xs
xsm
sm
md
lg

ชาวญี่ปุ่นอัดยับ “ระบบเตือนภัยขีปนาวุธ” ไร้ประสิทธิภาพ หลังโสมแดงยิงจรวดเขย่าขวัญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชาวญี่ปุ่นวิจารณ์ระบบเตือนภัยขีปนาวุธ J-Alert ที่เกิดความผิดพลาดหลายอย่าง หลังจากญี่ปุ่นถูกเกาหลีเหนือข่มขู่ด้วยการทดลองยิงขีปนาวุธข้ามประเทศ

เช้าวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากได้รับข้อความเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือว่าขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือกำลังเข้าสู่พรมแดนประเทศญี่ปุ่น และขอให้ประชาชนหลบเข้าที่กำบังที่มั่นคงแข็งแรง หากแต่ชาวบ้านจำนวนมากไม่รู้ว่าสถานที่หลบภัยที่ “มั่นคงแข็งแรง” นั้น คือที่ไหน? ด้วยเวลาจำกัดเพียงไม่ถึง 10นาที
หน้าจอโทรทัศน์แสดงระบบเตือนภัย J-Alert ในวันที่  29 สิงหาคม
ระบบเตือนภัยขีปนาวุธ J-Alert ได้ส่งสัญญาณเตือนไปยัง 617 เมือง ใน 12 จังหวัด ตั้งแต่ฮอกไกโดไปจนถึงนากาโนะในเวลา 4 นาทีหลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ

อย่างไรก็ตามเมือง 16 เมืองใน 7 จังหวัดไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนต่อไปยังประชาชน เพราะความผิดพลาดด้านระบบ ขณะที่รัฐบาลฮอกไกโดส่งแฟกซ์คำเตือนไปยังเมืองต่างๆ แต่กลับใช้กระดาษผิดพลาด โดยใช้กระดาษที่มีข้อความว่า “การฝึกซ้อม” เนื่องจากที่ฮอกไกโดมีแผนจะฝึกซ้อมหนีภัยขีปนาวุธในบ่ายวันที่ 29 สิงหาคม เจ้าหน้าที่จึงคาดไม่ถึงว่าจะเจอ “ของจริง” ก่อนในเช้าวันเดียวกัน

เมืองคะรุอิซะวะในจังหวัดนากาโนะต้องทบทวนแผนหลบภัยใหม่ หลังจากเคยมีข้อตกลงร่วมกับกับเมืองอันนะคะ จังหวัดกุนมะ ให้ประชาชนสามารถเข้าไปหลบภัยในอุโมงค์ใต้ดินได้ แต่พอเกิดเหตุขึ้นจริงๆ ประชาชนกลับไม่รู้ว่าอุโมงค์เหล่านี้ตั้งอยู่ที่ไหน?

ชาวญี่ปุ่นหลายคนบอกว่าได้รับคำเตือนให้หาที่หลบภัยใต้ดิน ก็ไม่รู้ว่าอาคารไหนที่มีชั้นใต้ดินบ้าง แม้แต่คนที่เคยเข้าร่วมการฝึกซ้อมหนีภัยก็บอกว่าในเวลาฉุกเฉินไม่ถึง 10นาที ไม่สามารถไปยังสถานที่หลบภัยได้ทันแน่ๆ

ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นยังวิจารณ์ระบบเตือนภัยว่าทำเป็น “กระต่ายตื่นตูม” เช่นออกประกาศเตือนเป็นพื้นที่กว้างมาก จนประชาชนไม่แน่ใจถึงภยันตรายที่แท้จริง เช่น เมื่อครั้งก่อนที่เกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธไปตกยังทะเลห่างจากแหลมอิระโมะถึง 1,100 กิโลเมตร แต่รถไฟใต่ดินในกรุงโตเกียวถึงกับระงับการเดินรถ สร้างความอลม่านให้กับประชาชนอย่างมาก

ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ในเวลาไม่กี่นาทีแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ประชาชนวิ่งไปหลบภัยในอาคารต่างๆ และบางพื้นที่ก็แทบไม่มีอาคารที่มีชั้นใต้ดินด้วย รัฐบาลจึงควรออกแนวปฏิบัติที่เป็นจริงได้มากกว่านี้ เช่น เตือนให้ระวังศีรษะ หรือ ออกห่างจากหน้าต่าง ในแบบเดียวกับการหลบภัยแผ่นดินไหว.
กำลังโหลดความคิดเห็น