ธนาคารแห่งญี่ปุ่นเปิดเผยว่าธนาคารของญี่ปุ่นมากกว่าครึ่งหนึ่งถูกแฮกเกอร์โจมตี และมีหลายกรณีที่ทำให้ระบบออนไลน์ของธนาคารต้องหยุดชะงัก และมีความเสี่ยงต่อผู้ใช้บริการของธนาคาร
ธนาคารกลางของญี่ปุ่นระบุว่าผลการสำรวจพบว่า ร้อยละ 51.0 ของสถาบันการเงินของญี่ปุ่น 411 แห่งที่เข้าร่วมการสำรวจแจ้งว่าเคยถูกโจมตีทางไซเบอร์ และร้อยละ 10.9 ระบุว่าการดำเนินงานต้องติดขัดลงเพราะการโจมตี ธนาคารหลายแห่งระบุว่าเว็บไซต์เข้าไม่ได้ และอีกหลายแห่งกังวลว่าข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าอาจตกอยู่ในความเสี่ยง
สถาบันการเงินของญี่ปุ่นได้ก้าวเข้าสู่การให้บริการออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนจากสังคมผู้สูงอายุ แต่การโจมตีโดยเหล่าแฮกเกอร์ทำให้การให้บริการออนไลน์ของสถาบันการเงินต่างๆ มีปัญหา โดยเกิดขึ้นกับทั้งธนาคารขนาดใหญ่, ธนาคารท้องถิ่น, ธนาคารเพื่อรายย่อย และ บริษัทสินเชื่อต่างๆ
สถาบันการเงินร้อยละ 85.4 รู้สึกว่าการโจมตีทางไซเบอร์หนักหน่วงยิ่งขึ้น และจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการให้บริการออนไลน์ ธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า ธนาคารขนาดใหญ่จะตกเป้นเป้าหการโจมตีมากกว่า แต่ความเสียหายก็จะแพร่กระจายไปถึงธนาคารในท้องถิ่น รวมทั้งสถาบันการเงินในชุมชนด้วย
ธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งได้แต่งตั้งเจ้าหน่าที่อาวุโสที่เป็นกรรมการของธนาคาร เพื่อดูแลและรับผิดชอบป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ รวมทั้งได้เพิ่มงบประมาณในการป้องกันเป็นมูลค่ามากกว่า 178.3 ล้านเยนในปีงบประมาณ 2017 หรือเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 60 จากปีงบประมาณ 2015.