เข้าฤดูหนาวแล้ว ไม่ว่าจะไปที่ไหนของญี่ปุ่น อากาศหนาวก็เข้าปกคลุมไปทุกพื้นที่ บางที่อุณหภูมิติดลบและมีหิมะตกหนักเลยทีเดียว เจออากาศหนาวนานๆก็ทำเอาคิดถึงแสงแดดอุ่นๆไม่น้อยเลยนะคะ แต่ทุกคนรู้มั้ยคะว่าที่ญี่ปุ่นยังมีฤดูหนาวที่อบอุ่นมากกว่าที่อื่นๆ ใช่แล้วค่ะ ฤดูหนาวของโอกินาว่า อากาศยังคงอบอุ่น ใส่เสื้อเชิ้ตเดินเที่ยวได้สบายๆ วันนี้เราขอแนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวฤดูหนาวในโอกินาว่า ที่จะทำให้ทริปโอกินาว่าสนุกไม่รู้ลืม จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย !
1.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ โอกินาว่า (沖縄美ら海水族館)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ โอกินาว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของโอกินาว่า มีนักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นจำนวนมาก แต่นักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวไม่เยอะเท่าในช่วงฤดูร้อน เพราะฉะนั้นใครที่ไม่ชอบคนเยอะๆ ช่วงฤดูหนาวเหมาะกับคุณที่สุด เพราะสามารถเดินชมพิพิธภัณฑ์ได้แบบชิลๆ (เลือกเข้าชมวันธรรมดา คนจะน้อยกว่าวันหยุด เสาร์-อาทิตย์)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ โอกินาว่า มีแท็งก์ปลาขนาดใหญ่ที่สุดในโลก “คุโรชิโอะ โนะ อุมิ” หรือ “ทะเลคุโรชิโอะ” (黒潮の海) เป็นไฮไลท์ของที่นี่ และยังมีแท็งก์ปลาอื่นๆอีกรวมกว่า 77 ตู้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ โอกินาว่า จัดแสดงพิพิธภัณฑ์ตามคอนเซ็ปต์ “การพบเจอกับทะเลของโอกินาว่า” จัดแสดงสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในโอกินาว่า นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่แรกของโลกที่เลี้ยงฉลามวาฬยักษ์และกระเบนราหูไว้เป็นเวลานานได้สำเร็จ ที่พลาดไม่ได้เลยคือ การแสดงให้อาหารฉลามวาฬ ซึ่งมีเพียง 2 ครั้งในหนึ่งวัน ทุกคนจะได้เห็นฉลามวาฬอ้าปากกว้างกินอาหารกันสดๆ
2.Okinawa World
Okinawa World เป็นสถานที่ที่รวบรวมวัฒนธรรมของโอกินาว่า ธรรมชาติ และอาหารอันเลิศรสไว้ในที่เดียวกัน อากาศในช่วงฤดูหนาวที่ไม่ร้อนจนเกินไป ทำให้เดินเที่ยวชมธีมพาร์คได้อย่างเพลิดเพลิน ธีมพาร์คแห่งนี้มีถ้ำชื่อดังคือ “เกียวคุเซนโดะ” เป็นถ้ำที่มีความยาวถึง 900 เมตร ความสวยงามของถ้ำแห่งนี้ควรค่าแห่งการไปเยือนจริงๆ
เมื่อเดินออกมาจากถ้ำ จะเจอกับหมู่บ้านจำลองในสมัยอาณาจักรรีวกีว “โอโคะคุมุระ” ตั้งเรียงรายกันอยู่ หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่ตั้งของร้านขายสินค้าศิลปะของโอกินาว่า เดินชมหมู่บ้านไปด้วย เลือกซื้อสินค้าที่ถูกใจไปด้วยได้ และเมื่อเดินมาถึงทางออกจะพบกับร้านขายของที่ระลึก ซื้อของฝากกันได้ตรงนี้เลย
