บทประพันธ์ของ คิคุฉิ คัน (ค.ศ.1888-1948)
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์ อัศวเสนา
"คุณนายไข่มุก เธอทั้งสวยและสูงศักดิ์ สวรรค์ให้เธอมามาก แต่ถึงเวลาเอาคืน....?"
1
พอเห็นจดหมายของแม่ม่ายโชดะที่ภรรยายื่นให้ ชินอิชิโรหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความละอายใจระคนประหม่า ไม่อาจสบตาตรง ๆ กับดวงตาของภรรยาที่ฉาบฉายไปด้วยความจริงใจและสัตย์ซื่อจนเป็นประกายแสบตา
ใบหน้าของชิซุโกะยามนี้ดูสดชื่นแจ่มใสราวกับฤดูใบไม้ผลิ ไม่มีร่องรอยของความสงสัยไม่เชื่อใจสามีเลยแม้แต่น้อย ไม่แสดงความเคลือบแคลงสงสัยจดหมายของผู้หญิงที่เธอไม่รู้จักที่อยู่ ๆ ก็มีคนนำมาฝากไว้ให้สามี ชิซุโกะออกมาต้อนรับสามีที่กลับมาจากข้างนอกด้วยความอ่อนหวานนุ่มนวลตามปกติวิสัยของเธอ
ยิ่งเห็นอากัปกิริยาของภรรยา ชินอิชิโรก็ยิ่งละอายใจ นึกเสียใจที่ไปมีใจให้หญิงอื่นทั้ง ๆ ที่ได้รับความเชื่อถืออย่างสุดใจจากภรรยาเช่นนี้ เขาขอโทษชิซุโกะอยู่ในใจ
จดหมายของคุณนายรุริโกะที่ชิซุโกะยื่นให้เขานั้น ดูมันลึกลับน่าพรั่นพรึงราวกับถูกอาบไว้ด้วยมนต์ดำ ถ้าไม่มีใครอยู่ด้วยตรงนั้น เขาจะฉีกมันทิ้งทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดซองด้วยซ้ำ แต่การฉีกมันต่อหน้าภรรยาที่ยืนดูอยู่ตรงนั้นจะกลับทำให้เธอสงสัยแล้วเรื่องราวก็จะไปกันใหญ่
ชินอิชิโรรับซองจดหมายมาเปิดอย่างหวาด ๆ ในใจ กลิ่นหอมหวานของน้ำหอมราคาแพงที่อบมากับจดหมายชั่งเย้ายวนใจ แต่บัดนี้เขาไม่ใช่ชินอิชิโรที่ลุ่มหลงเสน่ห์ผู้หญิงเจ้าของจดหมายจนถอนตัวไม่ขึ้นอีกต่อไปแล้ว
ชายหนุ่มกวาดสายตาอ่านข้อความในจดหมายอย่างรวดเร็วด้วยความระแวดระวังและโกรธเกลียด ราวกับเป็นจดหมายจากศัตรูคู่พิพาท
...เมื่อสักครู่ดิฉันลองใจคุณ ลองใจดูซิว่าคุณจะแตกต่างจากผู้ชายที่มาเฟลิตกับดิฉันพวกนั้นหรือไม่ ดิฉันเบื่อการ เล่นรักแบบนั้นเต็มที ทำเป็นรักแต่ไม่มีความรู้สึกที่แท้จริงให้กันเลย บอกตรง ๆ ว่าดิฉันเบื่อพวกผู้ชายที่มาห้อมล้อมอยู่ พวกนั้นแสดงความรักแค่ที่ปลายนิ้วโดยร่างกายและจิตใจไม่ได้คล้อยตามเลย ดิฉันต้องการคนที่มีความจริงใจ เป็นลูกผู้ชายที่ทำตัวตรงไปตรงมาจากก้นบึ้งของหัวใจไม่ใช่แค่ที่ปลายนิ้ว
ตอนที่คุณผลุดลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธอย่างเหลืออดแล้วเดินออกไปจากห้องมิใยว่าดิฉันจะเรียกเอาไว้ ดิฉันมองตามหลังคุณไปและคิดว่าสุภาพบุรุษคนนี้เป็นคนจริงใจไม่ว่ากับเรื่องใด คิดว่าเมื่อทำอะไรจะต้องทุ่มเททั้งกายและใจไม่ใช่แค่พูดหรือชี้นิ้วอย่างเดียว คุณคือผู้ชายที่ดิฉันใฝ่หามานานเหลือเกิน
คุณชินอิชิโร...
