สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว อาทิตย์ที่แล้วมีเพื่อนๆ หลายคนมาร่วมแสดงความคิดเห็น ขอบคุณครับ อาทิตย์ที่แล้วพูดเรื่องรถ Gaisensha มีลักษณะคล้ายรถประกาศหาเสียงเลือกตั้ง อาจจะเป็นรถสีดำ แต่ก็มีสีอื่นอยู่บ้าง ตัวรถมีป้ายติดเต็มไปหมด มีธงโบก มีเครื่องเสียง ติดลำโพงดังไปสามบ้านแปดบ้าน และจะมีคนใส่ชุดดำหรือชุดทั่วไปก็มี ขึ้นไปยืนพูดบ่นว่าใครคนใดคนหนึ่ง หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เครื่องเสียงที่ติดกับรถก็ดังพอจะสร้างความรำคาญหรือความอับอายให้คนที่ถูกรถดังกล่าวมาจอดต่อว่า และรถพวกนี้ก็มักจะอ้างตนว่าต่อต้านคอมมิวนิสต์ อยู่พวกเดียวประชาชน เชิดชูจักรพรรดิ และมีความเกี่ยวพันธ์กับธุรกิจยากุซ่าด้วย
คราวที่แล้วมีเพื่อนๆ หลายคนมีประสบการณ์เคยเจอยากุซ่า เคยไปทานอาหารร้านที่มีเจ้าของเป็นยากุซ่าด้วย น่าตื่นเต้นดีนะครับ ผมเองครั้งหนึ่งก็เคยไปร้านอาหารแล้วบังเอิญเจอพวกที่แสดงตัวว่าเป็นยากุซ่าเหมือนกัน
* ร้านซูชิ ฟังบทสนทนาของยากุซ่า
ตอนที่ผมเข้าทำงานใหม่ๆ มีรุ่นพี่คนหนึ่งแนะนำให้ผมได้เข้าไปทานซูชิที่ร้านเล็กๆ ร้านหนึ่ง เป็นร้านที่เจ้าของบ้านเปิดร้านทำซูชิขายเอง อาหารอร่อยมาก มื้อเย็นแพงหน่อย แต่มื้อกลางวันจะราคาถูกลง มื้อกลางวันที่นี่เป็นเมนูซูชิที่จัดมาเป็นเซ็ทตามความพอใจของคนทำอาหาร ว่าเชฟแกจะทำซูชิหน้าอะไรมาให้ เรียกว่า お任せ Omakase Sushi 🍣 ร้านนี้แปลกกว่าร้านอาหารอื่นๆ ทั่วไป เพราะที่นี่ตามใจคนขายไม่สนลูกค้า ฮ่าๆ จะมีระบบการบริการที่มีลักษณะคล้ายๆ กับโรงชาชั้นดีที่เกียวโต คือถ้าไม่มีลูกค้าเก่าที่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนเป็นผู้แนะนำหรือพามา ลูกค้าใหม่จะเดินเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าเองไม่ได้เชียวนะ ร้านนี้ก็เช่นกันถ้ารุ่นพี่ไม่พาผมมา ร้านเขาอาจจะไม่ต้อนรับผมก็ได้ เพราะขึ้นอยู่กับอารมณ์เจ้าของจริงๆ วันที่อากาศดี อาจยอมปล่อยให้ลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาบ้างแล้วแต่ดวง ( ̄ー ̄*)