และถ้าได้มาเที่ยวที่ Okinawa World แล้ว ห้ามพลาดไปชมการแสดง “ซุปเปอร์เอสะ” การแสดงศิลปะโอกินาว่า ที่จัดแสดงวันละ 4 รอบ และยังมีการแสดงอื่นๆอีก เช่น การแสดงระบำสิงโต, การแสดงอังกะมะ และการแสดงยตสึดาเคะ ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงของโอกินาว่า นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีสวนงู รวบรวมงูที่อาศัยอยู่ในโอกินาว่ามาให้ชมกันด้วย และยังมีการแสดงงู ซึ่งเป็นการแสดงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว
3.เซฟาอุทากิ (斎場御嶽)
โอกินาว่ามีสถานที่ที่เป็นมรดกโลกอยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ เซฟาอุทากิ “อุทากิ” หมายถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีเทพเจ้าคอยคุ้มครองให้หมูบ้านและเรือทะเลอยู่อย่างเป็นสุข “เซฟาอุทากิ” คือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในสมัยริวกิวของโอกินาว่า
ด้านในสุดเป็นที่ตั้งของ “ซังกุย” หรือ หินก้อนใหญ่สองก้อนที่ตั้งพิงกันเป็นรูปสามเหลี่ยม หลายๆคนน่าจะเคยไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กันมาแล้วใช่มั้ยคะ ด้านในสุดตรงบริเวณที่หินนั้นตัดกัน เป็นที่ตั้งของ “โชโนะฮานะ” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดสำหรับการสักการะเทพเจ้า นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถขอพรได้กับเทพเจ้าของเกาะ “คุดะชิมะ” และเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังจากธรรมชาติ ปัจจุบันชาวโอกินาว่าหลายคนยังคงเคารพและสักการะเซฟาอุทากิอยู่
4.ฮามะเบะ โนะ ฉะยะ (浜辺の茶屋)
ฤดูหนาวแบบนี้ ไปนั่งชิลๆที่คาเฟ่ริมทะเล รับลมเย็นๆคงดีไม่น้อยเลยนะคะ คาเฟ่ริมทะเลโอกินาว่าที่อยากจะแนะนำวันนี้ คือ ฮามะเบะ โนะ ฉะยะ (浜辺の茶屋) คาเฟ่แห่งนี้อยู่ใกล้ทะเลมากๆ ด้านหน้าคาเฟ่เป็นชายหาด หากไปคาเฟ่ในช่วงที่น้ำขึ้น จะได้เห็นทะเลสีเขียวมรกตจากหน้าต่างของร้านเลยล่ะค่ะ และแน่นอนว่าที่นั่งเคาเตอร์ริมหน้าต่าง เป็นมุมที่เหมาะกับการถ่ายรูปลงอินสตาแกรมสุดๆ ร้านนี้เป็นร้านยอดนิยม ในฤดูร้อนหรือช่วงโกลเด้นวีคต้องรอนานเป็นชั่วโมง แต่ในฤดูหนาวคนไม่แน่นร้าน แต่ถ้าไม่ชอบคนเยอะก็ควรเลี่ยงไปวันหยุด วันสิ้นปี และวันขึ้นปีใหม่ และช่วงเวลาเช้า แนะนำให้ไปช่วงเย็นๆจะดีที่สุดค่ะ
5.ยามะ โนะ ฉะยะ ระคุซุย (山の茶屋 楽水)