คุณผ่านการทดสอบของดิฉันอย่างงดงาม
ทีนี้ถึงคราวที่ดิฉันจะถูกทดสอบบ้าง ดิฉันยินดีให้คุณทดสอบได้ตามใจ
กรุณามากับรถคันนี้ทันทีเลยเพื่อทดสอบว่าดิฉันได้ทำอะไร และจะทำอะไรเพื่อคุณ
รุริโกะ
ระหว่างที่อ่านข้อความในจดหมายอยู่นั้น ชินอิชิโรรู้สึกเหมือนความทรงจำอันงดงามผสมกับความแปลกประหลาดน่าหวาดหวั่นของคุณนายรุริโกะ เคลื่อนไหวสับสนปนเปอยู่ในหัวของเขา ราวกับงูพิษที่ฆ่าแล้วแต่ยังไม่ตายสนิท
ในหนึ่งคิดว่าจดหมายฉบับนั้นไม่ได้เป็นความเท็จไปเสียทั้งหมด คุณนายโฉมงามอาจเบื่อความรักจอมปลอมของพวกผู้ชายที่พากันมารุมล้อมเอาใจและสรรเสริญเยินยอด้วยคำหวานเพียงเพื่อให้เธอนิยมชมชอบ ความจริงแล้วเธออาจต้องการผู้ชายที่มีความจริงใจก็เป็นได้ พอคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าที่งามพร้อมไปด้วยเครื่องหน้าที่เหมาะเจาะ แก้มนวลเป็นยองใย และริมฝีปากจิ้มลิ้มเคลือบลิปสติกสีแดง ก็ฉายชัดขึ้นมาบนม่านตาของชินอิชิโร
ทว่า วินาทีต่อมา ก็ถูกทาบทับด้วยใบหน้าขาวซีดจนเกือบม่วงของจุน อะโอะกิ และภาพน้องชายของเขาที่เพิ่งเห็นเมื่อครู่ก่อน
2
ใจของชินอิชิโรคุกรุ่นไปด้วยความรู้สึกโกรธแค้นที่มีต่อวาจากลับกลอกลวงให้หลงของคุณนายโฉมงาม วาจาอันแฝงไว้ด้วยเล่ห์กลราวมีมนต์ขลังนี้เองที่คร่าชีวิตของอะโอะกิ จุน อย่างเลือดเย็น และไม่ใช่อะโอะกิ จุน คนเดียว น้องชายของเขา นายทหารเรือคนนั้น และผู้ชายมากหน้าหลายตาในวงสมาคมรอบตัวเจ้าหล่อน ก็กำลังถูกเสน่ห์มายาของแม่โฉมงามดูดดึงให้เดินออกนอกลู่นอกทางที่มนุษย์พึงปฏิบัติ แม้แต่ตัวเขาเองที่รู้สึกตัวขึ้นมาได้แบะหันหลังหนีด้วยความเกลียดกลัว ก็ยังถูกเจ้าหล่อนที่เปรียบดั่งนางพญาแมงมุมพยายามขว้างร่างแหแห่งใยแมงมุมมาดักเอาไว้ นางปีศาจ...หล่อนคือนางปีศาจดูดเลือดผู้ชาย...คิดมาถึงตรงนี้ชินอิชิโรรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาถูกอาบด้วยเลือดแดงฉาน ใบหน้าของอะโอกิผุดขึ้นมาร้องตะโกนก้อง “ช่วยเอานาฬิกาไปคืนให้ที”
ใช่...นาฬิกาเรือนนั้นต้องไม่ไปอยู่ในมือหญิงใจร้ายคนนั้นอย่างที่เป็นอยู่ เขาจะต้องเอาไปโยนใส่หน้าหล่อนให้สมกับความโกรธแค้นของอะโอะกิที่สิงอยู่ในนั้น และในเมื่อรู้ชัดแล้วว่าหล่อนคนนั้นคือคุณนายรุริโกะ เขามีความรับผิดชอบที่จะต้องทำตามที่ได้ให้คำมั่นไว้กับอะโอะกิ ไม่ใช่หันหลังหนีมาด้วยความหวาดหวั่นเช่นนี้...เขามีหน้าที่ต้องทำให้มโนธรรมที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของหล่อนสะกิดเตือนให้หล่อนรู้สึกละอายใจขึ้นมาบ้าง...แทนอะโอะกิ
มันไม่ใช่เวลาที่จะหนีเอาตัวรอดคนเดียว และก็โชคทีที่เจ้าหล่อนแสดงความประสงค์ที่จะพบกับเขาอีกครั้ง...ใช่ เขาจะใช้โอกาสนี้แหละทำให้มโนธรรมที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของหล่อนสะกิดเตือนให้หล่อนรู้สึกละอายใจขึ้นมาบ้าง เพื่อให้ดวงวิญญาณของอะโอะกิได้สู่สุคติ เพื่อช่วยให้น้องชายของอะโอะกิพ้นจากเงื้อมมือของหล่อน และเพื่อช่วยผู้ชายมากหน้าหลายตาที่รุมล้อมหล่อนอยู่ให้รอดพ้น
