คุณรู้จักรู้ใจ คู่รักมากแค่ไหน ถ้าเพิ่งเริ่มเดทหรือเริ่มคบกัน เพิ่งเริ่มชวนไปทานข้าว ดูหนัง หรือซื้อของนู้นนี่นั่นด้วยกัน บางครั้งอาจจะยังไม่เห็นนิสัยที่แท้จริงของกันและกันได้มากนัก
มีนักเขียนวิเคราะห์คอลัมน์เกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ชาวญี่ปุ่น เขียนไว้ว่า การที่คู่รักได้เดินทางท่องเที่ยวด้วยกันจะช่วยให้เกิดสายใยความผูกพันที่แน่นหนาขึ้น ก่อนเดินทางท่องเที่ยว อาจต้องมีการพูดคุย มีการวางแผนร่วมกัน ..ช่วงเดินทางอาจได้เห็นความหงุดหงิด ไม่สบอารมณ์ ..หรือการแก้ปัญหาต่างๆ การจัดการกับสิ่งที่เจอ จะได้มองเห็นนิสัยอะไรของกันและกันบ้าง
01. เมื่อได้อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง ย่อมมองเห็นจุดที่ไม่น่ามองของอีกฝ่าย
การท่องเที่ยวครั้งนี้ ทั้งสองคนได้มีเวลาที่อยู่ร่วมกันมากกว่า 24 ชั่วโมง เป็นประสบการณ์ครั้งแรก ไม่ใช่แค่ใช้ช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น เพราะถ้าแค่นั้นก็ไม่ได้ทำให้จิตใจเกิดความเชื่อมต่อกันอย่างดีเท่าไหร่นัก การอยู่ด้วยกันแบบ 24 ชั่วโมง ย่อมต้องมีช่วงเวลาที่ไม่ได้แต่งหน้า จะเป็นอย่างไร ซึ่งต่างจะได้มองเห็น Life Style ของอีกฝ่าย สามารถคาดการณ์อิมเมจเรื่องการใช้ชีวิตได้แน่ๆ
02.เมื่อเกิดปัญหาขึ้นระหว่างการท่องเที่ยว จะได้เห็นมุมมองความคิดการรับมือต่อปัญหานั้นๆ
การท่องเที่ยวครั้งนี้ จะได้เห็นเนื้อแท้ของอีกฝ่าย เช่น ถ้าทำบัตรเครดิตการ์ดหาย จะหาหรือเกิดอาการอย่างไร การใช้ภาษาต่างประเทศเมื่อหลงทางหรือจะให้คนท้องถิ่นช่วยเหลือ การเดินทางการเปลี่ยนเส้นทางรถโดยสารต่างๆ การร่วมกันช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาหารือกัน สามารถเห็นนิสัยของอีกฝ่ายได้ว่าเป็นคนที่จัดการกับปัญหาได้ไหม จากปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเฉพาะหน้าต่างๆ เหล่านี้ จะทำให้เห็นว่าทั้งสองคนจะตัดสินใจและแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างไร
03. เห็นนิสัยของอีกฝ่าย จากสถานการณ์ที่อยู่ร่วมกัน
การท่องเที่ยวครั้งนี้ ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันทั้งเรื่องนิสัยส่วนที่ไม่ดี หรือเรื่องที่เอาแต่ใจตัวเองต่างๆ เรายังทำแบบนั้นเหมือนตอนอยู่บ้านตัวเองไหม อีกฝ่ายก็อาจจะแสดงนิสัยแง่ลบของตัวเองออกมา หากเป็นเช่นนั้นเราจะคิดและมองการกระทำนั้นอย่างไร จะเรียนรู้ที่จะปรับตัวกันไหม นอกจากเห็นแง่ลบของอีกฝ่าย ยังสะท้อนเห็นมุมมองของตนเองด้วย ถ้าทั้งคู่เข้ากันได้ ก็คงจะสามารถเติบโตและเดินทางต่อไปด้วยกันได้ดี
04. ใช้ช่วงเวลาท่องเที่ยวเป็นโอกาสที่จะพูดคุยเปิดอกกัน
