บรรดาเจแปนแฟนคลับคงคุ้นเคยกับ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ และ ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน แต่ในญี่ปุ่นยังมีสวนสนุกอีกหนึ่งหนึ่งที่เคยรุ่งโรจน์ แต่ต้องร่วงโรยในเวลาต่อมา จนกลายเป็นเมืองร้างที่เต็มไปด้วยบรรยากาศชวนหลอน ที่ “นาระ ดรีมแลนด์”
“นาระ ดรีมแลนด์” ที่เมืองนาระ ใกล้กับนครโอซากาและเกียวโต เคยมีอดีตที่รุ่งเรืองนานถึง 45 ปี เปิดตัวในปี 1961 จะปิดลงในเดือนสิงหาคมปี 2006 โดยผู้ก่อตั้งคือ “คะนิซุ มัตสึโอะ” นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นได้ไปเยือนดิสนีย์แลนด์ที่สหรัฐอเมริกาในช่วงปี 1950 และประทับใจอย่างยิ่ง จึงได้พบกับ วอลท์ ดีสนีย์ เจ้าของต้นตำรับสวนสนุกและการ์ตูนดังเพื่อเจรจาขอสร้าง “ดิสนีย์แลนด์ เจแปน” ที่เมืองนาระ
คะนิซุ มัตสึโอะได้สร้างสวนสนุกขึ้นแบบเดียวกับที่เขาประทับใจที่อเมริกา และได้มีการวางเงินจำนวนหนึ่งเพื่อให้ทางสหรัฐช่วยออกแบบสวนสนุกให้เหมือนดิสนีย์แลนด์ที่สหรัฐเกือบทุกอย่าง แต่ในขั้นตอนสุดท้ายกลับตกลงกันไม่ได้เรื่องค่าลิขสิทธิ์ของตัวการ์ตูนของดิสนีย์ ทำให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจสร้างตัวการ์ตูนและสวนสนุกแบบของตัวเองขึ้น
“นาระ ดรีมแลนด์” เปิดบริการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1961 มีรถไฟเหาะ, ปราสาทเจ้าหญิง, ม้าหมุน และขบวนพาเหรดตัวการ์ตูนเหมือนดีสนีย์แลนด์ที่สหรัฐ ทำให้ชาวญี่ปุ่นตื่นเต้นกันมากและหลั่งไหลมาเที่ยว โดยในยุครุ่งเรืองมีผู้มาเยือนมากกว่า 1 ล้าน 6 แสนคนต่อปี
สวนสนุกที่เมืองนาระคึกคักอยู่นานกว่า 20 ปี จนกระทั่งมีการเปิดตัวโตเกียว ดิสนีย์แลนด์ในวันที่ 15 เมษายน 1983 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวของ “นาระ ดรีมแลนด์” ลดลงอย่างมาก เพราะผู้คนต่างมุ่งไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ตัวจริงเสียงจริงที่โตเกียว จนต้องขายกิจการให้กับ “ไดเออิ” เครือข่ายซุปเปอร์มาเกตยักษ์ใหญ่ในปี 1993
หลังจากโตเกียว ดิสนีย์ซี เปิดตัวในปี 2001 และยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน เปิดตัวที่นครโอซากา ที่อยู่ห่างจากเมืองนาระแค่ 40 กม. กิจการของ “นาระ ดรีมแลนด์” ก็แทบจะปิดฝาโลง นักท่องเที่ยวที่เคยมีเกินกว่าล้านคน ลดลงเหลือแค่ไม่ภึง 400,000 คนต่อปี ทำให้คุณภาพของสวนสนุกลดลงอย่างมาก เนื่องจากไม่มีเงินมาซ่อมแซมเครื่องเล่น และพัฒนาสิ่งดึงดูดใจใหม่ ๆ ร้านค้าทยอยปิดตัวลง เครื่องเล่นต่าง ๆ ก็พังเสียหายและกลายเป็นซาก จนสวนสนุกปิดลงโดยบริบูรณ์ในเดือนสิงหาคมปี 2006
นับจากนั้น “นาระ ดรีมแลนด์” ก็ถูกทิ้งร้างนานนับ 10 ปี จนกระทั่งเจ้าของเสียชีวิตลง และไม่สามารถจ่ายภาษีที่ดินได้ จึงถูกยึดให้เป็นสมบัติของรัฐบาลเมืองนาระ
รัฐบาลเมืองนาระนำพื้นที่ของสวนสนุกออกประมูลในปี 2013 แต่ไม่มีใครสนใจสู้ราคา และนำออกประมูลอีกครั้งในปี 2015 โดยคราวนี้บริษัท SK Housing จากนครโอซากาชนะการประมูลด้วยมูลค่า 730 ล้านเยน
เจ้าของใหม่ได้เริ่มเข้าพื้นที่เพื่อรื้อถอนเศษซากต่าง ๆ ในปลายปี 2016 และคาดว่าจะใช้เวลานานกว่า 1 ปีจึงจะรื้อถอนเสร็จสิ้น ปิดตำนานอดีตสวนสนุกที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่เหลือร่องรอย
แต่ในช่วงที่ถูกทิ้งร้าง “นาระดรีมแลนด์” ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวนอกกระแส ที่คนกลุ่มหนึ่งนิยมไปท้าความผวา หรือสำรวจปรากฏการณ์แปลก ๆ ที่ร่ำลือกัน และนักร้องชาวสหรัฐ Bohnes ก็ได้ใช้ที่นี่ถ่ายทำมิวสิกวีดิโอเพลง "Six Feet Under" ที่ให้บรรยากาศชวนขวัญผวาไม่น้อย.