xs
xsm
sm
md
lg

ขุนศึกมินะโมะโตะ ลูกน้องแบบไหนโดนใจบอส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้วครับ ที่ญี่ปุ่นมีคำกล่าวว่าถ้าอยากรู้จักนิสัยหรือตัวตนของใครคนใดคนหนึ่งนอกจากดูที่ตัวของบุคคลคนนั้นแล้วดูจากคนรอบๆ ตัวเขาก็สามารถบอกนิสัยของคนผู้นั้นได้เช่นกัน ก่อนหน้านี้เคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับวีระบุรุษ Minamoto no Yoshitsune (源 義経) มินะโมะโตะ โยะชิสึเนะ ผู้พันในยุค 鎌倉Kamakura ของประเทศญี่ปุ่น ไปแล้ว เขาคือผู้ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อพี่ชายของตัวเอง แต่กลับถูกพี่ชายแท้ๆ สั่งฆ่า เพราะพี่ชายที่มีตำแหน่งสูงใหญ่และอำนาจวาสนาบารมีมากกว่า

ท้าวความถึงประวัติของ Minanoto no Yoshitsune นิดหน่อยครับ เผื่อมีคนเพิ่งมาอ่านใหม่ โยะชิสึเนะเกิดเมื่อปีค.ศ. 1159 เป็นบุตรชายคนที่ 9 ของ 源義朝 Minanoto no Yoshitomo เมื่อเกิดกบฏเฮจิขึ้นระหว่างตระกูลเซวะเง็นจิหรือตระกูลมินะโมะโตะกับตระกูลเฮชิ ที่นำโดย 平清盛 Taira no Kiyomori ผลปรากฏว่าตระกูลมิโนะโมะโตะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ จึงถูกกวาดล้างและประหารชีวิตยกตระกูลเกือบหมดสิ้น เหลือเพียงไม่กี่คน ที่ยังเป็นเด็กๆ ในตอนนั้นคือ 源頼朝 Minamoto no Yoritomo พี่ชายต่างมารดาของ Yoshitsune ซึ่งต่อมา Yoritomo เป็นผู้ก่อตั้งรัฐบาลโชกุนคะมะกุระ และดำรงตำแหน่งโชกุนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1192 - 1199 นี่คือพี่ชายที่บอกว่ามีอำนาจวาสนาบารมีครับ
Yoritomo
ในสมัยเฮอันราชสำนักญี่ปุ่น ถูกครอบครองด้วยคนของตระกูลฟุจิวาระ แต่นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ตระกูลใหญ่ คือตระกูลไทระ ที่สืบเชื้อสายมาจากจักรพรรดิคัมมุ และ ตระกูลมินะโมโตะ สืบเชื้อสายมาจากจักรพรรดิเซอิวะ ซึ่งพวกลูกหลานของทั้ง 2 ตระกูล จึงถือเป็นเชื้อสายของจักรพรรดิญี่ปุ่นเช่นกัน โดยตระกูลไทระ จะคุมอาณาเขตอยู่บริเวณภูมิภาคตะวันตกของญี่ปุ่นและบริเวณชายฝั่งทะเล เพราะมีความเชี่ยวชาญการรบในทะเล และการใช้เรือ คนตระกูลนี้มีความมุ่งหวังอยากเป็นขุนนาง อยากเป็นเชื้อพระวงค์ ส่วนตระกูลมินะโมโตะจะกุมอำนาจแถบคันโต เชี่ยวชาญการรบภาคพื้นดิน ไม่ค่อยชอบสิ่งที่ตระกูลไทระประจบประแจงเพื่อเป็นขุนนงขุนนางอะไรแต่อยากจะจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาด้วยตนเอง

