามธรรมเนียมอย่างนอบน้อม

“อ้อ...ขอบใจ รถอยู่ที่ไหนล่ะ” อะเกะชิ ตอบเรื่อย ๆ

“เชิญทางนี้ครับ”

คนขับรถกล่าวพลางเดินนำหน้าไปยังลานจอดรถ

กรณีนี้จะโทษว่าอะเกะชิเลินเล่อคงไม่ได้ เพราะเขาจะคิดได้อย่างไรว่ารถที่มารับนั้นเป็นของปลอมในเมื่อคนที่รู้ว่าอะเกะชิจะเดินทางถึงสถานีอุเอะโนะแค่สารวัตรนะมิโคะชิกับนายฟุกุดะเท่านั้น อีกทั้งรถยนต์คันนี้ก็ดูหรูสมเป็นรถของนักธุรกิจ คนขับรถกับผู้ช่วยก็แต่งเครื่องแบบชุดเดียวกันดูเป็นหลักเป็นฐาน จะว่าไปก็มีสองจุดที่น่าสงสัยคือชายทั้งคู่ใส่แว่นตากลมอันโตเหมือนกัน และที่รถยนต์ไม่มีตราประจำตระกูลฟุกุดะติดอยู่ แต่แว่นตากลมกันฝุ่นแบบนั้นคนขับรถมักใช้กันโดยทั่วไป ส่วนตราประจำตระกูลนั้นอะเกะชิไม่เคยรู้จักคนตระกูลนี้มาก่อนจึงไม่ได้ใส่ใจ

ทว่า นักสืบย่อมเป็นนักสืบอยู่วันยังค่ำโดยเฉพาะนักสืบเอกอย่างอะเกะชิ โคะโงะโระ คือพอก้าวเท้าเยียบขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปนั่งบนรถนั้นเอง อะเกะชิก็ชะงักด้วยสัญชาติญาณของการป้องกันตัวจาก และทำท่าจะถอยออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ช้าไปเสียแล้ว...นักสืบเอกถูกคนขับรถที่อยู่ข้างหลังผลักเขาเข้าไปในรถอย่างไม่ปรานีปราศรัยด้วยกำลังแรง ส่วนผู้ช่วยคนขับที่อยู่ภายในรถก็ยื่นมือออกมาฉุดกระชากเขาเข้าไปอย่างแรงไม่แพ้กัน

“เฮ้ย พวกแก”

อะเกะชิตวาดลั่น แต่พอตั้งตัวได้และทำท่าจะกระโจนหนีออกไป คนขับรถที่ผลักเขาเข้าไปเมื่อตะกี้ก็กำหมัดแข็งราวท่อนเหล็กจ้วงเข้าที่จุดอ่อนตรงหน้าอกของเขา นั่นเป็นท่าหนึ่งของยูโดที่เหล่าร้ายถนัดกันนัก คนขับรถและผู้ช่วยคู่นี้ต้องเป็นสมัครพรรคพวกของเหล่าร้ายที่ปลอมตัวมาแน่นอน

เหตุเกิดที่หน้าสถานีใหญ่มีผู้คนไปมาพลุกพล่านในยามหัวค่ำ ถึงจะมีคนได้ยินเสียงกราดเกรี้ยวของอะเกะชิ แต่เสียงเช่นนั้นก็ไม่ใช่ของแปลกสำหรับหน้าสถานีใหญ่ ๆ เช่นนี้

รถยนต์คันนั้นแล่นไปบนถนนรถไฟที่สว่างไสวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเลี้ยวหายลับไปทางด้านฮิโระโคจิ โดยมีอะเกะชิ โคะโงะโระพระเอกของเรานอนหมดสติสิ้นท่าอยู่บนเบาะหลัง

ขอย้ำอีกครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความประมาทเลินเล่อของอะเกะชิเลยแม้แต่น้อย ไม่มีคำอธิบายอะไรจะเหมาะสมไปกว่าที่จะบอกว่า เหล่าร้ายกระทำการอุกอาจก้าวเกินหน้าตำรวจ เกินหน้านายฟุกุดะ เกินหน้า ฟุกุดะ โทะกุจิโร และ อะเกะชิ โคะโงะโระ ไปถึงสิบยี่สิบก้าว

มันเป็นแผนรุกฉับพลันทันทีราวสายฟ้าแลบรวดเร็วเกินกว่าตาจะจับได้ทันราวกับเล่นกล ยังไม่มีอาชญากรรมใด ๆ อุบัติขึ้นและการต่อสู้ก็ยังไม่เริ่มต้น แต่เหล่าร้ายประเดิมก่อนด้วยการจับนักสืบเอกอะเกะชิ โคะโงะโระ ศัตรูสำคัญที่สุดไปเป็นเชลย เหล่าร้ายที่จะทำเช่นนี้ได้นับว่าไม่ธรรมดา และอาชญากรรมที่พวกมันจะก่อขึ้นนั้นก็ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

ปริศนาที่ดำมืดอยู่ในขณะนี้คือ เหล่าร้ายรู้ได้อย่างไรว่าอะเกะชิเข้ามามีส่วนร่วมกับคดีนี้ รู้ได้อย่างไรว่ารถไฟที่เขาโดยสารมาจะเทียบชานชลา ณ เวลานั้นและนายฟุกุดะส่งรถยนต์ไปรับ แล้วรถยนต์ตัวจริงของนายฟุกุดะนั้นไปอยู่เสียที่ไหน บางทีคนขับรถคันนั้นกับผู้ช่วยอาจถูกทำร้ายเช่นเดียวกับอะเกะชิก็เป็นได้ แผนอุบาทของเหล่าร้ายเริ่มสำแดงเดชอันน่าสยองขวัญยิ่งนัก

***********
ทะมะมุระ เซ็นทะโร พ่อค้าเพชร เศรษฐีใหญ่ของโตเกียว
ทะมะมุระ อิชิโร บุตรชายคนโตของเซ็นทะโร
ทะมะมุระ จิโร บุตรชายคนที่สองของเซ็นทะโร
ทะมะมุระ ทะเอะโกะ บุตรสาวของเซ็นทะโร
ชินอิชิ ลูกกำพร้าในอุปการะของครอบครัวทะมะมุระ
ฟุกุดะ โทะกุจิโร นักธุรกิจ น้องชายร่วมสายโลหิตของเซ็นทะโร
โซะโนะโกะ โยโกะ เพื่อนของทะเอะโกะ
《มายากร》
ฟุมิโยะ ลูกสาวของ《มายากร》
สารวัตรนะมิโคะชิ แผนกสืบสวนและปราบปราม สำนักงานตำรวจกรุงโตเกียว
อะเกะชิ โคะโงะโระ นักสืบเอกชนเลื่องนาม



กำลังโหลดความคิดเห็น