คาเฟ่อีกแห่งที่อยากจะแนะนำ คือ ยามะ โนะ ฉะยะ ระคุซุย (山の茶屋 楽水) ร้านนี้อยู่ห่างจากร้าน ฮามะเบะ โนะ ฉะยะ (浜辺の茶屋) เพียง 200 เมตร ทั้งสองร้านเป็นร้านพี่น้องกัน ที่ร้านยามะ โนะ ฉะยะ ระคุซุย ก็มีเคาเตอร์ริมหน้าต่างเหมือนกัยร้านฮามาเบะ โนะ ฉะยะ แต่ร้านนี้จะเน้นสีเขียวของต้นไม้ที่ให้ความสดชื่น ประกอบกับวิวทะเล เป็นคาเฟ่ริมทะเลที่สามารถพักผ่อนหย่อนใจได้สองรูปแบบ ด้านในร้านตกแต่งด้วยหินขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกว่าเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ หากเลือกที่นั่งได้ แนะนำให้นั่งด้านระเบียงของร้าน ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวและยังมองเห็นวิวทะเลอีกด้วย
คาเฟ่ทั้งสองแห่งอยู่ไม่ไกลจาก Okinawa World และ Valley of Gangala เดินทางด้วยรถยนต์เพียง 10 นาที เที่ยวชมธีมพาร์คเสร็จแล้วก็มานั่งชิลต่อที่คาเฟ่ริมทะเลตอนเย็นๆก็ได้ค่ะ
6.Valley of Gangala (ガンガラーの谷)
เข้าฤดูหนาวแล้ว อากาศไม่ร้อนชื้น ทำให้เดินเที่ยวใน Valley of Gangala ได้อย่างสบายๆ แถมในฤดูหนาวยังเป็นฤดูปีนเขาอีกด้วย เลือกเที่ยวกับทัวร์และค่อยๆเดินไปตามทางระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร แม้ว่าจะไม่มั่นใจว่าร่างกายจะไหวพอที่จะปีนเขาหรือเปล่า ก็เข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติของโอกินาว่าได้ นอกจากนี้ ยังมีถ้ำหินปูนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอายุหลายแสนปี และพืชในเขตกึ่งร้อนชื้น และแมลงให้ได้ชมกันอีกด้วย ยังไม่หมดเท่านี้ ที่นี่ยังมีต้นไทรที่มีอายุกว่า 150 ปี อยู่ด้วย แสงแดดที่ส่องลอดผ่านต้นไทรลงมา ดูลึกลับและน่าพิศวง
สำหรับกรุ๊ปทัวร์ที่มีเด็กเล็ก หรือ ผู้สูงอายุมาเที่ยวด้วยก็สบายใจได้เลย เพราะที่นี่มีไกด์พาเดินเที่ยว เมื่อจบทัวร์ลงแล้ว ก็ไปนั่งพักผ่อนที่ “เคฟคาเฟ่” ได้อีกด้วย
7.Whale Watching
ไม่ต้องเดินทางไปไกล เราก็สามารถไปชมปลาวาฬได้ที่โอกินาว่า แต่เราสามารถชมปลาวาฬได้ในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ปลาวาฬหลังค่อมจะเดินทางมาออกลูกและเลี้ยงลูกในช่วงฤดูหนาวของโอกินาว่า ช่วงที่จะชมปลาวาฬได้อยู่ระหว่างเดือนมกราคม - ต้นเดือนเมษายน
สถานที่ชมปลาวาฬมี 2 ที่ใหญ่ๆด้วยกัน คือ ทะเลบริเวณเกาะเครามะ และ ทะเลอิเอะ ออกเดินทางด้วยเรือและไปตามหาปลาวาฬ ถ้าได้เห็นปลาวาฬกระโดด หรือ โชว์อะไรพิเศษคงจะประทับใจไม่ลืมเลยนะคะ ในช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่มีโอกาสเจอปลาวาฬสูง ลองหาทัวร์ออกไปตามหาปลาวาฬในช่วงนี้กันดูนะคะ ทัวร์มีหลายบริษัท แต่ละบริษัทแตกต่างกันที่ชนิดของเรือ สถานที่ชมปลาวาฬ และการบริการ เลือกทัวร์และเรือที่ถูกใจกันได้เลย
8.ถ้ำสีน้ำเงิน (青の洞窟)