พอได้มาเป็นลูกค้าครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อๆ ไปผมก็สามารถมาเองได้ หรืออยากจะพาเพื่อนมาอีกก็ได้ แต่ก็แล้วแต่ความพึงพอใจของเจ้าของร้านอีกนะว่าจะจัดซูชิหน้าอะไรมาให้ทานบ้าง ทุกครั้งที่ผมมากับรุ่นพี่ ลุงเจ้าของร้านจะจัดซูชิที่ค่อนข้างพิเศษมาให้ ในเซ็ทของซูชินั้นจะมีซูชิหน้าอูนิมาให้ทุกที อูนิซูชิคือ ซูชิหน้าไข่หอยเม่นที่ค่อนข้างเป็นของหายากจากท้องทะเลและมีราคาค่อนข้างแพงสักหน่อย ถ้าผมมาคนเดียวก็ยังจัดอูนิมาให้ มีวันหนึ่งผมพาเพื่อนใหม่มาทาน เขาไม่จัดอูนิมาให้ครับ ฮ่ะ ๆ แล้วแต่อารมณ์คนขายจริงๆ เลยเนี่ยร้านนี้ ยิ่งถ้าวันไหนฝนตกนะ ลูกค้าใหม่อย่าคิดจะเข้ามาหลบฝนโดยทำเป็นสั่งอาหาร ผมเคยนั่งๆ ทานอาหารอยู่ แล้วมีลูกค้าที่เข้าร้านมาในวันนั้นฝนตกพอดีครับ โดนคนขายบอกว่า วันนี้ร้านหยุด !! เฉยเลย ลักษณะการขายของร้านนี้ถึงแม้จะไม่ใช่เป็นร้านของยากุซ่า แต่ก็มีลักษณะอิสระที่อาจจะเรียกได้ว่า ヤクザな自営業 Yakuza na business คือ อาชีพอิสระแบบยากุซ่าได้ ( แต่ไม่ใช่ยากุซ่านะครับ )
วันหนึ่งผมไปทานอาหารกลางวันที่ร้านนี้คนเดียว เพราะรุ่นพี่พักเที่ยงคนละเวลา ปกติที่นี่ก็ไม่รับลูกค้ามากมายอยู่แล้ว ครั้งหนึ่งสัก 4 คนก็หรูแล้ว วันนั้นมีผมกำลังนั่งกินอยู่คนเดียว กับเจ้าของที่เป็นพ่อครัวยืนทำนู้นนี่นั่นอยู่หลังเคาว์เตอร์บาร์ซูชิ ทันใดนั้นเองก็มีชาย 2 คนเดินตรงดิ่งเข้ามา คนหนึ่งใส่ชุดสูทสีแดง อีกคนใส่สูทสีน้ำเงิน ทั้งสองคนตรงเข้ามานั่งที่บาร์ข้างๆ ผม แล้วคุยเสียงดังกับคนขาย เนื้อหาที่สองคนนั้นคุย จะคุยด้วยเสียงดัง ภาษาไม่สุภาพ เช่น ร้านค่อดเล็กเลยเน้พ่อค้า ! คนขายก็ตอบแบบถ่อมตัวขนาดอายุมากกว่าพวกนั้นหลายสิบปี หรืออาจจะมากกว่าคุณพ่อของสองคนนั่นได้เลย ...เอาปลาดีๆ มาทำซูชิรึเปล่าเนี่ย แล้วไม่โทรแจ้งลูกค้าให้มากินรึไง ?! คนขายก็แบ่งรับแบ่งสู้ และปลีกตัวไปทำซูชิ จากนั้นสองคนก็คุยกันเอง ส่วนผมที่กำลังคุยกับคนขายสนุกๆ กำลังกินอร่อยๆ ก็กร่อยเลยสิครับ ต้องรีบกินอย่างสปีดอัพ จะได้รีบออกไปสะที ที่นั่งอยู่ข้างๆ สองคนนี่ผมแบบตัวลีบเอาลีบเอา
ที่จริงผมกับคนขายแอบส่งซิกกันตั้งแต่สองคนนั้นเดินเข้ามาแล้วล่ะ ซวยละ พวกยากุซ่าแน่ เพราะพวกยากุซ่านี้ต้องแสดงตัว เด่นสะดุดตา ไม่ปกติ พื้นบ้านทั่วไปไม่ได้ๆ ( ยากุซาต้องโชว์ให้คนรู้ว่าเป็นยากุซ่า ถ้าไม่รู้ก็ไม่มีความหมาย) แล้วยิ่งบทสนทนาที่ทั้งสองคุยกันนั้นยิ่งฟังแล้วอยากเดินออกไปไกลๆ น่าจะคุยกันเรื่องธุรกิจของเหล่ายากุซ่า 怖うぇええぇぇえ!Σ(´゚д゚`;)))แต่ว่าต้องรีบกินซูชิให้หมดก่อน
🚍เขาคุยกันเรื่องธุรกิจของเขา シノギ Shinogi 🍒
٩((# ゚Д゚)وสูทแดง: แบบเน้เรียกใช้ Gaisensha เลยดีก่ามั้งลูกเพ้ ! ยอมมันไม่ได้หรอก一気に追い込みかけてやりましょうYO!!!