ครั้นเมื่อถึงสมัยจักรพรรดิโกชิรากาวะทรงมีปัญหากับ ตระกูลฟุจิวาระ พระองค์จึงเรียกตระกูลไทระเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนตระกูลฟุจิวาระก็ขอความช่วยเหลือไปที่ตระกูลมินะโมโตะ ทำให้เกิดสงครามขึ้นในเมืองหลวงนั่นเอง นี่คือเรื่องราวคร่าวๆ ว่าทำไมจึงเกิดศึกระหว่างสองตะกูลครับ

ส่วนประวัติคร่าวๆ ของ Minamoto no Yoritomo ผู้เป็นพี่ชายของ Yoshitsune นั้นเกิดเมื่อปีค.ศ. 1147 มีพี่ชายต่างมารดาจำนวน 2 คน และมีน้องชายต่างมารดาอีก 6 คน แต่ที่เหลือรอดเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ได้แก่ Minamoto no Noriyori (源範頼) และ Minanoto no Yoshitsune (源義経) นั่นเอง
Noriyori
Minamoto no Yoritomo เริ่มเข้ารับราชการเมื่ออายุได้ 12 ปี เป็นทหารองค์รักษ์ในพระราชวัง พอถึงปีค.ศ. 1159 มารดาของ Yoritomo ได้เสียชีวิตลง และเกิดกบฏเฮจิขึ้นเป็นความขัดแย้งระหว่างตระกูลเซวะเง็นจิ ซึ่งนำโดย Minamoto no Yoshitomo ผู้เป็นบิดา กับตระกูลไทระ Minamoto no Yoritomo ได้เข้าร่วมรบกับบิดาและพี่ชายทั้งสองของตน จนกระทั่งทัพของตระกูลมินะโมะโตะถูกตีแตกพ่ายไป Yoritomo จึงหลบหนีเข้าป่าร่วมกับบิดาและพี่ชายทั้งสอง ปรากฏว่าพี่ชายบาดเจ็บสาหัสและถูกบิดาสังหารให้เสียชีวิตไปเสียจะได้ไม่ทรมานประมาณนั้น และ Yoshitomo ผู้เป็นบิดาถูกข้ารับใช้คนสนิทสังหารอีกต่อ พี่ชายอีกคนถูกจับกุมและโดนประหารชีวิต

ส่วน Yoritomo หลงทางอยู่ในป่าผู้เดียวและถูกจับกุมในเวลาต่อมา แต่โชคเข้าข้างเพราะด้วยคำขอของนาง Ike no Zenni (池禅尼) มารดาเลี้ยงของไทระ โนะ คิโยะโมะริ ขอให้ไว้ชีวิต Yoritomo เพราะมีหน้าตาเหมือนลูกชายของนางที่เสียชีวิตไปก่อนนี้แล้ว Yoritomo จึงได้รับการไว้ชีวิต เมื่อเติบโตขึ้นถูกเนรเทศไปแคว้นอิซุ และมีเกิดเรื่องราวขึ้นหลายอย่างจนทำให้ Yoritomo หลบหนี และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นี่ก็คืออีกหนึ่งปมที่ไม่รู้อะไรลิขิตไว้หรือเปล่าเพราะถ้าคนของตระกูลมินะโมะโตะถูกฆ่าตายทั้งหมดในวันนั้นก็คงไม่มีคนที่มาตามล้างแค้นฆ่าคนตระกูลไทระจนหมดสิ้นในกาลต่อมา เรื่องแบบนี้คนญี่ปุ่นเรียกว่า 宿命 Shukumei (Fate) ไว้ถ้ามีโอกาสจะเล่าในครั้งต่อๆ ไปครับ

