xs
xsm
sm
md
lg

สาวญี่ปุ่นแนะนำสิ่งที่ช่วยบอกว่านี่คือคู่บุพเพสันนิวาสของคุณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ความลึกซึ้งของสายใยสัมพันธ์แห่งความรัก ไม่ใช่แค่ระยะเวลาที่ใช้ร่วมกัน แทบทั้งหมดต้องบอกว่า เป็นความเข้ากันได้ ไปด้วยกันได้จริงๆ

คู่รักของเราคือคนที่เหมาะสมกับเราหรือไม่ จิตใต้สำนึกและสัญชาตญาณสัมผัสบอกเราได้ มีนักเขียนเกี่ยวกับความรักชื่อดังของญี่ปุ่น เขียนบทความเกี่ยวกับสัญญาณที่บ่งบอก สิ่งที่สัมผัสได้ว่าคู่ของเราคือคนที่ใช่และเหมาะสมกับเราที่สุด ดังนี้

01.รู้สึกว่าประหลาดใจ "มีเขาอยู่ในโลกนี้จริงๆ!!"
มีแบบสำรวจสาวคนหนึ่ง บอกความรู้สึกต่อคู่รักตนเองว่า "ฉันเรียนที่โรงเรียนมัธยมเดียวกันมาก่อนก็จริง แต่ตอนนั้นไม่ได้นึกอะไรและแทบจะไม่รู้จักเรื่องราวของเขาเลย แต่หลังจากเรียนจบผ่านไป 13 ปี เป็นผู้ใหญ่กันทั้งคู่แล้ว ได้มีโอกาสเจอกันอีกครั้ง ได้ไปทานอาหารกัน พูดคุยแล้วรู้สึกจากตัวตนเองเลยว่า เข้ากันได้มากๆ ยิ่งตอนที่ขับรถกับด้วยกัน คิดว่าไม่มีใครเหมาะกับเราเท่าคนนี้อีกแล้ว จนได้คบกันและแต่งงานกันในที่สุด " การที่จะเป็นพาร์ทเนอร์คู่รักที่จะเดินทางร่วมกันนั้นอย่างน้อยต้องมีความรู้สึกจากตัวตนที่แท้จริงของเราว่า "คนนี้คือใช่ เป็นคนที่จะไปกับเราได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนๆ อยู่ในโลกนี้จริงๆ "

02. เป็นตัวของตัวเองได้เมื่ออยู่ต่อหน้า
สาวบางคน คงบอกกับตัวเองว่า สำหรับฉัน มีหลายเรื่องมากที่ถือได้ว่า เป็นข้อบกพร่อง ที่ตัวเองมี เช่น เมื่ออยู่ในโหมดที่กำลังมีความรัก มักจะมีอารมณ์ขี้หึง หงุดหงิด เอาแต่ใจ ต่างๆ นานา เกิดขึ้น , บางคนคิดว่าตนเองเป็นคนที่เข้มแข็ง เมื่อเกิดเรื่องที่หนักใจจึงไม่กล้าร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น หลายๆ อย่างก็เกิดขึ้นเพราะตัวเราคิดไปเอง จึงไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา คนทุกคนนั้นจะพูดว่ามีแต่ด้านดีอย่างเดียวก็ไม่ใช่คำพูดที่ถูกต้องนัก แต่ถ้าเราสามารถเป็นตัวเองได้เมื่ออยู่ต่อหน้าคนรัก แล้วเค้ายังรักเราได้อย่างที่เราเป็น แม้จะมีจุดบกพร่องบ้าง ยังให้ความเข้าใจและยอมรับ นี่คืออีกเรื่องสำคัญสัญญานให้รู้ว่าเป็นคู่รักที่แต่งงานกันได้ เดินร่วมทางไปด้วยกันได้

03.ภาคภูมิใจในคนรัก
แม้คนเราจะมีจุดบกพร่อง ที่เรายอมรับได้ แต่ถ้าเป็นข้อดีของกันและกัน เช่น คู่รักของเราเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี , สูง , ผมสวย , ตาสีฟ้า หรืออะไรก็แล้วแต่ เป็นข้อดีข้อเด่นที่ประทับใจเราจนเป็นสิ่งกระตุ้นให้เราอยากจะเข้าหาคนๆ นั้นเพื่อได้เรียนรู้จักกัน คนที่เป็นคนรักกันอย่างน้อยต้องเกิดความประทับใจอย่างใดอย่างหนึ่งของอีกฝ่ายด้วย เรามีความภาคภูมิใจในคนรักแค่ไหน ก็เป็นอีกสัญญาณว่าจะมีข้อผูกใจกันและกัน

