สนามบินคันไซของญี่ปุ่นกำลังพบปัญหานักท่องเที่ยวทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้มากมาย เดือนละกว่า 50 ใบ จนทางสนามบินไม่มีที่เก็บ
เจ้าหน้าที่ของสนามบินคันไซในนครโอซากาของญี่ปุ่นระบุว่า แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ที่สนามบินเฉลี่ย 2 ใบ โดยคาดว่าบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติได้ซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหม่ที่ญี่ปุ่นจึงทิ้งใบเก่าไว้ แต่กระเป๋าเดินทางที่ถูกทิ้งไว้นี้สร้างปัญหาให้กับทางสนามบินในการกำจัดทิ้ง
ในประเทศญี่ปุ่น การทิ้งของขนาดใหญ่จะต้องเสียค่าใช้จ่าย นักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงไม่สามารถทิ้งกระเป๋าเดินทางที่ไม่ใช้แล้วไว้ที่โรงแรมได้จึงเลือกที่จะทิ้งไว้ที่สนามบิน ในแต่ละเดือนสนามบินคันไซต้องจัดการกับกระเป๋าเดินทางที่นักท่องเที่ยวทิ้งไว้มากกว่า 50 ใบ โดยเกือบทั้งหมดเป็นกระเป๋าเปล่าหรือกระเป๋าที่เสียหาย
กระเป๋าเดินทางส่วนใหญ่ถูกวางทิ้งไว้ข้างถังขยะ โดยถึงแม้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะพบเข้าและเตือน แต่นักท่องเที่ยวก็ยังนำกระเป๋าเดินทางไปวางทิ้งที่อื่นๆ อยู่ดี
กระเป๋าเดินทางที่ถูกทิ้งไว้จะถูกตรวจสอบว่าภายในไม่มีสิ่งของอันตราย และเมื่อยืนยันได้ว่าเป็น “ขยะ” ที่ถูกทิ้งแน่นอนแล้ว ก็จะถูกขนย้ายไปยังสถานที่เก็บ แต่กระเป๋าเดินทางที่ถูกทิ้งเป็นภูเขาเลากานี้ได้เพิ่มทั้งภาระงานและค่าใช้จ่ายในการขนย้ายและกำจัด
สำหรับในกรณีที่พบสิ่งของภายในหรือเป็นกระเป๋าที่ถูกลืมไว้ ทางสนามบินจะเก็บรักษาไว้ 1 สัปดาห์ จากนั้นจะนำส่งให้กับสำนักงานตำรวจประจำสนามบินคันไซ ในปี 2017 มีกระเป๋าเดินทางที่ถูกเก็บไว้มากถึง 258 ใบ เพิ่มขึ้นจากปี 2013 กว่า 2 เท่าตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าเกือบทั้งหมดไม่มีเจ้าของมารับคืน
สำนักงานตำรวจประจำสนามบินคันไซ ระบุว่า ขณะนี้สถานที่เก็บไม่เพียงพอแล้ว โดยตามกฎหมายของญี่ปุ่น ของที่สูญหายจะถูกเก็บรักษาไว้ราว 3-5 เดือน หลังจากนั้นจะถือว่าตกเป็นทรัพย์สินของรัฐ ซึ่งจะถูกรวบรวมไว้และหากเป็นของที่มีมูลค่าก็จะถูกนำออกประมูลขายปีละ 4 ครั้ง.