จนกระทั่งปีค.ศ. 1180 เจ้าชาย Mochihito (以仁王) ซึ่งไม่พอพระทัยการปกครองของตระกูลไทระ ออกประกาศให้สมาชิกตระกูลเซวะเง็นจิ (Minamoto) ที่ยังมีชีวิตอยู่ทั่วญี่ปุ่นลุกขึ้นต่อต้านการปกครองของตระกูลไทระ Yoritomo จึงได้โอกาสรวบรวมกำลังพลเพื่อต่อสู้กับตระกูลไทระอีกครั้งและตั้งฐานที่มั่นที่เมืองคะมะกุระ นอกจากนั้นต่อมาได้พบกับ โยะชิสึเนะ น้องชายต่างมารดาซึ่งได้ขอเข้าร่วมกองกำลังด้วย จนกระทั่งในที่สุดก็สามารถ บุกยึดเมืองเกียวโตได้สำเร็จ ในค.ศ. 1184 จากนั้นในปีค.ศ. 1190 Yoritomo มีโอกาสเดินทางกลับไปยังเมืองเกียวโตเป็นครั้งแรกหลังจากถูกเนรเทศออกมาเมื่อ 30 ปีก่อน Yoritomo ต้องการตำแหน่ง เซไทโชกุน (征夷大将軍) อันเป็นตำแหน่งสูงสุดทางฝ่ายทหาร จนในที่สุดก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเซไทโชกุน

และนี่คือประวัติคร่าวๆ ที่ทำให้รู้จัก 2 พี่น้อง ตระกูลเซวะเง็นจิ Minamoto no Yoritomo และ Minamoto no Yoshitsune ครับ นอกจากนั้นยังมีน้องชายต่างมารดาอีกคนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์กบฏเฮจิ และมีประเด็นที่น่าสนใจ เพราะน้องชายทั้งสองคนนี้เป็นลูกน้องของ Yoritomo น้องชายอีกคนที่ชื่อว่า Minamoto no Noriyori (源範頼 ) Noriyori เป็นคนที่เงียบขรึม อาจจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากนัก และอาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่ Yoritomo ให้ความไว้วางใจน้องชายคนนี้มากกว่า Yoshitsune เพราะ Noriyori เป็นคนที่ทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา หรือที่เรียกกันว่า 報 連 相 (hou ren sou) เสมอ


คำว่า Hou Ren Sou เป็นคำย่อในภาษาญี่ปุ่น มากจากคำว่า 報告 , 連絡 , 相談 เปรียบเหมือนหลักสำคัญในการทำงาน ซึ่งคนญี่ปุ่นทุกคนจะรู้จักดีครับ
🔹報告(ほうこく) อ่านว่า Houkoku แปลว่า รายงานสิ่งที่ได้ทำไป รายงานแผน รายงานความคืบหน้า หรือรายงานปัญหา ต่างๆ นานา🔹連絡 (れんらく) อ่านว่า Renraku แปลว่า ติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลง หรือการแจ้งให้รับทราบอยู่เสมอ🔹相談(そうだん) อ่านว่า Soudan แปลว่า การปรึกษาหารือในกรณีมีข้อสงสัยเกิดปัญหาขึ้น หรือขอคำแนะนำชี้แนะต่างๆ เป็นต้น

หรือย่อให้เข้าใจง่ายๆ ว่า การรายงาน การติดต่อสื่อสาร และ การปรึกษา ถือว่าเป็นขบวนการสำคัญในการทำงานและบริหารงานขององค์กร ถ้าทีโอกาสไว้จะเล่าให้ฟังคราวต่อๆ ไปนะครับ ซึ่ง Noriyori เองนอกจากจะปฏิบัติการ Hou Ren Sou อย่างสม่ำเสมอแล้ว เขาเป็นคนที่ไม่ทำตามอำเภอใจตนเอง เป็นโปรเจ็คลีดเดอร์หรือผู้นำทีมสังหารตระกูลไทระ แต่ไม่เด่นเท่า Yoshitsune ถ้าเป็นวงดนตรี Noriyori คงจะเป็นหัวหน้าวงที่มีหน้าที่เป็นพวกมือเบสหรือกีต้าร์ ไม่เด่นเท่านักร้องนำประมาณนั้น เป็นผู้นำที่มีลักษณะนำทีมแต่ไม่ค่อยลงหน้างาน ไม่ลุยมุทะลุเหมือน Yoshitsune นั่นเอง