ขณะที่จิตใจของชินอิชิโรกำลังโลดแล่นสู่การตัดสินใจเด็ดเดี่ยวนั้นเอง คำพูดของชิซุโกะภรรยาของเขาผู้ไม่มีความเคลือบแคลงสงสัยอะไรเลยช่วยสำทับเข้ามาอีกแรงหนึ่ง
“ถ้าเป็นธุระด่วนละก็ รีบไปเดี๋ยวนี้เลยไม่ดีกว่าหรือคะ”
และคำพูดของหญิงสาวใจบริสุทธิ์ผู้นี้เองที่เตือนให้เขาได้คิดว่า ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เขาอยากเอาไปโยนใส่หน้าเจ้าหล่อนโฉมงาม นั่นก็คือจดหมายยวนเสน่ห์ที่เขารับมาจากมือของชิซุโกะฉบับนี้เอง เขาจะเอามันไปโยนใส่หน้าคุณนายรุริโกะเพื่อให้รู้ว่าเขาจะไม่มีวันลุ่มหลงเสน่ห์คำหวานของเจ้าหล่อนอีกต่อไป ให้เป็นเหมือนสัญญาว่าเขาจะรักชิซุโกะอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย
ชินอิชิโรตัดสินใจได้ในที่สุด ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อขณะตะโกนเสียงดัง ไม่ใช่เป็นคำบอกกล่าวกับภรรยา และก็ไม่ใช่คำสั่งคนขับรถ
“ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้ เร็ว ๆ หน่อย”
ชินอิชิโรตัวสั่นน้อย ๆ ด้วยความตื่นเต้นกับการกระทำของตนเอง
“พร้อมแล้วครับ ใช้เวลาไม่ถึงเจ็ดนาที”
คนขับรถบอกแล้วกระโจนขึ้นรถพร้อมกับผู้ช่วย
“ชิซุโกะ ผมไปทำธุระเดี๋ยวเดียว เสร็จแล้วจะรีบกลับทันที”
ชายหนุ่มลดเสียงลงบอกกับภรรยา พยายามเลี่ยงไม่สบตาเธอ แล้วก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ
คนขับรถติดเครื่องเสียงดังขรมและพอรถจะเคลื่อนออกจากที่นั้นเอง ชินอิชิโรก็โผล่หัวออกไปนอกหน้าต่างเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“ชิซุโกะ ช่วยเปิดลิ้นชักชั้นหนังสือของผม คิดว่าต้องเป็นด้านขวานะ ในนั้นมีสมุดอยู่เล่มหนึ่ง ช่วยหยิบมาทีเถิด”
ชิซุโกะรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนแล้วหยิบสมุดเล่มนั้นมาให้
“นี่แหละคืออาวุธของเรา” ชินอิชิโรตะโกนก้องอยู่ในใจขณะรับสมุดมาจากมือภรรยา
ชายหนุ่มมั่นใจว่าสิ่งเดียวที่จะใช้โจมตีจุดอ่อนของคุณนายรุริโกะได้ก็คือสมุดบันทึกที่อะโอะกิ จุนทิ้งเอาไว้เล่มนี้เอง
3
นั่งรถมาเดี๋ยวเดียวก็ถึงย่านโกะบันโจ
ชินอิชิโรไม่มีเวลาที่จะมานั่งไตร่ตรองว่าที่เขาตัดสินใจทำเช่นนี้นั้นดีหรือว่าไม่ดีอย่างไร เพราะในหัวของเขามีแต่หน้าของคุณนายรุริโกะ หน้าของชิซุโกะภรรยาของเขา หน้าของอะโอะกิผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุ และหน้าของผู้ชายหลายคนในห้องรับแขกของคุณนายโฉมงาม ลอยเคว้งคว้างสับสนปนเปกันราวกับเกิดพายุหมุน แต่ในความสับสนนั้นเองชินอิชิโรตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแล้วว่า “เขาจะทำลายเสน่ห์กลลวงของเจ้าหล่อน” ให้ย่อยยับไปกับมือ
รถยนต์คันงามลดความเร็วลงขณะแล่นผ่านประตูใหญ่เข้าไปในบริเวณคฤหาสน์ ชินอิชิโรก้าวขึ้นบันไดหินที่เขาตั้งใจจะไม่มาเหยียบอีกครั้ง ครั้งก่อนหน้านี้เขาก้าวขึ้นไปด้วยความนิยมชมชอบและความใฝ่ฝันที่มีต่อคุณนายโฉมงาม แต้ครั้งนี้ใจของเขากำลังเดือดพล่านด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
