กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้นำเสนอแผนทบทวนและจำกัดการใช้จ่ายด้านการแพทย์และประกันสังคมอื่น ๆ ในการจัดทำงบประมาณประจำปี 2561 ซึ่งจะทำให้ชาวญี่ปุ่นต้องรับภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลสูงขึ้น
สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่าค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาทางการแพทย์ การพยาบาลและประกันสังคมอื่น ๆ คิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาลญี่ปุ่น การตัดลดค่าใช้จ่ายค่าใช้จ่ายด้านนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นหากรัฐบาลญี่ปุ่นต้องการลดภาระขาดดุลงบประมาณที่สูงลิบลิ่ว
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้เสนอแผนต่อสภานโยบายเศรษฐกิจและการคลัง ให้ตัดลดเงินอุดหนุนบริการรักษาทางการแพทย์ที่รัฐบาลจ่ายให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ แผนการนี้ยังชี้ว่าค่าบริการรักษาทางการแพทย์นี้เป็นรายได้แก่บรรดาแพทย์ และที่ผ่านมาค่าบริการนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ค่าจ้างของบริษัทเอกชนและราคาสินค้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง
แผนการนี้ยังเสนอให้เพิ่มเพดานค่าใช้จ่ายซึ่งผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 75 ขึ้นไปต้องร่วมจ่ายเมื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์จากเดิมที่ร้อยละ 10 ให้เพิ่มมากขึ้น และยังระบุว่าควรจะมีการปรับเพิ่มเพดานค่าใช้จ่ายร่วมนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงร้อยละ 20
แผนการของกระทรวงการคลังถูกวิจารณ์ว่าจะสร้างภาระให้กับประชาชนอย่างมาก โดยหนึ่งคือเมื่อรัฐบาลลดเงินอุดหนุนที่จ่ายให้สถานพยาบาล จะทำให้สถานพยาบาลต้องขึ้นราคาค่ารักษาหรือลดคุณภาพการบริการลง เพราะสถานพยาบาลของญี่ปุ่นไม่สามารถถอนตัวออกจากระบบประกันสังคมได้
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นที่ทุกวันนี้จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเพียงแค่ 10% ของค่ารักษารวม ก็จะต้องจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นจนถึง 20% ในที่สุด
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นจะหารือประเด็นเหล่านี้กับกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ และจะปรับแก้แผนการภายในสิ้นปีนี้ หลังจากนั้นจะนำเสนอต่อรัฐสภาในการพิจารณางบประมาณในเดือนมีนาคม ปีหน้า.