(▼~,▼ )สูทน้ำเงิน: ไอ้น้อง เมิงจะเอา Gaisensha มาได้ไง ถ้าทำกำไรไม่มากกว่า 5 แสน เอ็งก็ขาดทุนยับสิว่ะ ค่ารถก็ 5 แสนแล้วเด้ะ
٩((# ゚Д゚)وสูทแดง: และจะเอางัยกับมันเดะ ?!...
และอีกมากมาย บลา บลา ขณะนั้นผมก็รีบจ้ำกินเต็มที่ เสร็จแล้ว จึงเตรียมจะยืนขึ้นเพื่อรอคนขายหันมา
"(▼д,▼ )สูทน้ำเงิน: เห้ คนขาย เช็คบิล !!
ผม: (´ ∀` ; )"……
เขาเรียกคนขายแทนผม ที่กำลังยืนเหงื่อตกเลย เรื่องนี้ผมจำได้ดี แต่เป็นช่วงหน้าร้อนหรือหน้าหนาวนี่จำไม่ได้เลยรู้แต่ว่า เหงื่อท่วมตัว ! จ่ายเงินแล้วรีบเดินออกไปทันที แต่มานึกได้อีกทีว่าลืมกินอาหารไปอีกจานนี่นา แว้กซ์~เสียดาย
* หัวหน้าเก่าผมเดินไปไล่พวก Gaisensha
จากเรื่องตอนที่แล้วที่เล่าว่า ครั้งหนึ่งตอนที่ผมยังทำงานที่ญี่ปุ่น ออฟฟิศผมก็เคยโดยพวก Gaisensha มาจอดรถป่าวประกาศด่า 2-3 ครั้ง รู้สึกว่าน่ารำคาญมาก เหมือนพวกยุงรำคาญมาบินรอบข้างหู ครั้งหลังๆ ผมก็ย้ายขึ้นไปแผนกที่อยู่บนตึกชั้นสิบกว่า เลยได้ยินเบาลงมาหน่อย ..มาคิดดู ไม่รู้ 2 คนสูทแดงสูทน้ำเงินนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งรถ Gaisensha มาป่วนรึเปล่าน้ะเนี่ย
ตอนที่ผมเพิ่งเรียนจบและเข้าทำงานใหม่ๆ เดือนเมษายนถือเป็นเดือนที่คนญี่ปุ่นจะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเปิดภาคเรียน การเริ่มงานใหม่ของพนักงานใหม่ การโยกย้ายงานหมุนเวียนไปแผนกอื่นๆ เพราะปกติที่ญี่ปุ่นมีระบบเปลี่ยนแปลงหรือโยกย้ายงานในองค์กรเดียวกันบ่อยมาก บางคนทำแค่ 2 ปีก็อาจโดนเปลี่ยนแปลงไปฝ่ายอื่นได้ ถือเป็นเรื่องทั่วไปที่ทุกคนต้องเจอ ตอนที่ผมได้เข้าไปทำงานที่แผนกนั้น เป็นช่วงเดียวกับการเปลี่ยนหัวหน้าแผนกคนใหม่ มีแต่คนเล่าให้ฟังว่า หัวหน้าคนเดิมก่อนที่ผมจะเข้ามา สมมุตว่าชื่อ "หัวหน้าเหมียว 宮尾課長(仮名)🐈 Miyao kachō"🐾 แล้วกันนะครับ หัวหน้าเหมียวเป็นหัวหน้าที่ได้รับความนิยมจากลูกน้องมากๆ เพราะเค้าเก่ง สามารถคุ้มกะลาหัวลูกน้องได้ดี คือเป็นที่พึ่งพิงได้ดีมาก ใครๆ ก็นิยมชมชอบและกล่าวถึง อย่างตอนที่ออฟฟิศผมโดนพวก Gaisensha มาจอดรถป่าวประกาศด่านั้นมีคนเล่าว่า ตอนนั้นหัวหน้าเหมียวลงไปหาพวกที่มาป่าวประกาศเลยล่ะครับ เอากับแกสิ แกกล้ามาก การมีเรื่องกับยากุซ่านี่ไม่มีใครกล้านะครับท่าน ไม่มีใครเสี่ยงเข้าไปชนด้วยหรอกเพราะมีสิทธิ์เจ็บตัวฟรี แถมเคยมีข่าวโดนพวกรถ Gaisensha รุมทำร้ายด้วย แต่หัวหน้าเหมียวครับแกลงไปแล้วบอกพวกนั้นว่า
หัวหน้าเหมี่ยว : ไหนขอดูใบปลิวหน่อยสิ?
