เกียวโต เมืองที่เต็มไปเสน่ห์มนต์คลังที่โดดเด่นทั้งด้านสถาปัตยกรรมเก่าแก่ รวมทั้งความงามของธรรมชาติที่ดึงดูดให้ใครต่อใครต่างไปเยือน แต่เมืองเกียวโตยังมีอะไรที่ให้น่าหลงใหลอีกมาก วันนี้อยากขอเปลี่ยนบรรยากาศพาเที่ยวเกียวโตกันแบบชิคๆเก๋ๆ กันดู จะเป็นสถานที่แบบไหนและจะเก๋แค่ไหนไปดูกันเลย
Shoujuin
“โชจูอิน” หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวในเกียวโตที่มีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี และเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในโซเชียลในความน่ารักแต่ก็ยังคงความงดงามในแบบเกียวโตไว้นั่นคือ “หน้าต่างรูปหัวใจ”
นอกจากหน้าต่างรูปหัวใจที่สวยงามแล้ว ภายในโชจูอินยังมีภาพที่มีสีสันสวยงามตกแต่งบนเพดานกว่า 160 แผ่น โดยแต่ละแผ่นมีขนาด 50 เซนติเมตร เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสจัดวางอย่างสวยงามในห้องรับแขกขนาด 20 เสื่อทาทามิ (33 ตารางเมตรโดยประมาณ) ตกแต่งด้วยภาพดอกไม้ในแต่ละฤดูและทิวทัศน์ที่งดงามของญี่ปุ่น
และในช่วงหน้าร้อนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 18 กันยายนนี้ ทางวัดโชจูอินยังจัดเทศกาลกระดิ่งลมญี่ปุ่นหรือ “ฟูริน” ที่เรียงรายอย่างละลานตากว่า 2,000 อัน เมื่อใดที่ลมพัดมากระดิ่งลมก็จะปลิวพัดพร้อมเสียงที่ไพเราะ ฟังแล้วเพลินๆ สบายอารมณ์
Shogunzuka Seiryuden
ห้องน้ำชาที่ทำด้วยกระจกรอบด้าน สร้างขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี 2014 ดีไซน์ออกมาเพื่อให้เห็นทุกมุมของห้องน้ำชาและยังสามารถมองวิวทิวทัศน์จากห้องน้ำชาได้รอบทิศ ซึ่งห้องน้ำชาดังกล่าวจะเปิดให้เข้าชมถึงเดือนกันยายนนี้เท่านั้น
จุดชมวิว Shogunzuka Seiryuden ตั้งอยู่บนเทือกเขาฮิกาชิยามะ มีขนาด 4.6 เท่าของลานชมวิวที่วัดน้ำใส มีเนื้อที่กว่า 1,046 ตารางเมตร เป็นลานไม้กว้างที่สามารถมองเห็นวิวในมุมสูงของเกียวโต ทางด้านขวามือจะมองเห็นภูเขาเฮอิ ด้านหน้าจะมองเห็นวัดเงิน และไกลออกไปก็จะมองเห็นพระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต และซ้ายมือก็จะมองเห็นแหล่งใจกลางเกียวโต ถ้าวันไหนอากาศเป็นใจอาจจะมองไปเห็นถึงโอซาก้าเลยทีเดียว นอกจากจะมองเห็นทิวทัศน์สถานที่ต่างๆแล้ว ยังมองเห็นธรรมชาติที่งดงามตามฤดูกาล อย่างฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีต้นเมเปิ้ลสีสันสวยงามเรียงรายมากมายถึง 220 ต้น และฤดูใบไม้ผลิก็มีต้นซากุระที่ผลิบอกสวยงามกว่า 200 ต้น สามารถเห็นความงามในแต่ละฤดูได้อย่างเต็มอิ่ม
นอกจากวิวทิวทัศน์ด้านนอกที่สวยงามมองไม่เบื่อแล้ว ภายในวัดโชเร็นอินก็มีงานศิลปะสวยงามให้ได้ค้นหา โดยเฉพาะในห้องรูปวาด Kacho-den ห้องโล่ง ๆ ที่มีงานศิลปะภาพวาดของบุคคลต่างๆแขวนอยู่และมีภาพเขียนรูปดอกบัวที่บานประตู 60 บานที่สละสลวย เป็นผลงานของนักวาดภาพชื่อดังฮิเดคิ คิมูระ
Forever Museum of Contemporary Art
Forever Museum of Contemporary Art พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงที่จังหวัดอาคิตะกว่า 10 ปี ได้ย้ายมาเปิดที่เกียวโต ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2017 นี้
Gion Kobu Kaburenjo Theater โรงละครเก่าแก่ของเกียวโตที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1913 ได้นำเอาศิลปะจาก Forever Museum of Contemporary Art มาจัดแสดง สามารถสัมผัสทั้งศิลปะเก่าแก่และศิลปะสมัยใหม่ไปพร้อมกัน
ผลงานศิลปะที่รวบรวมไว้ที่ Forever Museum of Contemporary Art กว่า 700 ชิ้น เป็นผลงานของคุณยาโยอิ คุซามะ ศิลปินแนวอาวองต์-การ์ดชื่อดังชาวญี่ปุ่นถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในการจัดแสดงงานศิลปะครั้งนี้มีผลงานของคุณยาโยอิ คุซามะ 81 ชิ้นให้ชมกัน
คาเฟ่ของพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ชั้น 1 ก็มีความแนวอยู่ไม่น้อย อยากรู้ต้องลองไปกัน และอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำคืออาหารเซ็ตกลางวัน Love Forever Lunch ที่จำกัดเพียง 100 ที่เท่านั้น
Soiree
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ร้านกาแฟในเกียวโตก็มีความเก๋ไม่แพ้กัน หนึ่งในร้านที่อยากให้ไปลองก็คือร้าน Soiree
ร้านกาแฟเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1948 ริมคลองทาคาเสะ เลียบถนนคิยามาจิ ย่านที่ใครมาเกียวโตแล้วต้องมาเดินเที่ยวชมบรรยากาศแบบเกียวโต ภายในร้านตกแต่งด้วยไม้ที่แกะสลักอย่างปราณีต ส่องด้วยไฟสีฟ้า สร้างบรรยากาศให้เหมือนกับกระท่อมกลางป่าเหมือนได้ย้อนอดีตไป ภายในร้านยังมีภาพวาดและงานศิลปะหลากหลายอย่างให้ชมด้วย
และเมนูที่ขายดีและโด่งดังมากในโซเชียลก็คือ Jelly Punch เยลลี่สีสดใสที่ตกแต่งอย่างสวยงามจนลืมที่จะตักทานไปเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org