สมาชิกรัฐสภาของพรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นเห็นชอบมาตรการปฏิรูปภาษี ซึ่งครอบคลุมทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีนิติบุคคล รวมทั้งภาษีการท่องเที่ยวที่จะเก็บ 1,000 เยนเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศญี่ปุ่น
สมาชิกรัฐสภาจากพรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคโคเมโต เห็นชอบมาตรการปฏิรูปภาษีครั้งสำคัญ โดยมีหลักการคือเพิ่มภาษีของผู้มีรายได้สูง และลดภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและบริษัทที่สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรและสร้างเทคโนโลยี
สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่ามาตรการปฏิรูปภาษีนี้ จะมีทั้งลดหย่อนภาษีแก่บริษัทขนาดใหญ่ที่ขึ้นค่าจ้างอย่างน้อยร้อยละ 3 และเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ประเภททุนในญี่ปุ่น รวมทั้งธุรกิจที่ให้พนักงานได้รับโอกาสศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพในมหาวิทยาลัยก็จะได้รับการลดหย่อนภาษีด้วย
นอกจากนี้ จะมีการลดหย่อนภาษีให้แก่บริษัทที่ลงทุนในด้านเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าควบคู่ไปกับการขึ้นค่าจ้างด้วย
ในส่วนของบุคคลธรรมดา จะลดเพดานการยกเว้นภาษีสำหรับพนักงานที่มีรายได้สูง คือมากกว่า 8.5 ล้านเยนหรือประมาณ 2.5 ล้านบาทต่อปี แต่จะยกเว้นให้ผู้ที่มีลูกอายุน้อยกว่า 22 ปีหรือต้องอุปการะเลี้ยงดูผู้สูงวัยได้รับสิทธิลดหย่อนเหมือนเดิม
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ คือ รัฐบาลจะเริ่มเก็บภาษีการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 ผู้โดยสารขาออกชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจะต้องจ่าย 1,000 เยนหรือเกือบ 290 บาททุกครั้งที่เดินทางออกจากญี่ปุ่น
รัฐบาลญี่ปุ่นเผชิญกับเหรียญ 2 ด้านในการปฏิรูประบบภาษี ในด้านหนึ่งก็ต้องหารายได้มาชดเชยภาระหนี้สาธารณะอันมหาศาล รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุที่มีมากเกิน 1 ใน3 ของประชากรญี่ปุ่น แต่อีกด้านหนึ่งก็ลดภาระภาษีของกลุ่มแม่บ้าน, คนที่ต้องดูแลผู้สูงวัย หรือ พนักงานแบบฟรีแลนซ์ ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังต้องใช้ภาษีเป็นเคร่องมือจูงใจให้ธุรกิจของญี่ปุ่นยอมปรับเปลี่ยนระบบค่าจ้าง, การสร้างเทคโนโลยี และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
รัฐบาลญี่ปุ่นจึงต้องเก็บภาษีเพิ่มหลายอย่าง เช่น ขึ้นภาษีบุหรี่, สุรา , ภาษีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และภาษีการท่องเที่ยว เป็นต้น.
