สวัสดีครับ ผม Mr. Leon มาแล้ว อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพกันมากๆ นะครับ ช่วงอาทิตย์หลังปีใหม่อยู่ๆ ก็มีฝนตกหนักทั่วกรุงเทพฯ ทำให้เกิดเกิดปัญหาจราจรติดขัดหนักมากๆ เพื่อนๆ พอจำได้ไหมครับ เพื่อนผมหลายคนเล่าว่า ระยะทางแค่ไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร ต้องใช้เวลาเกือบ 3-4 ชั่วโมง ทำให้ไปทำงานไม่ทัน พอเลี้ยวรถกลับบ้านก็ต้องใช้เวลาอีก 3 ชั่วโมง หมดวันพอดี (´•ω•`) รถติดขนาดนี้ผมเองยังไม่เคยเจอที่ญี่ปุ่นเลยครับ และหลังจากวันที่ฝนตกก็รู้สึกว่าอากาศจะดีมาก ช่วงเช้าๆ ที่กรุงเทพยังรู้สึกหนาวใช่ไหมครับ
ที่จริงเดือนมกราคม และเดือนกุมภาพันธ์ที่ญี่ปุ่นเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวมากๆ จะค่อยๆ เริ่มหนาวมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ธันวาคม พอเข้า มกราคม ช่วงต้นปีใหม่ มีวันโชกัน 小寒 Shōkan เป็นวันที่เริ่มทวีความหนาว ประมาณวันที่ 6 -19 มกราคม ตามปีปฏิทิน จะถึงก่อนวันที่หนาวที่สุดประมาณหนึ่งอาทิตย์ วันที่หนาวที่สุดในปฏิทินประจำปีเราเรียกวันที่หนาวที่สุดในรอบปีว่า ไดกัน 大寒 Daikan ส่วนใหญ่ประมาณช่วงระหว่างวันที่ 20 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ วันใดวันหนึ่งตามปีปฏิทินของปีนั้นๆ และหลังจากวันนั้นไปก็จะยิ่งหนาวๆ มาก
บ้านเกิดผมเป็นเมืองหนึ่งในญี่ปุ่นที่ฤดูหนาวจะหนาวมากๆ หิมะตกหนาเป็นเมตร ช่วงเดียวกับที่ฝนตกที่กรุงเทพอาทิตย์ก่อนก็เกิดพายุหิมะ มีความหนาวเหน็บมาก หมาแมวทนไม่ไหว น่าสงสารมาก อย่างที่บ้านเกิดผมใครที่ต้องเผชิญอยู่กับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บอย่างนี้จะเข้าใจว่า ความหนาวมันทรมานแค่ไหน ทำให้ผมไม่ค่อยชอบฤดูหนาวเท่าไหร่นัก บ้านผมเป็นบ้านไม้ทรงญี่ปุ่นรับลมเย็นสบายในหน้าร้อนแต่หน้าหนาวอย่าให้พูดถึง เวลาที่ต้องออกจากห้องที่ติดฮีทเตอร์หรือเครื่องทำความร้อนแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่บริเวณด้านหน้าของบ้านนี้เกิดความทรมานมากเห็นสัจธรรมเลย ตอนกลางคืนอยากเข้าห้องน้ำก็ต้องเดินจากชั้นสองไปหน้าบ้านชั้นหนึ่ง เพราะห้องน้ำอยู่หน้าบ้าน เดินไปก็สั่นไปตลอดทาง เด็กแถวบ้านบางคนไม่อยากออกนอกห้อง แอบฉี่ราดที่นอนกันไปเลย แต่ผมไม่เคยนะครับ ฮ่าๆ ความหนาวในฤดูหนาวมันหนาวเหน็บถึงขนาดที่ว่ามีข่าวว่ามีผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิต ลุงป้าต้องเดินออกจากห้องที่อุ่นๆ แต่ไปเสียชีวิตในห้องน้ำเพราะระหว่างเดินไปนั้นสภาพอากาศมันต่างกันมากทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตผิดปกติ
ครั้งหนึ่งตอนที่ผมยังเด็ก เวลาที่จะเดินออกจากห้องอุ่นๆ แล้วต้องลุกไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ชั้นหนึ่งของบ้านนี่เหนื่อยใจ มันเย็นยะเยือก เดินไปก็เจ็บจี๊ดๆ ที่กระดูก คือมับเจ็บตัวมากกว่ารู้สึกกว่าหนาวสะอีก ครั้งหนึ่งเข้าห้องน้ำแล้วรู้สึกว่าหิวน้ำจึงแวะกินน้ำที่ห้องครัว หนาวขนาดไหนลองคิดดูครับขนาดขวดเบียร์วางไว้นอกตู้เย็น วางที่โต๊ะอุณภูมิห้อง ขวดเบียร์เป็นน้ำแข็งแตกเลย พอหันไปทางหม้อหุงข้าว ( ปกติที่บ้านผมจะเสียบปลั๊กหม้อหุงข้าวไว้ตลอด เพราะอุ่นให้ข้าวร้อนเสมอ) ที่หม้อหุงข้าวทำให้ผมต้องร้องออกมา ว้าาาาา!?!,¥&@ (゚д゚;)เพราะแววตาเป็นประกายของบางสิ่งกำลังคล้ายว่าจะจ้องเล่นผมอยู่ นาทีนั้นผมคิดว่าโดนผีหรอกแน่แล้ว กำลังจะวิ่งแต่ดีที่มันร้องเมี้ยะๆ ๆ พอดูดีๆ อีกทีที่เเท้ก็คือเจ้า ชิโร่ แมวที่เลี้ยงไว้นั่นเอง เจ้าชิโร่มันคงจะหนาวจึงไปนอนข้างบนหม้อหุงข้าวมันก็เข้าใจหาที่นอนจริงๆ อย่างที่คอลัมน์ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนถึงประเด็นที่ว่า มีปีหมาแต่ทำไมไม่มีปีแมว, ทำไมคนมักจะจินตนาการถึงปีศาจแมวมากกว่าปีศาจหมา, คนที่เลี้ยงน้องหมาและน้องแมวน่าจะรู้จักนิสัยของสัตว์ทั้งสองดี หมาเป็นสัตว์ขี้ร้อนแต่แมวเป็นสัตว์ขี้หนาวมาก ที่เคยเขียนไปว่าทำไมคนจึงจินตนาการถึงปีศาจแมวมากกว่า เพราะแมวเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมที่คาดการณ์ยาก มีคนบอกว่าถ้าปล่อยหมาไว้ มันจะรอเจ้าของ แต่ถ้าเป็นแมวบางทีมันก็หายไปไหนไม่รู้ 2-3 วันถึงกลับมา มันคงคิดว่าฉันอิสระ ฉันไม่สนเจ้าของมีไรป่าว! เฟอร์นิเจอร์ที่แมวผมชอบที่สุดคือ コタツ Kotatsu หรือเครื่องทำความร้อน เวลามันเข้ามาที่ห้องที่คนเปิดใช้เครื่องทำความร้อนเนี่ยที่จริงมันไม่ได้ชอบคนนะครับ เข้ามาเพราะมาหาความอุ่น และส่วนใหญ่ไม่ชอบนอนร่วมกับคน มันจึงไม่เข้ามาอยู่ในห้องของผม แต่อยู่ข้างนอกก็หนาว ยังดีนะที่มีหม้อหุงข้าวช่วยให้ความอุ่น
เปลี่ยนเรื่องแบบหักมุมเพราะตอนแรกคิดว่าจะเล่าเรื่องแมวกับยากุซ่า !!!!!ด้วยแต่เล่าเรื่องรถก่อนดีกว่าครับ เพื่อนๆ เคยเห็นรถที่เรียกว่า 街宣車 Gaisensha (right-wing) ไหมครับ ถ้าใครอยู่ญี่ปุ่นน่าจะเคยเห็น หรืออาจจะบังเอิญเห็นรถสีดำ (แต่ก็มีสีอื่นอยู่บ้าง) ที่มีป้ายติดเต็มไปหมด คล้ายรถที่ใช้ประชาสัมพันธ์หาเสียงตอนที่มีการเลือกตั้ง มีคนใส่ชุดดำไปยืนพูดบ่นว่าคนใดคนหนึ่ง หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เครื่องเสียงที่ติดกับรถก็ดังมากพอจะสร้างความรำคาญหรือความอับอายให้คนที่ถูกรถดังกล่าวมาจอดต่อว่า มักจะเปิดเพลงปลุกใจแนวทหาร เพลงลูกทุ่งที่เนื้อหาน่ารำคาญ เป็นต้น