ทางของทั้งสองคนจะเป็นอย่างไรต่อไป ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเอง และการปรับตัวเข้าหากันของทั้งคู่ การวางแผนชีวิตจริงร่วมกัน ก็สามารถพูดคุยกันได้ แม้แต่เรื่องการวางแผนก่อนที่จะท่องเที่ยว ก็สามารถพูดคุย ปรึกษาหารือกันได้อย่างสาเหตุสมผลหรือไม่ หรือต่างฝ่ายต่างไม่ได้วางแผนอะไร ไปผจญภัยเอาเฉพาะหน้า ลักษณะมุมมองความคิดเหล่านี้ก็สามารถทำให้คาดการณ์การใช้ชีวิตร่วมกันได้
05. ความทรงจำที่รู้กันแค่สองคนจะเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าตลอดไป
สิ่งที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวของทั้งสองคนนั้น ทำให้เป็นสิ่งที่น่าจดจำและสิ่งสำคัญขึ้นมา ช่วงเวลาแห่งรอยยิ้มนั้นแค่นึกย้อนกลับไปก็ทำให้ยิ้มได้ ไม่ว่าจะเป็นแค่ซีนที่นั่งทานซูชิด้วยกัน ไม่ใช่การนั่งคุยเรื่องนู้นนี้นั้นแค่นั้น แต่การทำให้เกิดความทรงจำในจิตใจระหว่างกัน เป็นเรื่องสำคัญมาก วันหนึ่งแม้ว่าจะทะเลาะกัน แต่ถ้าได้ย้อนกลับมาดูรูปที่เคยมีความสุขและรอยยิ้มร่วมกันระหว่างการท่องเที่ยว ก็ช่วยย้อนให้ระลึกถึงความรักระหว่างกันได้ และอยากคืนดีกัน
ดังนั้นในแต่ละวันๆ อาจจะพบเจอเรื่องน่าเบื่อ หรือเรื่องที่ไม่สบอารมณ์มากมาย การได้เดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน จะช่วยเปลี่ยนความจำเจเดิมไปในชีวิตได้อีกด้วย ความสัมพันธ์ที่ดีและแน่นเหนียวย่อมเกิดขึ้น หลังจากกลับมาจากทริปเดินทางท่องเที่ยวแล้ว จะเกิดสายใยสัมพันธ์ที่ผูกใจทั้งคู่ให้สนิทแนบแน่นขึ้นไปอีก
มีนักเขียนวิเคราะห์คอลัมน์เกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ชาวญี่ปุ่น เขียนไว้ว่า การที่คู่รักได้เดินทางท่องเที่ยวด้วยกันจะช่วยให้เกิดสายใยความผูกพันที่แน่นหนาขึ้น ก่อนเดินทางท่องเที่ยว อาจต้องมีการพูดคุย มีการวางแผนร่วมกัน ..ช่วงเดินทางอาจได้เห็นความหงุดหงิด ไม่สบอารมณ์ ..หรือการแก้ปัญหาต่างๆ การจัดการกับสิ่งที่เจอ จะได้มองเห็นนิสัยอะไรของกันและกันบ้าง
01. เมื่อได้อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง ย่อมมองเห็นจุดที่ไม่น่ามองของอีกฝ่าย
การท่องเที่ยวครั้งนี้ ทั้งสองคนได้มีเวลาที่อยู่ร่วมกันมากกว่า 24 ชั่วโมง เป็นประสบการณ์ครั้งแรก ไม่ใช่แค่ใช้ช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น เพราะถ้าแค่นั้นก็ไม่ได้ทำให้จิตใจเกิดความเชื่อมต่อกันอย่างดีเท่าไหร่นัก การอยู่ด้วยกันแบบ 24 ชั่วโมง ย่อมต้องมีช่วงเวลาที่ไม่ได้แต่งหน้า จะเป็นอย่างไร ซึ่งต่างจะได้มองเห็น Life Style ของอีกฝ่าย สามารถคาดการณ์อิมเมจเรื่องการใช้ชีวิตได้แน่ๆ
02.เมื่อเกิดปัญหาขึ้นระหว่างการท่องเที่ยว จะได้เห็นมุมมองความคิดการรับมือต่อปัญหานั้นๆ