พวกรถ Gaisensha ส่งเอกสารให้
หัวหน้าเหมี่ยว : เขียนอะไรมาล่ะเนี่ย ตัวอักษรก็ผิด!!
พวกรถ Gaisensha งง?!?฿@ อึ้ง ?&&@@ (´・_・`) (´・_・`) (´・_・`) คงจะดูๆ แล้วว่าสงสัยเรียกร้องเงินจากที่นี่ไม่ได้แน่แล้ว เลยกระจายตัว กลับไปโดยดี ..
แกไม่ได้ทำไรมากหรอกแต่กล้าหาญมาก และฉลาดจะแสดงออก ทำให้พวกยากุซ่าหน่ายและส่ายหน้ากลับไปเลย ผิดกับหัวหน้าใหม่ที่ย้ายมาพร้อมกับที่ผมเข้ามาราวฟ้ากับดินเลย เพราะตอนที่รถ Gaisensha มาอีก แกก็น่าเครียด นั่งบ่นพึมพำเหมือนสวดมนต์ นั่งหลบอยู่มุมเล็กๆ ของแกไปครับ โถ่น่าสงสาร (ลูกน้อง)
ทำไมหัวหน้าคนหนึ่งเป็นที่นิยม แต่อีกคนทุกคนส่ายหน้า นอกจากตัวอย่างจากกรณีการจัดการกับรถ Gaisensha แล้ว ครั้งหนึ่งพวกผมไปธุระขององค์กร นั่งรถไฟชินกันเซน🚅จากโตเกียวไปฮิโรชิมา ก็หลายชั่วโมงเหมือนกันถ้านั่งเฉยๆ ไม่มีอะไรคุยก็ดูจะกร่อยๆ ไปสักหน่อยไหม วันนั้นมีรุ่นพี่คนหนึ่งหิ้วเบียร์ขึ้นรถไปด้วย เขาเอาไปให้หัวหน้าเหมียว แม้ว่าดูภายนอกจะมีท่าทางน่ากลัวใช่เล่น แต่หัวหน้าเหมียวตบหลังรุ่นพี่เบาๆ แล้วชมว่าเยี่ยมเลยเอาเบียร์มากินกัน พร้อมกับหัวเราะสนุกสนานมีเรื่องมีราวคุยกันได้ต่อ กลับกันรุ่นพี่เอาเบียร์ไปให้หัวหน้าคนที่ย้ายมาพร้อมผม เขาดุบอกว่านี่มันเวลางานนะ จะกินเบียร์ได้ยังไง! คนให้ก็ต้องเดินถอยหลังกลับมาที่นั่งตัวเองอย่างเงียบๆ ที่ใครที่มันครับผม
หัวหน้าเหมียว แม้ว่าจะหน้าดุ ตัวใหญ่ น่าเกรงขาม มีคนเกรงแต่ทุกคนชอบ ขณะที่นั่งทานข้าวกลางวันกันมีคำสอนจากชายกลางคนที่ดูหน้าดุบอกว่า “รู้มั้ยว่าน้องหมาผูกกับคน แต่น้องแมวผูกกับสถานที่“ ตอนทานอาหารกล่องมื้อกลางวันครับ อยู่ๆ แกก็พูดลอยๆ ออกมาสะงั้น อารมณ์ขันของคนญี่ปุ่นอาจจะต่างกับคนไทยอยู่บ้าง แต่พวกผมนั่งอึ้งมากที่ หัวหน้าเหมียว สอนเรื่องหมากับแมว คือนึกถึงคนบุคลิกดุโหดแต่พูดเรื่องหมาแมว เข้าใจได้เลยว่าทำไมใครๆ ก็ชอบเขา เพื่อนๆ มีหัวหน้าในดวงใจไหมครับ เป็นอย่างไรบ้าง วันนี้สวัสดีครับ