04. แก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องทะเลาะกัน
ถ้ามีเรื่องขัดแย้งไม่ลงรอยกันมากกว่าการให้ความรักซึ่งกันและกัน ก็คงจะไม่ค่อยดีนัก ถ้าใครเคยมีความรักที่ไม่ค่อยลงรอยกัน ต้องทะเลาะถกเถียงให้ชนะกันไปให้ได้ หรือไม่ก็งอนกัน ไม่พูดกันให้เข้าใจ ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยตั้งตัวเองเป็นหลัก แบบนี้คงจะชอบการทะเลาะกันมากกว่าการให้ความรักและเข้าใจกัน แต่ถ้าคบกันแบบมีความเป็นผู้ใหญ่ แม้จะไม่ต้องถกเถียงกันด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ถ้ารู้สึกว่าอีกฝ่ายแปลกๆ ก็คุยกันตรงๆ ให้เข้าใจซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นรูปแบบนี้ได้ ก็สามารถช่วยกันแก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องทะเลาะกันให้เสียเวลา

05.ให้ความสำคัญต่อกันเสมอ ทำให้สิ่งที่เราเจอกันเป็นความวิเศษ
การได้พบกัน รู้จักและได้คบกัน คือสิ่งสำคัญที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ จงทำทุกวันเวลาให้มีค่าและมีความหมาย ถ้าคบหากับคนที่เรารู้สึกอยากแต่งงานและร่วมทางเดินด้วย คงไม่ต้องมีคำถามว่าเค้าจะคิดอะไร จะรู้สึกอย่างไรกับเรา เพราะก่อนที่จะเกิดคำถามว่าเค้ารู้สึกอย่างไรกับเรากันแน่ คงได้เห็นการกระทำที่แสดงให้เห็นว่าเราสำคัญอย่างไร และนั่นสำคัญมากกว่าคำพูด

06.หลงเสน่ห์ของอีกฝ่าย
แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีอากัปกิริยาแปลกๆ ไม่เข้าตาคนทั่วไป แต่กลับเป็นสิ่งที่เรารับได้และคิดว่าเป็นเรื่องที่น่ารัก เรียกว่า มีความชอบหรือหลงไหลในตัวตนของอีกฝ่ายนั่นเอง สามารถให้อภัยกันและกันได้ ไม่ได้เก็บมาใส่ใจหรือเป็นอคติให้รู้สึกแย่ต่อกัน

07. มีอนาคตร่วมกัน
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความสนใจที่เหมือนกัน หรือมีความสนใจที่แตกต่างกัน ความสำคัญอยู่ที่เดินไปด้วยกันได้หรือไม่ บางคนฝ่ายชายชอบเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ วันว่างต้องไปสนามรักบี้หรือไปเล่นกีฬาที่ตัวเองชอบ ส่วนฝ่ายหญิงชอบพิพิธภัณฑ์ ชอบโบราณคดี มีความสนใจคนละด้านอย่างสิ้นเชิง ก็ไม่ใช่ว่าจะไปด้วยกันไม่ได้ ถ้าแชร์กันได้ เข้าใจแต่ละฝ่าย ก็สามารถเดินร่วมทางและมีอนาคตร่วมกันได้ เพราะความเชื่อมั่น เชื่อใจซึ่งกันและกัน

08.มีความรู้สึกว่าความรักศักดิ์สิทธิ์
ไม่ว่าจะอย่างไร ถ้าทั้งคู่จะแต่งงานและร่วมทางกันนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาที่ยุ่งกับภาระหน้าที่การงานมากๆ อยู่ในช่วงที่ต้องทุ่มเทให้กับการเรียน การวิจัย แต่กระนั้นก็ยังรักษาเวลาของทั้งคู่ให้สมดุล ยังเป็นความสำคัญเสมอ แต่อีกเรื่องที่สำคัญคือ การให้ความเข้าใจอีกฝ่าย แทนที่จะมองว่าเวลาของตัวเองสำคัญ มากกว่านั้นควรคิดว่าการใช้เวลากับอีกฝ่ายสำคัญกว่า เป็นต้น ถ้ามีความคิดเช่นนี้ นั่นเป็นสัญญาณให้เห็นว่าความรักของทั้งคู่มีความหมาย มีความศักดิ์สิทธิ์

09.คุยได้ทุกเรื่อง
สามารถเปิดอกคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน สภาพอากาศ วันหยุดที่จะถึง เรื่องไม่สบายใจ คือคุยได้ทุกเรื่อง แบบนี้ไม่ใช่รอให้แต่งงานก่อนจึงค่อยเปิดอกคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่เราทั้งคู่ต้องสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องก่อนจีงคิดที่จะแต่งงานกัน

10.ไม่ว่าอย่างไร ก็เหมาะสมคู่ควร
ถ้าคิดจะแต่งงานกัน แต่ไม่มีสิ่งที่ทำให้เกิดสายใยที่ลึกซึ้งระหว่างกันเลย มองไม่เห็นความคิดอีกฝ่ายเลย ไม่แน่ใจตัวเองเลยว่าอยากแต่งงานด้วยจริงๆ หรือไม่ แต่อีกด้านถ้ารู้สึกว่าบุพเพสันนิวาสแน่ๆ อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจคือ อยากจะใช้ชีวิตร่วมกัน เรารู้สึกได้เองว่าเขาคือคนที่เราจะใช้ชีวิตไปด้วยกันได้หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น