คนที่ออกมาต้อนรับไม่ใช่เด็กชายตัวเล็ก ๆ น่ารักคนเดิม แต่เป็นเด็กสาวอายุราว 17 ปี
“คุณนายรออยู่ เชิญทางนี้เจ้าค่ะ”
ชินอิชิโรไม่มีใจแม้จะกล่าวตอบรับคำเชิญ จึงได้แต่เดินตามเด็กสาวผู้นั้นไปเงียบ ๆ
เด็กสาวไม่ได้นำเขาไปที่ห้องรับแขก แต่พาเดินตรงขึ้นบันไดไปชั้นบน และพอเห็นชายหนุ่มทำท่าลังเลก็บอกว่า
“คุณผู้หญิงบอกให้เชิญไปที่ห้องรับแขกส่วนตัวเจ้าค่ะ”
ห้องรับแขกส่วนตัวของคุณนายอยู่ตรงเชิงบันไดนั้นเอง เด็กสาวเคาะประตูเบา ๆ แต่ไม่มีเสียงตอบจากข้างใน
“เอ๊ะ คุณนายไม่อยู่ คงจะกำลังแต่งตัว เชิญเข้าไปรออยู่ในห้องนี้เจ้าค่ะ”
เด็กสาวบอกพลางเปิดประตูให้ชินอิชิโรเข้าไปในห้องที่จัดแต่งไว้อย่างงดงาม ทุกซอกทุกมุมแฝงรสนิยมสูงส่งละเมียดละไม ไม่ว่าจะเป็นพรมสีม่วงอ่อนที่ปูเต็มห้อง ม่านหน้าต่างสีฟ้า แจกันปักดอกไม้ดอกเดียววางอยู่บนเปียโน ชั้นหนังสือเล็ก ๆ ทำด้วยไม้มาฮ็อคกานี ที่มีหนังสือนิยายฝรั่งเศสสันปกสวย ๆ เรียงอยู่เต็ม ภาพเขียนวิวทิวทัศน์ที่ดูเหมือนจะเป็นของจิตรกรคูร์เบท์แขวนอยู่บนผนังบุผ้าไหมสีขาวบริสุทธิ์ราวหิมะ หรือรูปหล่อทองแดงของเด็กหญิงที่วางอยู่บนชั้นเหนือเตาผิง เครื่องประดับทั้งหมดนอกจากจะส่องประกายแวววาวบ่งบอกถึงความสูงค่าแล้ว ยังสะท้อนรานิยมอันสูงส่งของเจ้าของห้องด้วย
เมื่อได้สัมผัสกับความรอบรู้และรสนิยมอันสูงส่งสะท้อนอยู่ในเครื่องประดับทุกชิ้นในห้องเช่นนี้ ชินอิชิโรอดรู้สึกถึงอันตรายไม่ได้ อันตรายที่ว่าความเคียดแค้นชิงชังที่สุมอยู่ในอกนั้นค่อย ๆ ลดความเฉียบคมรุนแรงลง
ทว่า ห้องอันงดงามนี้คือสวนดอกไม้อันมีพิษร้ายของเจ้าหล่อน เป็นเสน่ห์หนึ่งที่รัดรึงจิตใจชาย...ชินอิชิโรเปลี่ยนความคิดขณะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หวายที่ปูเบาะยัดขนนกสีฟ้า สวนอันกว้างขวางนอกหน้าต่างสว่างสดใสอยู่ในแสงแดดเดือนกรกฎาคม
คุณนายรุริโกะไม่ปรากฎโฉมสักที หญิงรับใช้นำน้ำผลไม้ใส่น้ำแข็งมาเสิร์ฟก็แล้ว เจ้าหล่อนก็ยังไม่มา
ชินอิชิโรไม่มีอะไรทำจึงพิศดูเครื่องประดับห้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ระหว่างนั้นสายตาของชายหนุ่มสะดุดอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก บนนั้นมีกระดาษเขียนจดหมายสีเดียวกับที่เขาได้รับเมื่อครู่ก่อน วางอยู่กับปากกาหมึกซึมประดับทองแบบของผู้หญิง จดหมายที่ส่งถึงเขาคงจะเขียนบนโต๊ะไม้มาฮ็อกกานีตัวนี้เอง ขณะที่มองนั่นมองนี่อยู่นั้นเขาก็สังเกตเห็นกระดาษเขียนจดหมายแผ่นหนึ่งเขียนอะไรเอาไว้ มองไม่ถนัดว่าภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศส ชินอิชิโรอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาจึงยืดตัวออกไปนิดหนึ่ง จึงเห็นตัวอักษรบนกระดาษได้ถนัด
Shinichiro
ชายหนุ่มประหลาดใจที่เห็นชื่อตนเอง และพออ่านต่อไป เขาก็ต้องประหลาดใจยิ่งขึ้นเป็นสิบเท่า
Shinichiro, my love!