แม้ว่าจะเป็นฤดูหนาว แต่ไปโอกินาว่าทั้งที ก็อยากจะลงไปสัมผัสทะเลใช่มั้ยละคะ ถ้ากลัวว่าจะหนาว ใส่ wetsuit ก็ไม่หนาวแล้วล่ะค่ะ อุณหภูมิของน้ำส่วนมากเกิน 20 องศาขึ้นไป ความใสของน้ำก็ใสมากกว่าในช่วงฤดูร้อนด้วย เหมาะที่จะไปดำน้ำ ดูปะการัง โดยเฉพาะที่ “อะโอะ โนะ โดกุซึ” หรือ ถ้ำสีน้ำเงิน (青の洞窟) เป็นสถานที่ที่นักดำน้ำชื่นชอบ และมีความสวยงามน่าค้นหา ดำน้ำในช่วงฤดูหนาว ก็จะได้เจอกับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่พบเห็นได้เฉพาะในฤดูนี้ และเนื่องจากว่าไม่ใช่ฤดูดำน้ำ จึงต้องไปกับทัวร์ซึ่งจำกัดจำนวนคน ทำให้ชมความสวยงามได้อย่างเต็มอิ่ม
9.ฟุยุ โนะ ซากุระ (冬の桜)
ซากุระของโอกินาว่า เรียกว่า “ฮิคังซากุระ” มีดอกสีชมพูเข้มและสวยงามมากๆ ฤดูของซากุระอยู่ระหว่างกลางเดือนมกราคม - ปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะที่เมืองนาโกะ เป็นจุดชมซากุระที่สวยงาม และที่ปราสาทนาคิจิน ซึ่งเป็นมรดกโลก ก็เป็นอีกจุดที่สามารถชมซากุระได้
10.Ryukyu Onsen Senagajima Hotel Ryujin Hot Spring (琉球温泉 瀬長島ホテル)
ถ้าเข้าฤดูหนาวแล้วก็ต้องไปแช่ออนเซ็น ที่โอกินาว่าก็มีออนเซ็นที่น่าสนใจ คือ Ryukyu Onsen เป็นออนเซ็นที่อยู่ในโรงแรม Ryukyu Onsen Senagajima Hotel Ryujin Hot Spring ซึ่งเป็นออนเซ็นยอดนิยมในโอกินาว่า เปิดให้บริการเมื่อปี ค.ศ. 2013 โรงแรมตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนาฮะ เดินทางด้วยรถยนต์เพียง 10 นาที และเป็นโรงแรมที่สามารถแช่ออนเซ็นไปด้วย ชมวิวทะเลไปด้วยได้ เป็นที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจสุดๆ
นอกจากนี้ ภายในโรงแรมแห่งนี้ยังตกแต่งอย่างสวยงาม ให้ความรู้สึกว่าได้มาเที่ยวประเทศที่อยู่ทางใต้ และรู้สึกว่าได้พักผ่อนอยู่ที่รีสอร์ท จะเข้ามาแช่ออนเซ็น หรือ ใช้บริการห้องอาหารแบบไป-กลับ ก็ได้อีกด้วย หลังจากแช่ออนเซ็นแล้ว แนะนำให้ทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรม พักใจชมวิวทะเลสวยๆระหว่างทานอาหารกันนะคะ
ปกติแล้วในช่วงฤดูร้อนโรงแรมจะมีราคาสูง แต่ในช่วงฤดูหนาวราคาจะลดลงมา ทำให้ได้โรงแรมหรูในราคาประหยัด เหมาะกับคนที่ชอบพักผ่อนที่โรงแรมและแช่ออนเซ็น ฤดูหนาวนี้ลองไปเที่ยวโอกินาว่ากันมั้ยคะ ?
ไปเที่ยวโอกินาว่าในวันที่อากาศไม่ร้อนจัดกันเถอะ !
ฤดูหนาวนี้ ลองไปสัมผัสทะเลโอกินาว่าในวันที่อากาศไม่ร้อนจัด และเดินเที่ยวได้สบายๆกันมั้ยคะ ? แถมอากาศยังเหมาะกับการพักผ่อนในโรงแรม แช่ออนเซ็นอุ่นๆ ที่ได้มาในราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย หรือใครที่ชอบความตื่นเต้น ก็สามารถไปทัวร์ชมปลาวาฬ หรือทัวร์ดำน้ำที่ถ้ำสีน้ำเงิน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าไปช่วงที่มีซากุระ ยังไปชมดอกไม้ได้อีกด้วย เรียกว่าทั้งเปิดประสบการณ์ใหม่ และได้ใช้วันหยุดอย่างคุ้มค่าแน่นอน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org
