xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.หญิงดาวรุ่งฝ่ายค้านญี่ปุ่นอนาคตวูบ เซ่นข่าว “เลี้ยงต้อย” ทนายหนุ่มสุดหล่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ยะมะโอะ ชิโอริ” ส.ส.หญิงของญี่ปุ่นที่มีแววจะก้าวขึ้นรับตำแหน่งใหญ่ในแกนนำพรรคฝ่ายค้าน จำใจต้องลาออกจากพรรค หลังมีข่าวว่าเธอมีความสัมพันธ์นอกสมรสกับทนายความหนุ่ม ซึ่งอายุน้อยกว่า 9 ปี

ในบรรดานักการเมืองหญิงของญี่ปุ่น “ยะมะโอะ ชิโอริ” ถือเป็นหนึ่งในผู้หญิงแถวหน้า เธอมีบทบาทในการรณรงค์เรียกร้องสิทธิของผู้หญิง จนเคยเสียงเสียงชื่นชมจากการตั้งกระทู้ถามนายกฯชินโซ อะเบะ เรื่องความไม่เพียงพอของสถานดูแลเด็ก เว็บไซต์ส่วนตัวของเธอที่เล่าเรื่องการดูแลลูกและความยากลำบากของผู้หญิงที่ต้องเป็นทั้งแม่และทำงานไปด้วยได้รับความนิยมอย่างสูง

“ยะมะโอะ ชิโอริ” วัย 43 ปี ได้รับการวางตัวให้เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปไตย พรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ภายใต้การนำของนายเซอิจิ มาเอะฮาระ ประธานพรรคคนล่าสุดที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กันยายน แต่เธอไม่เพียงต้องพลาดตำแหน่งใหญ่นี้ และยังจะประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปไตยด้วย หลังจากนิตยสารฉบับหนึ่งของญี่ปุ่นรายงานข่าวว่าเธอมีสัมพันธ์ลับๆกับนายรินทาโระ คุระโมชิ ทนายความหนุ่มมาดเข้มวัย 34 ปี ผู้ซึ่งแต่งงานมีครอบครัวแล้วเช่นกัน

นิตยสารของญี่ปุ่นรายงานว่า นักการเมืองสาวที่ยังเปี่ยมเสน่ห์แม้จะมีลูกวัย 6 ขวบแล้ว ได้พบกับทนายหนุ่มหลายต่อหลายครั้ง โดยในวันที่มีข่าวว่าเธอจะได้รับตำแหน่งใหญ่ในแกนนำพรรคฝ่ายค้าน มีผู้เห็นเธอพบกับนายรินทาโร ณ โรงแรมหรูกลางกรุงโตเกียว ทั้งคู่ได้หายไปบนห้องในชั้นที่ 36 และกลับออกมาในตอนเช้าของวันต่อมา โดยยังมีรูปภาพที่สส.หญิงนั่งอยู่ในรถเคียงข้างทนายความหนุ่มที่เป็นคนขับด้วย



หลังข่าวอื้อฉาวแพร่ออกไป นายเซอิจิ มาเอะฮาระ ประธานพรรคประชาธิปไตยจึงได้ตัดสินใจแต่งตั้งนายอะซึชิ โอชิมะ อดีตรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นเลขาธิการพรรคแทน

สส.หญิงผู้โด่งดังได้ปฏิเสธความสัมพันธ์ส่วนตัวกับทนายความหนุ่ม โดยระบุว่าเธอพบกันเฉพาะในเรื่องานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เธอได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปไตย

“ยะมะโอะ ชิโอริ” อดีตอัยการผู้ผันตัวมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.ในปี 2009 เป็นตัวแทนของจังหวัดไอจิ เธอเป็นตัวแทนนักการเมืองหญิงที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของญี่ปุ่น จนถูกวางตัวให้รับตำแหน่งสูงสุดอันดับที่ 2 ในพรรคประชาธิปไตย แต่สุดท้ายก็ต้อง “พลาดพลั้ง” เพราะกรณีอื้อฉาวนี้.

กำลังโหลดความคิดเห็น