เอเจนซี – รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหา นักท่องเที่ยวต่างชาติป่วย ต้องเข้ารับบริการทางสาธารณสุขแต่ไม่มีเงินจ่าย ยกเคสหญิงต่างชาติที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อคลอดก่อนกำหนด แต่ไม่มีเงินชำระค่าบริการ 8 ล้านเยน เผยเดือนพฤษภาคมนี้เป็นรูปเป็นร่าง
วานนี้ (8 มี.ค.) แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยกับสำนักข่าวเกียวโดว่า ในเดือนพฤษภาคม 2561 นี้รัฐบาลจะออกร่างมาตรการเพื่อช่วยหน่วยงานด้านสาธารณสุขต่าง ๆ ที่อาจประสบปัญหาด้านการเก็บค่าบริการเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ารับบริการ และเพื่อแก้ปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรม
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนญี่ปุ่นนั้นเพิ่มขึ้นสูงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยค่าเงินเยนที่อ่อน การกระตุ้นการท่องเที่ยวจากนโยบายยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ ทำให้สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติในปีที่แล้วนั้นพุ่งสูงถึง 28.69 ล้านคน เทียบกับปี 2553 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนญี่ปุ่นเพียง 8.61 ล้านคน
ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อจัดการกับปัญหาการเจ็บป่วยของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำคู่มือสำหรับการรับรองคนไข้ต่างชาติให้กับบุคลากรทางการแพทย์ได้นำไปใช้ และกระตุ้นให้รัฐบาลท้องถิ่นเปิดบริการให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยชาวต่างชาติด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นก็กำลังปวดหัวกับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ารับบริการด้านสาธารณสุขแต่ไม่มีเงินจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากนักท่องเที่ยวบางส่วนไม่ได้ซื้อประกันการเดินทางมา โดยมีกรณีหนึ่งที่ ผู้หญิงชาวต่างชาติต้องคลอดบุตรก่อนกำหนดระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ทว่า ไม่มีเงินจ่ายค่าทำคลอดจำนวน 8 ล้านเยน (ราว 2.35 ล้านบาท) จนต้องมีการขอเรี่ยไรบริจาคเงิน
ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือ หน่วยงานด้านสาธารณสุขของญี่ปุ่นประสบปัญหากับการส่งศพของชาวต่างชาติที่เสียชีวิตอย่างกะทันหันระหว่างอยู่ในญี่ปุ่นกลับประเทศ
สำหรับคณะทำงานดังกล่าวจะถูกตั้งขึ้นตามนโยบายด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของรัฐบาลกลาง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง สมาคมการแพทย์ญี่ปุ่น และกลุ่มโรงพยาบาลในญี่ปุ่นเข้าร่วมด้วย โดยส่วนหนึ่งคณะทำงานจะกระตุ้นให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขจ้างล่ามแปลภาษาเพิ่มขึ้น และนำเครื่องแปลอัตโนมัติเข้ามาใช้ นอกจากนี้ยังต้องมีการหารือกันถึงการสร้างระบบที่ช่วยลดภาระทางการเงินให้กับหน่วยงานด้านสาธารณสุขหากต้องรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าด้วย