คราวที่แล้วมีเพื่อนๆ หลายคนมีประสบการณ์เคยเจอยากุซ่า เคยไปทานอาหารร้านที่มีเจ้าของเป็นยากุซ่าด้วย น่าตื่นเต้นดีนะครับ ผมเองครั้งหนึ่งก็เคยไปร้านอาหารแล้วบังเอิญเจอพวกที่แสดงตัวว่าเป็นยากุซ่าเหมือนกัน
* ร้านซูชิ ฟังบทสนทนาของยากุซ่า
ตอนที่ผมเข้าทำงานใหม่ๆ มีรุ่นพี่คนหนึ่งแนะนำให้ผมได้เข้าไปทานซูชิที่ร้านเล็กๆ ร้านหนึ่ง เป็นร้านที่เจ้าของบ้านเปิดร้านทำซูชิขายเอง อาหารอร่อยมาก มื้อเย็นแพงหน่อย แต่มื้อกลางวันจะราคาถูกลง มื้อกลางวันที่นี่เป็นเมนูซูชิที่จัดมาเป็นเซ็ทตามความพอใจของคนทำอาหาร ว่าเชฟแกจะทำซูชิหน้าอะไรมาให้ เรียกว่า お任せ Omakase Sushi 🍣 ร้านนี้แปลกกว่าร้านอาหารอื่นๆ ทั่วไป เพราะที่นี่ตามใจคนขายไม่สนลูกค้า ฮ่าๆ จะมีระบบการบริการที่มีลักษณะคล้ายๆ กับโรงชาชั้นดีที่เกียวโต คือถ้าไม่มีลูกค้าเก่าที่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนเป็นผู้แนะนำหรือพามา ลูกค้าใหม่จะเดินเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าเองไม่ได้เชียวนะ ร้านนี้ก็เช่นกันถ้ารุ่นพี่ไม่พาผมมา ร้านเขาอาจจะไม่ต้อนรับผมก็ได้ เพราะขึ้นอยู่กับอารมณ์เจ้าของจริงๆ วันที่อากาศดี อาจยอมปล่อยให้ลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาบ้างแล้วแต่ดวง ( ̄ー ̄*)
พอได้มาเป็นลูกค้าครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อๆ ไปผมก็สามารถมาเองได้ หรืออยากจะพาเพื่อนมาอีกก็ได้ แต่ก็แล้วแต่ความพึงพอใจของเจ้าของร้านอีกนะว่าจะจัดซูชิหน้าอะไรมาให้ทานบ้าง ทุกครั้งที่ผมมากับรุ่นพี่ ลุงเจ้าของร้านจะจัดซูชิที่ค่อนข้างพิเศษมาให้ ในเซ็ทของซูชินั้นจะมีซูชิหน้าอูนิมาให้ทุกที อูนิซูชิคือ ซูชิหน้าไข่หอยเม่นที่ค่อนข้างเป็นของหายากจากท้องทะเลและมีราคาค่อนข้างแพงสักหน่อย ถ้าผมมาคนเดียวก็ยังจัดอูนิมาให้ มีวันหนึ่งผมพาเพื่อนใหม่มาทาน เขาไม่จัดอูนิมาให้ครับ ฮ่ะ ๆ แล้วแต่อารมณ์คนขายจริงๆ เลยเนี่ยร้านนี้ ยิ่งถ้าวันไหนฝนตกนะ ลูกค้าใหม่อย่าคิดจะเข้ามาหลบฝนโดยทำเป็นสั่งอาหาร