สังคมญี่ปุ่นจะเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญในปี 2040 ซึ่งคนที่อยู่ตัวคนเดียวจะมีจำนวนมากถึง 40% เนื่องจากผู้คนไม่แต่งงานและสังคมผู้สูงอายุ
สถาบันวิจัยความมั่นคงทางสังคมและประชากรแห่งชาติของญี่ปุ่น เปิดเผยรายงานว่า ในปี 2040 1ใน4ของผู้สูงอายุวัย 65 ปีในญี่ปุ่นจะต้องอยู่ตัวคนเดียวโดยไม่มีลูกหลานหรือครอบครัวคอยดูแล ขณะที่บ้านที่มีผู้อาศัยเพียงคนเดียวก็จะเพิ่มขึ้นมากถึง 40% รัฐบาลและสังคมญี่ปุ่นจำเป็นต้องเร่งหาวิธีการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่อาศัยเพียงลำพังจำนวนมาก
จากสถิติในปี 2015 สัดส่วนบ้านที่มีผู้อาศัยคนเดียวมีอยู่ราว 34.5% หรือ 18.42 ล้านหลัง แต่คาดว่าในปี 2040 จะเพิ่มขึ้นเป็น 39.3% หรือ 19.94 ล้านหลัง ส่วนครอบครัวที่มีสามีภรรยาอยู่ด้วยกันสองคนจะลดลงเหลือแค่ 21.1%, ครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกรวม 3 คนขึ้นไปจะลดลงเหลือ 23.3%, ครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่คนเดียวเลี้ยงดูลูกมีสัดส่วน 9.7% และครอบครัวใหญ่ที่มีคนหลายรุ่นอยู่ร่วมกันจะเหลือเพียง 6.6%
ในปี 2040 จำนวนผู้สูงอายุในญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุด เนื่องจากคนวัยทำงานในทุกวันนี้จะกลายเป็นคนแก่ ขณะที่เด็กที่เกิดใหม่มีน้อยมาก สถาวการณ์เช่นนี้จะทำให้ ผู้สูงอายุที่อยู่ตัวคนเดียวมีมากถึง 22.9% โดยในจำนวนนี้บ้านที่มีคนแก่อายุ 75 ปีอาศัยเพียงลำพังจะมีมาถึง 54.3%
สถาบันวิจัยความมั่นคงทางสังคมและประชากรแห่งชาติของญี่ปุ่นยังเปิดเผยว่าบ้านเรือนทั่วญี่ปุ่นในปี 2015 มีอยู่ราว 53.33 ล้านหลัง โดยจำนวนบ้านจะเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดในปี 2023 ที่ 54.19 ล้านหลัง เนื่องจากหนุ่มสาวจำนวนมากแยกตัวไปอยู่ตัวคนเดียวมากขึ้น แต่หลังจากนั้นจำนวนบ้านจะลดลงจนเหลือเพียง 50.76 ล้านหลังในปี 2040 โดยจะมีบ้านร้างจำนวนมาก เพราะผู้สูงวัยจะทยอยเสียชีวิตไปอย่างโดดเดี่ยว บางรายอาจจากโลกนี้ไปโดยที่ไม่มีใครรับรู้.