“ชินอิชิโร คนรักของฉัน”
Shinichiro, my love เขียนด้วยลายมือสวยงามปราณีต เขียนซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเต็มไปทั้งหน้ากระดาษ
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์ อัศวเสนา
"คุณนายไข่มุก เธอทั้งสวยและสูงศักดิ์ สวรรค์ให้เธอมามาก แต่ถึงเวลาเอาคืน....?"
1
พอเห็นจดหมายของแม่ม่ายโชดะที่ภรรยายื่นให้ ชินอิชิโรหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความละอายใจระคนประหม่า ไม่อาจสบตาตรง ๆ กับดวงตาของภรรยาที่ฉาบฉายไปด้วยความจริงใจและสัตย์ซื่อจนเป็นประกายแสบตา
ใบหน้าของชิซุโกะยามนี้ดูสดชื่นแจ่มใสราวกับฤดูใบไม้ผลิ ไม่มีร่องรอยของความสงสัยไม่เชื่อใจสามีเลยแม้แต่น้อย ไม่แสดงความเคลือบแคลงสงสัยจดหมายของผู้หญิงที่เธอไม่รู้จักที่อยู่ ๆ ก็มีคนนำมาฝากไว้ให้สามี ชิซุโกะออกมาต้อนรับสามีที่กลับมาจากข้างนอกด้วยความอ่อนหวานนุ่มนวลตามปกติวิสัยของเธอ
ยิ่งเห็นอากัปกิริยาของภรรยา ชินอิชิโรก็ยิ่งละอายใจ นึกเสียใจที่ไปมีใจให้หญิงอื่นทั้ง ๆ ที่ได้รับความเชื่อถืออย่างสุดใจจากภรรยาเช่นนี้ เขาขอโทษชิซุโกะอยู่ในใจ
จดหมายของคุณนายรุริโกะที่ชิซุโกะยื่นให้เขานั้น ดูมันลึกลับน่าพรั่นพรึงราวกับถูกอาบไว้ด้วยมนต์ดำ ถ้าไม่มีใครอยู่ด้วยตรงนั้น เขาจะฉีกมันทิ้งทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดซองด้วยซ้ำ แต่การฉีกมันต่อหน้าภรรยาที่ยืนดูอยู่ตรงนั้นจะกลับทำให้เธอสงสัยแล้วเรื่องราวก็จะไปกันใหญ่
ชินอิชิโรรับซองจดหมายมาเปิดอย่างหวาด ๆ ในใจ กลิ่นหอมหวานของน้ำหอมราคาแพงที่อบมากับจดหมายชั่งเย้ายวนใจ แต่บัดนี้เขาไม่ใช่ชินอิชิโรที่ลุ่มหลงเสน่ห์ผู้หญิงเจ้าของจดหมายจนถอนตัวไม่ขึ้นอีกต่อไปแล้ว
ชายหนุ่มกวาดสายตาอ่านข้อความในจดหมายอย่างรวดเร็วด้วยความระแวดระวังและโกรธเกลียด ราวกับเป็นจดหมายจากศัตรูคู่พิพาท
...เมื่อสักครู่ดิฉันลองใจคุณ ลองใจดูซิว่าคุณจะแตกต่างจากผู้ชายที่มาเฟลิตกับดิฉันพวกนั้นหรือไม่ ดิฉันเบื่อการ เล่นรักแบบนั้นเต็มที ทำเป็นรักแต่ไม่มีความรู้สึกที่แท้จริงให้กันเลย บอกตรง ๆ ว่าดิฉันเบื่อพวกผู้ชายที่มาห้อมล้อมอยู่ พวกนั้นแสดงความรักแค่ที่ปลายนิ้วโดยร่างกายและจิตใจไม่ได้คล้อยตามเลย ดิฉันต้องการคนที่มีความจริงใจ เป็นลูกผู้ชายที่ทำตัวตรงไปตรงมาจากก้นบึ้งของหัวใจไม่ใช่แค่ที่ปลายนิ้ว
ตอนที่คุณผลุดลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธอย่างเหลืออดแล้วเดินออกไปจากห้องมิใยว่าดิฉันจะเรียกเอาไว้ ดิฉันมองตามหลังคุณไปและคิดว่าสุภาพบุรุษคนนี้เป็นคนจริงใจไม่ว่ากับเรื่องใด คิดว่าเมื่อทำอะไรจะต้องทุ่มเททั้งกายและใจไม่ใช่แค่พูดหรือชี้นิ้วอย่างเดียว คุณคือผู้ชายที่ดิฉันใฝ่หามานานเหลือเกิน
คุณชินอิชิโร...
