xs
xsm
sm
md
lg

ทำความรู้จักกับ 13 สายพันธุ์ดอกซากุระสุดฮอตในญี่ปุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ถ้าพูดถึงดอกไม้ที่คนทั่วโลกรู้จักกันดีและยังเป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศญี่ปุ่นนั้นก็คงจะหนีไม่พ้น “ดอกซากุระ” (桜) อย่างแน่นอน โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระเริ่มผลิบานนั้น ไม่เพียงแต่คนญี่ปุ่นที่จะออกท่องเที่ยวไปชมความงามของดอกซากุระ ยังมีคนจากทุกสารทิศทั่วโลกก็นิยมมาชมความงามของดอกซากุระที่ญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน โดยในประเทศญี่ปุ่นมีซากุระหลากหลายสายพันธุ์มาก ที่จะเร่ิมผลิบานแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งวันนี้เราจะพาไปรู้จักซากุระแต่ละสายพันธุ์กันนะคะว่ามีความงดงามและแตกต่างกันอย่างไร ไปอ่านกันเลย

1.Somei Yoshina (Yoshino Cherry)
ช่วงเวลาที่บาน : ต้นเดือนเมษายน

ซากุระสายพันธุ์นี้จัดได้ว่าเป็นซากุระตัวท็อปของญี่ปุ่น เพราะเป็นสายพันธุ์ที่มีมากที่สุดในญี่ปุ่น เริ่มกำเนิดตั้งแต่สมัยเอโดะที่โตเกียวเป็นแห่งแรก ลักษณะของดอกมีสีขาวอมชมพูอ่อน ๆ มี 5 กลีบดอก และใบสีเขียวจะยังไม่ผลิ จนกว่าดอกซากุระจะบานเต็มต้น ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าต้นซากุระสายพันธุ์นี้ จะมีแต่ดอกซากุระบานสะพรั่งเต็มทั้งต้น

2.Yamazakura
ช่วงเวลาที่บาน: ต้นเดือนเมษายน

Yamazakura ก็เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยมักจะขึ้นเองตามธรรมชาติบนภูเขาหรือในป่า ซึ่งจะแตกต่างกับซากุระสายพันธุ์ Somei Yoshino ลักษณะของดอกจะมีห้ากลีบ และมีเกสรขนาดเล็ก ๆ ใบสีเขียวจะผลิออกพร้อม ๆ กับการบานของดอกซากุระ ดังนั้น จึงทำให้บางครั้งก็จะไม่เห็นสีชมพู ของดอกซากุระที่บานแบบอลังการงานสร้างทั้งต้น เหมือนกับสายพันธุ์ Somei Yoshino

3.Shidarezakura (Weeping Cherry)
ช่วงเวลาที่บาน: ต้นเดือนเมษายน

Shidarezakura เป็นอีกสายพันธุ์ของซากุระที่พบเห็นได้ทั่วไป และเป็นที่ชื่นชอบในญี่ปุ่น โดยจะมี 2 ชนิดด้วยกันคือ ชนิดที่มี 5 กลีบดอก และชนิดที่มีมากกว่า 5 กลีบดอก โดยอย่างหลังจะบานช้ากว่าอย่างแรกประมาณหนึ่งอาทิตย์ นอกจากนี้ลักษณะของต้นจะมีลักษณะเด่นกว่าใครก็คือ จะมีกิ่งที่โน้มต่ำ และดอกที่ไหลย้อยห้อยลงตามกิ่งเพิ่มเสน่ห์และความสวยงามให้กับต้นซากุระสายพันธุ์นี้ไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Yaeshi-darezakura ค่ะ

4.KANZAKURA
ช่วงเวลาที่บาน: ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนมีนาคม

Kanzakura เป็นดอกซากุระสายพันธุ์แรก ๆ ที่จะบานก่อนใครเพื่อน มาเอาใจนักท่องเที่ยวที่มานอกฤดูซากุระ โดยเฉพาะสำหรับใครที่ไปญี่ปุ่นก่อนช่วงเวลาที่ดอกซากุระบานเต็มที่ ก็จะมีโอกาสได้ชมซากุระสายพันธุ์นี้ก่อนค่ะ สามารถไปหาชมได้ตามสวนสาธารณะใหญ่ ๆ หลายแห่ง ซึ่งอาจจะไม่มีจำนวนมากนัก แต่ก็สามารถเห็นได้ค่ะ

5.Kawazuzakura
ช่วงเวลาที่บาน: กลางเดือนมีนาคม

Kawazuzakura ถูกตั้งชื่อตามชื่อเมือง Kawazu ที่ Izu ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปลูกซากุระหลากหลายสายพันธุ์ จุดเด่นของสายพันธุ์ Kawazuzakura ก็คือเป็นสายพันธุ์หนึ่งที่บานก่อนใครเพื่อน ลักษณะกลีบดอกจะใหญ่ และมีสีชมพู นอกจากนี้ยังมีเทศกาลชมซากุระที่มีชื่อเสียงของเมือง Kawazu ด้วยคืองาน “KAWAZU SAKURA MATSURI (河津桜まつり) ที่จะมีตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ยาวไปจนถึงเดือนมีนาคมค่ะ