Gaisensha ที่บอกว่าคือ right-wing ที่มาจากคำว่า ฝ่ายซ้าย-ฝ่ายขวา ซึ่งในที่นี้จะเกี่ยวข้องกับการเมือง เป็นระบบที่ใช้จำแนกจุดยืน , อุดมการณ์ทางการเมืองและพรรคการเมือง การเมืองฝ่ายซ้ายและการเมืองฝ่ายขวา ที่มักถูกนำเสนอว่ามีความขัดแย้งกัน ส่วนรถพวกนี้จะอ้างว่าตนต่อต้านคอมมิวนิสต์ อยู่พวกเดียวกับประชาชน มีความเชิดชูจักรพรรดิ แต่คนญี่ปุ่นก็รู้ว่ารถพวกนี้มีความเกี่ยวข้องกับยากุซ่า ทำไมจึงเกี่ยวกับยากุซ่าเพราะพวกยากุซ่าก็อ้างตนว่า ต่อต้านคอมมิวนิสต์ และน่าจะเป็นกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจรถพวกนี้
คำว่ายากุซ่านั้น ヤクザ yakuza ยากุซ่า มีต้นกำเนิดและวิวัฒนาการทางสังคมมาตั้งแต่สมัยเอโดะ บ้างก็ว่าเริ่มต้นมาจากพวกขี้เมา บ้างก็ว่ามาจากกลุ่มซามูไรรับใช้ของโชกุน ส่วนเรื่องพฤติกรรมและลักษณะที่แสดงออก พวกเขามักจะทำตัวเด่น มีความเต๊ะตาเพราะทรงผมและการแต่งกายที่แปลกตา อาจมีการแสดงกิริยาที่รุนแรง พูดสำเนียงภาษาเถื่อนหยาบ และมีคำแสลงเฉพาะ แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 กลุ่มยากุซ่าได้รับอิทธิพลจากกลุ่มอันธพาลอเมริกัน ทั้งเรื่องการแต่งกาย ยานพาหนะที่เป็นรถยนต์สีดำคันใหญ่ และการเข้ากลุ่มการเมืองอนุรักษนิยม ต่อต้านคอมมิวนิสต์ และกำจัดปฏิปักษ์ทางการเมือง ปัจจุบันอาจจะใส่สูทผูกเนคไทเรียบร้อยก็ได้ เหมือนคนธรรมดาทั่วไปก็ได้ แต่สถานการณ์ปกติก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน รายได้ของพวกยากุซ่า เช่น
* เรียกเก็บค่าคุ้มครอง ค่าเช่าพื้นที่ค้าขายในงานเทศกาล งานเฉลิมฉลองต่างๆ โดยอ้างว่าเพื่อคอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย
* ธุรกิจกลุ่มนักพนัน เปิดแหล่งพนัน ปาจิงโกะ
* ธุรกิจฟอกเงิน ปั่นหุ้น ปล่อยเงินกู้ ค้ามนุษย์ ยาเสพติด รีดไถ และฮั้วประมูล เป็นต้น
( ข้อมูลจากวิกิพิเดียครับ )