คุณผ่านการทดสอบของดิฉันอย่างงดงาม
ทีนี้ถึงคราวที่ดิฉันจะถูกทดสอบบ้าง ดิฉันยินดีให้คุณทดสอบได้ตามใจ
กรุณามากับรถคันนี้ทันทีเลยเพื่อทดสอบว่าดิฉันได้ทำอะไร และจะทำอะไรเพื่อคุณ
รุริโกะ
ระหว่างที่อ่านข้อความในจดหมายอยู่นั้น ชินอิชิโรรู้สึกเหมือนความทรงจำอันงดงามผสมกับความแปลกประหลาดน่าหวาดหวั่นของคุณนายรุริโกะ เคลื่อนไหวสับสนปนเปอยู่ในหัวของเขา ราวกับงูพิษที่ฆ่าแล้วแต่ยังไม่ตายสนิท
ในหนึ่งคิดว่าจดหมายฉบับนั้นไม่ได้เป็นความเท็จไปเสียทั้งหมด คุณนายโฉมงามอาจเบื่อความรักจอมปลอมของพวกผู้ชายที่พากันมารุมล้อมเอาใจและสรรเสริญเยินยอด้วยคำหวานเพียงเพื่อให้เธอนิยมชมชอบ ความจริงแล้วเธออาจต้องการผู้ชายที่มีความจริงใจก็เป็นได้ พอคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าที่งามพร้อมไปด้วยเครื่องหน้าที่เหมาะเจาะ แก้มนวลเป็นยองใย และริมฝีปากจิ้มลิ้มเคลือบลิปสติกสีแดง ก็ฉายชัดขึ้นมาบนม่านตาของชินอิชิโร
ทว่า วินาทีต่อมา ก็ถูกทาบทับด้วยใบหน้าขาวซีดจนเกือบม่วงของจุน อะโอะกิ และภาพน้องชายของเขาที่เพิ่งเห็นเมื่อครู่ก่อน
2
ใจของชินอิชิโรคุกรุ่นไปด้วยความรู้สึกโกรธแค้นที่มีต่อวาจากลับกลอกลวงให้หลงของคุณนายโฉมงาม วาจาอันแฝงไว้ด้วยเล่ห์กลราวมีมนต์ขลังนี้เองที่คร่าชีวิตของอะโอะกิ จุน อย่างเลือดเย็น และไม่ใช่อะโอะกิ จุน คนเดียว น้องชายของเขา นายทหารเรือคนนั้น และผู้ชายมากหน้าหลายตาในวงสมาคมรอบตัวเจ้าหล่อน ก็กำลังถูกเสน่ห์มายาของแม่โฉมงามดูดดึงให้เดินออกนอกลู่นอกทางที่มนุษย์พึงปฏิบัติ แม้แต่ตัวเขาเองที่รู้สึกตัวขึ้นมาได้แบะหันหลังหนีด้วยความเกลียดกลัว ก็ยังถูกเจ้าหล่อนที่เปรียบดั่งนางพญาแมงมุมพยายามขว้างร่างแหแห่งใยแมงมุมมาดักเอาไว้ นางปีศาจ...หล่อนคือนางปีศาจดูดเลือดผู้ชาย...คิดมาถึงตรงนี้ชินอิชิโรรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาถูกอาบด้วยเลือดแดงฉาน ใบหน้าของอะโอกิผุดขึ้นมาร้องตะโกนก้อง “ช่วยเอานาฬิกาไปคืนให้ที”
ใช่...นาฬิกาเรือนนั้นต้องไม่ไปอยู่ในมือหญิงใจร้ายคนนั้นอย่างที่เป็นอยู่ เขาจะต้องเอาไปโยนใส่หน้าหล่อนให้สมกับความโกรธแค้นของอะโอะกิที่สิงอยู่ในนั้น และในเมื่อรู้ชัดแล้วว่าหล่อนคนนั้นคือคุณนายรุริโกะ เขามีความรับผิดชอบที่จะต้องทำตามที่ได้ให้คำมั่นไว้กับอะโอะกิ ไม่ใช่หันหลังหนีมาด้วยความหวาดหวั่นเช่นนี้...เขามีหน้าที่ต้องทำให้มโนธรรมที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของหล่อนสะกิดเตือนให้หล่อนรู้สึกละอายใจขึ้นมาบ้าง...แทนอะโอะกิ
มันไม่ใช่เวลาที่จะหนีเอาตัวรอดคนเดียว และก็โชคทีที่เจ้าหล่อนแสดงความประสงค์ที่จะพบกับเขาอีกครั้ง...ใช่ เขาจะใช้โอกาสนี้แหละทำให้มโนธรรมที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของหล่อนสะกิดเตือนให้หล่อนรู้สึกละอายใจขึ้นมาบ้าง เพื่อให้ดวงวิญญาณของอะโอะกิได้สู่สุคติ เพื่อช่วยให้น้องชายของอะโอะกิพ้นจากเงื้อมมือของหล่อน และเพื่อช่วยผู้ชายมากหน้าหลายตาที่รุมล้อมหล่อนอยู่ให้รอดพ้น