6.Kanhizakura
ช่วงเวลาที่บาน: โตเกียว (กลาง-ปลายเดือนมีนาคม), โอกินาว่า (เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์)

ซากุระสายพันธุ์นี้มีลักษณะเด่นก็คือกลีบดอกจะมีรูปทรงเป็นรูปกระดิ่ง และมีสีชมพูเข้มกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ โดยดั้งเดิมเป็นซากุระที่จะบานในไต้หวัน และมีมากในแถบโอกินาว่า เพราะเนื่องจากโอกินาว่าเป็นเขตอบอุ่น จึงทำให้ซากุระสายพันธุ์นี้บานเร็วกว่าที่อื่น ๆ ซึ่งจะบานในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ส่วนในแถบโตเกียว จะไม่บานจนกว่าจะเข้าสู่กลางเดือนมีนาคม แต่ก็ยังนับว่าบานเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ อยู่ดีค่ะ

7.Ichiyo
ช่วงเวลาที่บาน: กลางเดือนเมษายน

Ichiyo เป็นซากุระสายพันธุ์ที่มีกลีบดอกเยอะมาก มีมากถึง 20 กลีบดอกเลยทีเดียว จึงทำให้ดอกซากุระสายพันธุ์นี้ ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ สวยงามอ่อนหวานด้วยสีชมพูอ่อน ๆ พาสเทล และเป็นอีกพันธุ์หนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปตามสวนสาธารณะในญี่ปุ่นค่ะ

8.Ukon
ช่วงเวลาที่บาน: กลางเดือนเมษายน

Ukon ก็เป็นอีกสายพันธุ์ที่มีกลีบดอกเยอะเหมือนกันกับสายพันธุ์ Ichiyo คือมีกลีบดอกประมาณ 10-20 กลีบดอก สำหรับสายพันธุ์นี้จะมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากซากุระสายพันธุ์อื่นๆ ก็คือตัวกลีบดอกจะมีสีเหลือง และมีใบสีออกแดงส้ม

9.Kanzan
ช่วงเวลาที่บาน: กลาง-ปลายเดือนเมษายน

Kanzan เป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่หาดูได้ง่ายตามสวมสาธารณะต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีกลีบดอกมากกว่า 20-30 กลีบดอก กลีบดอกมีสีชมพูเข้มและใบมีสีน้ำตาลแดง สวยเด่นสีสดมาก ๆ ค่ะ

10.Fugenzo
ช่วงเวลาที่บาน: กลาง-ปลายเดือนเมษายน

Fugenzo เป็นซากุระอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีกลีบดอกเยอะมาก ๆ คือ 30-40 กลีบดอก เยอะกว่าสายพันธุ์ Kanzan ซากุระเสียอีก โดยจุดเด่นของซากุระสายพันธุ์นี้คือ ตอนที่บานใหม่ ๆ จะมีสีขาวอมชมพูอ่อน ๆ และสีจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนใบจะเป็นสีน้ำตาลแดง

11.Shogetsu
ช่วงเวลาที่บาน: กลาง-ปลายเดือนเมษายน

Shogetsu เป็นซากุระสายพันธุ์ที่บานช้า โดยกลีบดอกใหญ่ และมีสีขาว มีจำนวนกลีบดอก 20 -30 กลีบดอกเรียงซ้อน ๆ กัน ส่วนใบจะมีสีเขียว

12.Kikuzakura (Chrysanthemum Cherry)
ช่วงเวลาที่บาน: ปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม

Kikuzakura เป็นซากุระสายพันธุ์ที่มีจุดเด่นคือ มีกลีบดอกมากสุด ๆ มากขนาดที่กลีบดอกมีกว่าร้อยกลีบดอกเลยทีเดียว Kikuzakura จะบานช้ากว่าซากุระสายพันธุ์อื่น ๆ ในช่วงที่ซากุระบานใบจะผลิออกมาพร้อม ๆ กับการบานของดอก และดอกก็มักจะโดนใบมาแย่งซีนความงามไปเสียทุกครั้งเพราะใบใหญ่มากค่ะ

13.Jugatsuzakura (Autumn Cherry)
ช่วงเวลาที่บาน: เดือนตุลาคม – มกราคม รวมถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ

Jugatsuzakura คำว่า Jugatsu ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง เดือนตุลาคม ดังนั้นซากุระสายพันธุ์นี้จึงแปลความหมายของชื่อได้ตรงตัวว่าเป็น “ซากุระในเดือนตุลาคม” และจัดได้ว่าเป็นซากุระที่บานในช่วงเวลาที่ต่างจากสายพันธุ์อื่น ๆ คือจะบานในช่วงฤดูใบไม้ร่วงไปจนถึงฤดูหนาว ถึงแม้ว่าดอกจะเล็กและกระจัดกระจาย แต่ความงามของซากุระในหน้าหนาวนั้นโดดเด่นไม่แพ้ใครเลยทีเดียวค่ะ

หวังว่าอ่านบทความนี้แล้ว ต่อไปนี้ถ้าจะมาชมซากุระที่ญี่ปุ่นก็คงจะได้ความรู้และทำความรู้จักกับดอกซากุระแต่ละประเภทกันแล้วนะคะ … ก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันนะคะว่าดอกซากุระมีมากถึง 13 สายพันธุ์เชียว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org




กำลังโหลดความคิดเห็น