ผมเคยนั่งๆ ทานอาหารอยู่ แล้วมีลูกค้าที่เข้าร้านมาในวันนั้นฝนตกพอดีครับ โดนคนขายบอกว่า วันนี้ร้านหยุด !! เฉยเลย ลักษณะการขายของร้านนี้ถึงแม้จะไม่ใช่เป็นร้านของยากุซ่า แต่ก็มีลักษณะอิสระที่อาจจะเรียกได้ว่า ヤクザな自営業 Yakuza na business คือ อาชีพอิสระแบบยากุซ่าได้ ( แต่ไม่ใช่ยากุซ่านะครับ )
วันหนึ่งผมไปทานอาหารกลางวันที่ร้านนี้คนเดียว เพราะรุ่นพี่พักเที่ยงคนละเวลา ปกติที่นี่ก็ไม่รับลูกค้ามากมายอยู่แล้ว ครั้งหนึ่งสัก 4 คนก็หรูแล้ว วันนั้นมีผมกำลังนั่งกินอยู่คนเดียว กับเจ้าของที่เป็นพ่อครัวยืนทำนู้นนี่นั่นอยู่หลังเคาว์เตอร์บาร์ซูชิ ทันใดนั้นเองก็มีชาย 2 คนเดินตรงดิ่งเข้ามา คนหนึ่งใส่ชุดสูทสีแดง อีกคนใส่สูทสีน้ำเงิน ทั้งสองคนตรงเข้ามานั่งที่บาร์ข้างๆ ผม แล้วคุยเสียงดังกับคนขาย เนื้อหาที่สองคนนั้นคุย จะคุยด้วยเสียงดัง ภาษาไม่สุภาพ เช่น ร้านค่อดเล็กเลยเน้พ่อค้า ! คนขายก็ตอบแบบถ่อมตัวขนาดอายุมากกว่าพวกนั้นหลายสิบปี หรืออาจจะมากกว่าคุณพ่อของสองคนนั่นได้เลย ...เอาปลาดีๆ มาทำซูชิรึเปล่าเนี่ย แล้วไม่โทรแจ้งลูกค้าให้มากินรึไง ?! คนขายก็แบ่งรับแบ่งสู้ และปลีกตัวไปทำซูชิ จากนั้นสองคนก็คุยกันเอง ส่วนผมที่กำลังคุยกับคนขายสนุกๆ กำลังกินอร่อยๆ ก็กร่อยเลยสิครับ ต้องรีบกินอย่างสปีดอัพ จะได้รีบออกไปสะที ที่นั่งอยู่ข้างๆ สองคนนี่ผมแบบตัวลีบเอาลีบเอา
ที่จริงผมกับคนขายแอบส่งซิกกันตั้งแต่สองคนนั้นเดินเข้ามาแล้วล่ะ ซวยละ พวกยากุซ่าแน่ เพราะพวกยากุซ่านี้ต้องแสดงตัว เด่นสะดุดตา ไม่ปกติ พื้นบ้านทั่วไปไม่ได้ๆ ( ยากุซาต้องโชว์ให้คนรู้ว่าเป็นยากุซ่า ถ้าไม่รู้ก็ไม่มีความหมาย) แล้วยิ่งบทสนทนาที่ทั้งสองคุยกันนั้นยิ่งฟังแล้วอยากเดินออกไปไกลๆ น่าจะคุยกันเรื่องธุรกิจของเหล่ายากุซ่า 怖うぇええぇぇえ!Σ(´゚д゚`;)))แต่ว่าต้องรีบกินซูชิให้หมดก่อน
🚍เขาคุยกันเรื่องธุรกิจของเขา シノギ Shinogi 🍒
٩((# ゚Д゚)وสูทแดง: แบบเน้เรียกใช้ Gaisensha เลยดีก่ามั้งลูกเพ้ ! ยอมมันไม่ได้หรอก一気に追い込みかけてやりましょうYO!!!