ขณะที่จิตใจของชินอิชิโรกำลังโลดแล่นสู่การตัดสินใจเด็ดเดี่ยวนั้นเอง คำพูดของชิซุโกะภรรยาของเขาผู้ไม่มีความเคลือบแคลงสงสัยอะไรเลยช่วยสำทับเข้ามาอีกแรงหนึ่ง
“ถ้าเป็นธุระด่วนละก็ รีบไปเดี๋ยวนี้เลยไม่ดีกว่าหรือคะ”
และคำพูดของหญิงสาวใจบริสุทธิ์ผู้นี้เองที่เตือนให้เขาได้คิดว่า ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่เขาอยากเอาไปโยนใส่หน้าเจ้าหล่อนโฉมงาม นั่นก็คือจดหมายยวนเสน่ห์ที่เขารับมาจากมือของชิซุโกะฉบับนี้เอง เขาจะเอามันไปโยนใส่หน้าคุณนายรุริโกะเพื่อให้รู้ว่าเขาจะไม่มีวันลุ่มหลงเสน่ห์คำหวานของเจ้าหล่อนอีกต่อไป ให้เป็นเหมือนสัญญาว่าเขาจะรักชิซุโกะอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย
ชินอิชิโรตัดสินใจได้ในที่สุด ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อขณะตะโกนเสียงดัง ไม่ใช่เป็นคำบอกกล่าวกับภรรยา และก็ไม่ใช่คำสั่งคนขับรถ
“ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้ เร็ว ๆ หน่อย”
ชินอิชิโรตัวสั่นน้อย ๆ ด้วยความตื่นเต้นกับการกระทำของตนเอง
“พร้อมแล้วครับ ใช้เวลาไม่ถึงเจ็ดนาที”
คนขับรถบอกแล้วกระโจนขึ้นรถพร้อมกับผู้ช่วย
“ชิซุโกะ ผมไปทำธุระเดี๋ยวเดียว เสร็จแล้วจะรีบกลับทันที”
ชายหนุ่มลดเสียงลงบอกกับภรรยา พยายามเลี่ยงไม่สบตาเธอ แล้วก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ
คนขับรถติดเครื่องเสียงดังขรมและพอรถจะเคลื่อนออกจากที่นั้นเอง ชินอิชิโรก็โผล่หัวออกไปนอกหน้าต่างเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“ชิซุโกะ ช่วยเปิดลิ้นชักชั้นหนังสือของผม คิดว่าต้องเป็นด้านขวานะ ในนั้นมีสมุดอยู่เล่มหนึ่ง ช่วยหยิบมาทีเถิด”
ชิซุโกะรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนแล้วหยิบสมุดเล่มนั้นมาให้
“นี่แหละคืออาวุธของเรา” ชินอิชิโรตะโกนก้องอยู่ในใจขณะรับสมุดมาจากมือภรรยา
ชายหนุ่มมั่นใจว่าสิ่งเดียวที่จะใช้โจมตีจุดอ่อนของคุณนายรุริโกะได้ก็คือสมุดบันทึกที่อะโอะกิ จุนทิ้งเอาไว้เล่มนี้เอง
3
นั่งรถมาเดี๋ยวเดียวก็ถึงย่านโกะบันโจ
ชินอิชิโรไม่มีเวลาที่จะมานั่งไตร่ตรองว่าที่เขาตัดสินใจทำเช่นนี้นั้นดีหรือว่าไม่ดีอย่างไร เพราะในหัวของเขามีแต่หน้าของคุณนายรุริโกะ หน้าของชิซุโกะภรรยาของเขา หน้าของอะโอะกิผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุ และหน้าของผู้ชายหลายคนในห้องรับแขกของคุณนายโฉมงาม ลอยเคว้งคว้างสับสนปนเปกันราวกับเกิดพายุหมุน แต่ในความสับสนนั้นเองชินอิชิโรตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแล้วว่า “เขาจะทำลายเสน่ห์กลลวงของเจ้าหล่อน” ให้ย่อยยับไปกับมือ
รถยนต์คันงามลดความเร็วลงขณะแล่นผ่านประตูใหญ่เข้าไปในบริเวณคฤหาสน์ ชินอิชิโรก้าวขึ้นบันไดหินที่เขาตั้งใจจะไม่มาเหยียบอีกครั้ง ครั้งก่อนหน้านี้เขาก้าวขึ้นไปด้วยความนิยมชมชอบและความใฝ่ฝันที่มีต่อคุณนายโฉมงาม แต้ครั้งนี้ใจของเขากำลังเดือดพล่านด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