การท่องเที่ยวครั้งนี้ จะได้เห็นเนื้อแท้ของอีกฝ่าย เช่น ถ้าทำบัตรเครดิตการ์ดหาย จะหาหรือเกิดอาการอย่างไร การใช้ภาษาต่างประเทศเมื่อหลงทางหรือจะให้คนท้องถิ่นช่วยเหลือ การเดินทางการเปลี่ยนเส้นทางรถโดยสารต่างๆ การร่วมกันช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาหารือกัน สามารถเห็นนิสัยของอีกฝ่ายได้ว่าเป็นคนที่จัดการกับปัญหาได้ไหม จากปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเฉพาะหน้าต่างๆ เหล่านี้ จะทำให้เห็นว่าทั้งสองคนจะตัดสินใจและแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างไร
03. เห็นนิสัยของอีกฝ่าย จากสถานการณ์ที่อยู่ร่วมกัน
การท่องเที่ยวครั้งนี้ ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันทั้งเรื่องนิสัยส่วนที่ไม่ดี หรือเรื่องที่เอาแต่ใจตัวเองต่างๆ เรายังทำแบบนั้นเหมือนตอนอยู่บ้านตัวเองไหม อีกฝ่ายก็อาจจะแสดงนิสัยแง่ลบของตัวเองออกมา หากเป็นเช่นนั้นเราจะคิดและมองการกระทำนั้นอย่างไร จะเรียนรู้ที่จะปรับตัวกันไหม นอกจากเห็นแง่ลบของอีกฝ่าย ยังสะท้อนเห็นมุมมองของตนเองด้วย ถ้าทั้งคู่เข้ากันได้ ก็คงจะสามารถเติบโตและเดินทางต่อไปด้วยกันได้ดี
04. ใช้ช่วงเวลาท่องเที่ยวเป็นโอกาสที่จะพูดคุยเปิดอกกัน
ทางของทั้งสองคนจะเป็นอย่างไรต่อไป ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเอง และการปรับตัวเข้าหากันของทั้งคู่ การวางแผนชีวิตจริงร่วมกัน ก็สามารถพูดคุยกันได้ แม้แต่เรื่องการวางแผนก่อนที่จะท่องเที่ยว ก็สามารถพูดคุย ปรึกษาหารือกันได้อย่างสาเหตุสมผลหรือไม่ หรือต่างฝ่ายต่างไม่ได้วางแผนอะไร ไปผจญภัยเอาเฉพาะหน้า ลักษณะมุมมองความคิดเหล่านี้ก็สามารถทำให้คาดการณ์การใช้ชีวิตร่วมกันได้
05. ความทรงจำที่รู้กันแค่สองคนจะเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าตลอดไป
สิ่งที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวของทั้งสองคนนั้น ทำให้เป็นสิ่งที่น่าจดจำและสิ่งสำคัญขึ้นมา ช่วงเวลาแห่งรอยยิ้มนั้นแค่นึกย้อนกลับไปก็ทำให้ยิ้มได้ ไม่ว่าจะเป็นแค่ซีนที่นั่งทานซูชิด้วยกัน ไม่ใช่การนั่งคุยเรื่องนู้นนี้นั้นแค่นั้น แต่การทำให้เกิดความทรงจำในจิตใจระหว่างกัน เป็นเรื่องสำคัญมาก วันหนึ่งแม้ว่าจะทะเลาะกัน แต่ถ้าได้ย้อนกลับมาดูรูปที่เคยมีความสุขและรอยยิ้มร่วมกันระหว่างการท่องเที่ยว ก็ช่วยย้อนให้ระลึกถึงความรักระหว่างกันได้ และอยากคืนดีกัน
ดังนั้นในแต่ละวันๆ อาจจะพบเจอเรื่องน่าเบื่อ หรือเรื่องที่ไม่สบอารมณ์มากมาย การได้เดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน จะช่วยเปลี่ยนความจำเจเดิมไปในชีวิตได้อีกด้วย ความสัมพันธ์ที่ดีและแน่นเหนียวย่อมเกิดขึ้น หลังจากกลับมาจากทริปเดินทางท่องเที่ยวแล้ว จะเกิดสายใยสัมพันธ์ที่ผูกใจทั้งคู่ให้สนิทแนบแน่นขึ้นไปอีก