ถ้าให้เปรียบเทียบลักษณะการทำงาน ของผู้นำทีม 2 แบบ เพื่อนๆ คิดว่าอยากได้ผู้นำแบบไหนครับ ระหว่าง Yoshitsune ผู้ที่มีความเก่งกาจ รอบรู้ ลุยหน้างานแบบมุทะลุ สังเกตุจากเรื่องที่เล่าสำหรับตัวอย่างความเก่งกาจที่เขียนบันทึกไว้ เช่น ครั้งที่ Yoshitsuneใช้กลยุทธ์สู้ศึกกับศัตรูคู่อริ แม้ว่าตอนนั้นฝ่ายของ Yoshitsune จะมีกำลังพลน้อยกว่าเป็นสิบเท่า และศัตรูฝ่ายตรงข้ามปิดทางล้อมไว้ที่เชิงหน้าผาสูง ฉากนี้มีชื่อเสียงมาก เรียกว่าฉาก「鵯越」Hiyodorigoe แต่เพื่อข่มขวัญศัตรู Yoshitsune สั่งทหารนักรบขี่ม้าศึกดิ่งลงจากหน้าผานั้น เขาเองนำหน้าและทหารกล้าคนอื่นๆ ก็ทำเช่นเดียวกัน คือบางทีผู้นำก็ไม่ต้องลงมือเองขนาดนี้หรือเปล่าแต่ Yoshitsune นำทัพเองแบบมุทะลุด้วย พอข้าศึกเห็นความกล้าบ้าบิ่นเช่นนั้นก็กลัวสิครับถอยทัพหนี เพราะไม่รู้ว่ามาไม้ไหน นับว่าไม่บ้าไม่กล้า ทำแบบนี้ไม่ได้ประมาณนั้น

อีกครั้งหนึ่งYoshitsune เคยนำทัพที่มีกำลังทหารเพียง 50 คน ไปต่อสู้กับศัตรูที่มีอยู่มากกว่าหนึ่งพันคน ทำการต่อสู้กันหลายวันโดยไม่หลับไม่นอน จนสามารถยึดปราสาทของศัตรูได้ วีรกรรมอีกหลายอย่างที่ทำให้ผู้นำทีมเช่นนี้ดูเด่นเกินหน้าเกินตาหัวหน้าทีมคนอื่นๆ ก็เกิดขัดแย้งกันเพราะเด่นเกินไปหน่อย
Yoshitsune
กับ Noriyori ผู้ที่คอยบัญชาการอยู่ด้านหลัง อย่างเงียบๆ สุขุมรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าให้หัวหน้าใหญ่ (Yoritomo) ทราบตลอดและรอฟังคำแนะนำที่มาจากหัวหน้าใหญ่อย่างเคร่งครัด ไม่เคยทำอะไรโดยพละการ หรือที่เกิดจากการตัดสินใจโดยปราศจากการรับรู้ของหัวหน้าใหญ่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้เป็นที่โปรดปรานและได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้าใหญ่ แต่กับลูกน้องก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นที่รักและเคารพนับถือมากแค่ไหนนะครับ

ไม่ว่าอยากได้หัวหน้าหรือผู้นำแบบไหน แต่หัวหน้าใหญ่ท่านโปรดลูกน้องแบบไหน ประเด็นนี้น่าจะมีส่วนเรื่องการเจริญเติบโต ก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่า ถ้าเทียบ 2 คนข้างต้น เป็นลูกน้องในบังคับบัญชาทั้งคู่ แถมเป็นน้องชายพ่อเดียวกันอีก พี่ชายหรือหัวหน้าใหญ่ยังโปรดอีกคนมากกว่าอีกคน และสั่งฆ่าอีกคนได้ เรื่องแบบนี้ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ นะครับ วันนี้สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น