คนที่ออกมาต้อนรับไม่ใช่เด็กชายตัวเล็ก ๆ น่ารักคนเดิม แต่เป็นเด็กสาวอายุราว 17 ปี
“คุณนายรออยู่ เชิญทางนี้เจ้าค่ะ”
ชินอิชิโรไม่มีใจแม้จะกล่าวตอบรับคำเชิญ จึงได้แต่เดินตามเด็กสาวผู้นั้นไปเงียบ ๆ
เด็กสาวไม่ได้นำเขาไปที่ห้องรับแขก แต่พาเดินตรงขึ้นบันไดไปชั้นบน และพอเห็นชายหนุ่มทำท่าลังเลก็บอกว่า
“คุณผู้หญิงบอกให้เชิญไปที่ห้องรับแขกส่วนตัวเจ้าค่ะ”
ห้องรับแขกส่วนตัวของคุณนายอยู่ตรงเชิงบันไดนั้นเอง เด็กสาวเคาะประตูเบา ๆ แต่ไม่มีเสียงตอบจากข้างใน
“เอ๊ะ คุณนายไม่อยู่ คงจะกำลังแต่งตัว เชิญเข้าไปรออยู่ในห้องนี้เจ้าค่ะ”
เด็กสาวบอกพลางเปิดประตูให้ชินอิชิโรเข้าไปในห้องที่จัดแต่งไว้อย่างงดงาม ทุกซอกทุกมุมแฝงรสนิยมสูงส่งละเมียดละไม ไม่ว่าจะเป็นพรมสีม่วงอ่อนที่ปูเต็มห้อง ม่านหน้าต่างสีฟ้า แจกันปักดอกไม้ดอกเดียววางอยู่บนเปียโน ชั้นหนังสือเล็ก ๆ ทำด้วยไม้มาฮ็อคกานี ที่มีหนังสือนิยายฝรั่งเศสสันปกสวย ๆ เรียงอยู่เต็ม ภาพเขียนวิวทิวทัศน์ที่ดูเหมือนจะเป็นของจิตรกรคูร์เบท์แขวนอยู่บนผนังบุผ้าไหมสีขาวบริสุทธิ์ราวหิมะ หรือรูปหล่อทองแดงของเด็กหญิงที่วางอยู่บนชั้นเหนือเตาผิง เครื่องประดับทั้งหมดนอกจากจะส่องประกายแวววาวบ่งบอกถึงความสูงค่าแล้ว ยังสะท้อนรานิยมอันสูงส่งของเจ้าของห้องด้วย
เมื่อได้สัมผัสกับความรอบรู้และรสนิยมอันสูงส่งสะท้อนอยู่ในเครื่องประดับทุกชิ้นในห้องเช่นนี้ ชินอิชิโรอดรู้สึกถึงอันตรายไม่ได้ อันตรายที่ว่าความเคียดแค้นชิงชังที่สุมอยู่ในอกนั้นค่อย ๆ ลดความเฉียบคมรุนแรงลง
ทว่า ห้องอันงดงามนี้คือสวนดอกไม้อันมีพิษร้ายของเจ้าหล่อน เป็นเสน่ห์หนึ่งที่รัดรึงจิตใจชาย...ชินอิชิโรเปลี่ยนความคิดขณะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หวายที่ปูเบาะยัดขนนกสีฟ้า สวนอันกว้างขวางนอกหน้าต่างสว่างสดใสอยู่ในแสงแดดเดือนกรกฎาคม
คุณนายรุริโกะไม่ปรากฎโฉมสักที หญิงรับใช้นำน้ำผลไม้ใส่น้ำแข็งมาเสิร์ฟก็แล้ว เจ้าหล่อนก็ยังไม่มา
ชินอิชิโรไม่มีอะไรทำจึงพิศดูเครื่องประดับห้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ระหว่างนั้นสายตาของชายหนุ่มสะดุดอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก บนนั้นมีกระดาษเขียนจดหมายสีเดียวกับที่เขาได้รับเมื่อครู่ก่อน วางอยู่กับปากกาหมึกซึมประดับทองแบบของผู้หญิง จดหมายที่ส่งถึงเขาคงจะเขียนบนโต๊ะไม้มาฮ็อกกานีตัวนี้เอง ขณะที่มองนั่นมองนี่อยู่นั้นเขาก็สังเกตเห็นกระดาษเขียนจดหมายแผ่นหนึ่งเขียนอะไรเอาไว้ มองไม่ถนัดว่าภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศส ชินอิชิโรอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาจึงยืดตัวออกไปนิดหนึ่ง จึงเห็นตัวอักษรบนกระดาษได้ถนัด
Shinichiro
ชายหนุ่มประหลาดใจที่เห็นชื่อตนเอง และพออ่านต่อไป เขาก็ต้องประหลาดใจยิ่งขึ้นเป็นสิบเท่า
Shinichiro, my love!
“ชินอิชิโร คนรักของฉัน”
Shinichiro, my love เขียนด้วยลายมือสวยงามปราณีต เขียนซ้ำแล้วซ้ำอีกจนเต็มไปทั้งหน้ากระดาษ