(▼~,▼ )สูทน้ำเงิน: ไอ้น้อง เมิงจะเอา Gaisensha มาได้ไง ถ้าทำกำไรไม่มากกว่า 5 แสน เอ็งก็ขาดทุนยับสิว่ะ ค่ารถก็ 5 แสนแล้วเด้ะ
٩((# ゚Д゚)وสูทแดง: และจะเอางัยกับมันเดะ ?!...
และอีกมากมาย บลา บลา ขณะนั้นผมก็รีบจ้ำกินเต็มที่ เสร็จแล้ว จึงเตรียมจะยืนขึ้นเพื่อรอคนขายหันมา
"(▼д,▼ )สูทน้ำเงิน: เห้ คนขาย เช็คบิล !!
ผม: (´ ∀` ; )"……
เขาเรียกคนขายแทนผม ที่กำลังยืนเหงื่อตกเลย เรื่องนี้ผมจำได้ดี แต่เป็นช่วงหน้าร้อนหรือหน้าหนาวนี่จำไม่ได้เลยรู้แต่ว่า เหงื่อท่วมตัว ! จ่ายเงินแล้วรีบเดินออกไปทันที แต่มานึกได้อีกทีว่าลืมกินอาหารไปอีกจานนี่นา แว้กซ์~เสียดาย
* หัวหน้าเก่าผมเดินไปไล่พวก Gaisensha
จากเรื่องตอนที่แล้วที่เล่าว่า ครั้งหนึ่งตอนที่ผมยังทำงานที่ญี่ปุ่น ออฟฟิศผมก็เคยโดยพวก Gaisensha มาจอดรถป่าวประกาศด่า 2-3 ครั้ง รู้สึกว่าน่ารำคาญมาก เหมือนพวกยุงรำคาญมาบินรอบข้างหู ครั้งหลังๆ ผมก็ย้ายขึ้นไปแผนกที่อยู่บนตึกชั้นสิบกว่า เลยได้ยินเบาลงมาหน่อย ..มาคิดดู ไม่รู้ 2 คนสูทแดงสูทน้ำเงินนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งรถ Gaisensha มาป่วนรึเปล่าน้ะเนี่ย
ตอนที่ผมเพิ่งเรียนจบและเข้าทำงานใหม่ๆ เดือนเมษายนถือเป็นเดือนที่คนญี่ปุ่นจะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเปิดภาคเรียน การเริ่มงานใหม่ของพนักงานใหม่ การโยกย้ายงานหมุนเวียนไปแผนกอื่นๆ เพราะปกติที่ญี่ปุ่นมีระบบเปลี่ยนแปลงหรือโยกย้ายงานในองค์กรเดียวกันบ่อยมาก บางคนทำแค่ 2 ปีก็อาจโดนเปลี่ยนแปลงไปฝ่ายอื่นได้ ถือเป็นเรื่องทั่วไปที่ทุกคนต้องเจอ ตอนที่ผมได้เข้าไปทำงานที่แผนกนั้น เป็นช่วงเดียวกับการเปลี่ยนหัวหน้าแผนกคนใหม่ มีแต่คนเล่าให้ฟังว่า หัวหน้าคนเดิมก่อนที่ผมจะเข้ามา สมมุตว่าชื่อ "หัวหน้าเหมียว 宮尾課長(仮名)🐈 Miyao kachō"🐾 แล้วกันนะครับ หัวหน้าเหมียวเป็นหัวหน้าที่ได้รับความนิยมจากลูกน้องมากๆ เพราะเค้าเก่ง สามารถคุ้มกะลาหัวลูกน้องได้ดี คือเป็นที่พึ่งพิงได้ดีมาก ใครๆ ก็นิยมชมชอบและกล่าวถึง อย่างตอนที่ออฟฟิศผมโดนพวก Gaisensha มาจอดรถป่าวประกาศด่านั้นมีคนเล่าว่า ตอนนั้นหัวหน้าเหมียวลงไปหาพวกที่มาป่าวประกาศเลยล่ะครับ เอากับแกสิ แกกล้ามาก การมีเรื่องกับยากุซ่านี่ไม่มีใครกล้านะครับท่าน ไม่มีใครเสี่ยงเข้าไปชนด้วยหรอกเพราะมีสิทธิ์เจ็บตัวฟรี แถมเคยมีข่าวโดนพวกรถ Gaisensha รุมทำร้ายด้วย แต่หัวหน้าเหมียวครับแกลงไปแล้วบอกพวกนั้นว่า
หัวหน้าเหมี่ยว : ไหนขอดูใบปลิวหน่อยสิ?
