กรณีอื้อฉาวการปลอมแปลงข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัทโกเบ สตีล ร้ายแรงกว่าที่คาดคิด โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นตั้งแต่รถยนต์จนถึงเครื่องบินและยุทธภัณฑ์ล้วนใช้โลหะจากโกเบ สตีล
“โกเบ สตีล” เป็นผู้ผลิตโลหะรายใหญ่อันดับ 3ของญี่ปุ่น ซึ่งมีลูกค้าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นกว่า 200 แห่งตั้งแต่ผู้ผลิตรถยนต์, เครื่องบิน จนถึงชิ้นส่วนของรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น จนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ผลิตในญี่ปุ่น
การตรวจสอบล่าสุด ชี้ว่า เจ้าหน้าที่ของบริษัทไม่เพียงแต่ปลอมแปลงข้อมูลคุณภาพของอลูมิเนียมและทองแดงมากกว่า 20,000 ตัน แต่ยังอาจปลอมแปลงข้อมูลผลิตภัณฑ์ผงเหล็กกล้า ซึ่งนำไปใช้ผลิตรถยนต์และเครื่องจักร นอกจากนี้ยังพบว่าทางบริษัทอาจมีการปลอมแปลงข้อมูลมานานกว่า 10 ปี
บริษัทอุตสาหกรรมที่เป็นลูกค้าของโกเบ สตีล กำลังเร่งตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์มีปัญหาด้านความปลอดภัยหรือไม่ บริษัทชื่อดังต่างๆมีทั้งค่ายรถยนต์ 7 แห่ง เช่น โตโยต้า, นิสสัน, ฮอนด้า, ซูซูกิ, มาสด้า, มิซูบิชิ และซูบารุ แม้แต่ค่ายรถยนต์ขนาดเล็กอย่างไดฮัตสุ ก็ยอมรับว่าชิ้นส่วนที่ซื้อต่อมาจากผู้ผลิตรายอื่นก็อาจใช้โลหะของโกเบ สตีล
รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น เส้นทางโทไคโด ของบริษัทเจอาร์เซ็นทรัล ก็ใช้อลูมิเนียมของโกเบ สตีล มาทำเป็นล้อของรถไฟหัวกระสุน
นอกจากนี้ยังรวมทั้งชิ้นส่วนของกระสวยอวกาศ ที่ผลิตโดยสำนักงานสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่น หรือ JAXA และอาจมีความเป็นได้ว่าโลหะที่ใช้ในชิ้นส่วนของเครื่องบินโบอิ้งของสหรัฐฯ ก็อาจใช้โลหะจากโกเบ สตีล
อลูมิเนียม, ทองแดง และเหล็กของโกเบ สตีล ยังถูกใช้การผลิตเครื่องบิน, ขีปนาวุธ และรถถัง ที่ผลิตโดยมิซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรี และคะวะซะกิ เฮฟวี อินดัสตรี ที่ใช้ในกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น
โกเบ สตีล ยอมรับว่ามีการแก้ไขข้อมูลความแข็งแรงและรูปร่างของอลูมิเนียม,ทองแดง และผงเหล็ก เพื่อให้ได้ตามเกณฑ์ที่ลูกค้ากำหนด แต่อ้างว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้มาตรฐานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น
รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ระบุว่า โกเบ สตีล เป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ การปลอมแปลงข้อมูลเช่นนี้ถือว่าทำผิดสัญญาต่อลูกค้าอย่างร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบของบริษัทลูกค้าที่ใช้ของโลหะโกเบ สตีล พบว่า ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ได้มาตรฐานความปลอดภัย และไม่จำเป็นต้องเรียกคืนสินค้า แต่เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองแห่งญี่ปุ่น ระบุว่า หากโลหะที่ใช้ทำยุทโธปกรณ์ต่างๆ มีความแข็งแรงน้อยลง ก็อาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลง และอาจส่งผลต่อการใช้งานบางอย่างในระยะยาว.