แต่ในชีวิตปกติ ก็ต่างคนต่างอยู่ครับ ถ้าเราอยู่เฉยๆ ใช้ชีวิตปกติ ยากุซ่าก็ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวอะไร คนที่เคยอยู่ญี่ปุ่นอาจจะเคยเห็นพวกยากุซ่ามาบ้าง แล้วที่เมืองไทยล่ะ มียากุซาไหมครับ แม้ว่าคนญี่ปุ่นจะรู้กันว่าเรื่องเกี่ยวกับยากุซ่าเป็นอีกหัวข้อต้องห้ามในการสนทนา คนมักจะไม่ค่อยพูดกันทั่วไปเหมือนเรื่องดินฟ้าอากาศ อาหาร ท่องเที่ยว แต่ทว่าในทีวีก็ยังมีการนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับยากุซ่าอยู่บ้าง แสดงว่าที่บอกว่าต้องห้ามก็ยังมีคนพูดถึงอยู่ ยังพอพูดคุยกันได้ แต่รู้ไหมครับเรื่องที่ต้องห้าม ไม่ค่อยเอามาเป็นประเด็นพูดคุย คือ การพูดเกี่ยวกับจักรพรรดิ , ศาสนา, และเรื่องตำรวจ เรื่องยากุซ่า เรื่องการเมือง เช่น แสดงตัวเองอย่างสุดโต่งว่าตนเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทางการเมืองครับ
แล้วทำไม Gaisensha ถึงน่ารำคาญ เพราะการที่รถ Gaisensha มาป่าวประกาศว่าใครหรือองค์กรใด จุดประสงค์ที่แท้จริงคือข่มขู่เรียกค่าคุ้มครอง สร้างความอับอายและป่าวประกาศให้คนทั่วไปได้รู้เห็น แต่ตำรวจจับไม่ถึงตัวต้นต่อของพวกยากุซ่าที่เป็นคนบงการ เพราะถ้าจับก็ได้แค่คนที่เป็นลูกกระจ๊อกคนป่าวประกาศแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนพูดก็อ้างว่าไม่ชอบเป็นการส่วนตัว ต่างๆ นานา ตัวเองทำเอง ไม่มีใครจ้างวานมา แต่กลับกันมีคนเคยเล่าเรื่องนักการเมืองท้องถิ่นที่ไปพูดหว่านล้อมขอซื้อที่ดินชาวบ้านเพื่อนำมาสร้างคอนโดมิเนียม เมื่อชาวบ้านไม่ยอมก็เอานามบัตรของยากุซ่าคนหนึ่งมาแสดง แค่นี้นักการเมืองคนนั้นก็โดนตำรวจจับกุมเลยละครับ ด้วยเหตุผลว่ามีความเกี่ยวข้องกับยากุซ่า มีอีกตัวอย่างหนึ่ง คือเคยมีข่าวว่าอดีตนักฟุตบอลชื่อดังของญี่ปุ่นเคยถูกพวกยากุซ่าส่งรถ Gaisensha มาป่าวประกาศต่างๆ นานา (รู้ๆ กันว่าข่มขู่แต่ด้วยทักษะการพูดคงหาหลักฐานยาก ) เพราะเหตุผลที่นักฟุตบอลชื่อดังไม่ร้องเพลงชาติญี่ปุ่นในการแข่งขันแมตช์หนึ่ง เรื่องนี้ตำรวจก็จับกุมพวกรถ Gaisensha ไม่ได้ เพราะอย่างที่บอกว่า คนทำอยากทำเอง ไม่ได้เกี่ยวกับใคร
ตลอดช่วงที่ผมเคยทำงานที่ญี่ปุ่น ออฟฟิศผมก็เคยโดยพวก Gaisensha มาจอดรถป่าวประกาศด่า 2-3 ครั้ง ตอนนั้นผมเพิ่งเข้างานใหม่ๆ เลยยังไม่สนใจเท่าไหร่แค่รู้สึกว่าน่ารำคาญมาก เหมือนพวกยุงรำคาญมาบินรอบข้างหู ครั้งหลังๆ ผมได้ย้ายขึ้นไปแผนกที่อยู่บนตึกชั้นสิบกว่า เลยได้ยินเบาลงมาหน่อย แต่เพื่อนผมอยู่ชั้นสอง บอกว่าหนวกหูมาก แจ้งตำรวจก็มาทำอะไรไม่ได้ พวกหัวหน้านี่นั่งสวดมนต์เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี การมีหัวหน้าที่ช่วยลูกน้องไม่ได้เนี่ยแย่นะครับ แต่หัวหน้าเก่าผมกล้าเดินไปไล่พวก Gaisensha เลยนะครับ เขาทำอย่างไร ไว้คราวหน้าผมจะมาเล่าต่อว่า หัวหน้าเก่าเขาทำอย่างไรกับพวกลูกสมุนของยากุซ่าเหล่านี้ วันนี้สวัสดีครับ