พวกรถ Gaisensha ส่งเอกสารให้
หัวหน้าเหมี่ยว : เขียนอะไรมาล่ะเนี่ย ตัวอักษรก็ผิด!!
พวกรถ Gaisensha งง?!?฿@ อึ้ง ?&&@@ (´・_・`) (´・_・`) (´・_・`) คงจะดูๆ แล้วว่าสงสัยเรียกร้องเงินจากที่นี่ไม่ได้แน่แล้ว เลยกระจายตัว กลับไปโดยดี ..
แกไม่ได้ทำไรมากหรอกแต่กล้าหาญมาก และฉลาดจะแสดงออก ทำให้พวกยากุซ่าหน่ายและส่ายหน้ากลับไปเลย ผิดกับหัวหน้าใหม่ที่ย้ายมาพร้อมกับที่ผมเข้ามาราวฟ้ากับดินเลย เพราะตอนที่รถ Gaisensha มาอีก แกก็น่าเครียด นั่งบ่นพึมพำเหมือนสวดมนต์ นั่งหลบอยู่มุมเล็กๆ ของแกไปครับ โถ่น่าสงสาร (ลูกน้อง)
ทำไมหัวหน้าคนหนึ่งเป็นที่นิยม แต่อีกคนทุกคนส่ายหน้า นอกจากตัวอย่างจากกรณีการจัดการกับรถ Gaisensha แล้ว ครั้งหนึ่งพวกผมไปธุระขององค์กร นั่งรถไฟชินกันเซน🚅จากโตเกียวไปฮิโรชิมา ก็หลายชั่วโมงเหมือนกันถ้านั่งเฉยๆ ไม่มีอะไรคุยก็ดูจะกร่อยๆ ไปสักหน่อยไหม วันนั้นมีรุ่นพี่คนหนึ่งหิ้วเบียร์ขึ้นรถไปด้วย เขาเอาไปให้หัวหน้าเหมียว แม้ว่าดูภายนอกจะมีท่าทางน่ากลัวใช่เล่น แต่หัวหน้าเหมียวตบหลังรุ่นพี่เบาๆ แล้วชมว่าเยี่ยมเลยเอาเบียร์มากินกัน พร้อมกับหัวเราะสนุกสนานมีเรื่องมีราวคุยกันได้ต่อ กลับกันรุ่นพี่เอาเบียร์ไปให้หัวหน้าคนที่ย้ายมาพร้อมผม เขาดุบอกว่านี่มันเวลางานนะ จะกินเบียร์ได้ยังไง! คนให้ก็ต้องเดินถอยหลังกลับมาที่นั่งตัวเองอย่างเงียบๆ ที่ใครที่มันครับผม
หัวหน้าเหมียว แม้ว่าจะหน้าดุ ตัวใหญ่ น่าเกรงขาม มีคนเกรงแต่ทุกคนชอบ ขณะที่นั่งทานข้าวกลางวันกันมีคำสอนจากชายกลางคนที่ดูหน้าดุบอกว่า “รู้มั้ยว่าน้องหมาผูกกับคน แต่น้องแมวผูกกับสถานที่“ ตอนทานอาหารกล่องมื้อกลางวันครับ อยู่ๆ แกก็พูดลอยๆ ออกมาสะงั้น อารมณ์ขันของคนญี่ปุ่นอาจจะต่างกับคนไทยอยู่บ้าง แต่พวกผมนั่งอึ้งมากที่ หัวหน้าเหมียว สอนเรื่องหมากับแมว คือนึกถึงคนบุคลิกดุโหดแต่พูดเรื่องหมาแมว เข้าใจได้เลยว่าทำไมใครๆ ก็ชอบเขา เพื่อนๆ มีหัวหน้าในดวงใจไหมครับ เป็นอย่างไรบ้าง วันนี้สวัสดีครับ