หญิงสาวชาวไทยรายหนึ่งประสบเหตุหัวใจล้มเหลวขณะท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น โดยมีค่ารักษาพยาบาลสูงถึง 18ล้านเยน หรือราว 6 ล้านบาท ทำให้หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นเตือนให้นักท่องเที่ยวซื้อประกันสุขภาพเพื่อคุ้มครองในกรณีฉุกเฉิน
วันวิสาข์ ใจจันทร์ สาวชาวเชียงใหม่วัย 28 ปีเดินทางมาเยือนญี่ปุ่นในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาพร้อมกับเพื่อน 3 คน แต่เธอกลับต้องพบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อจู่ๆ ก็ล้มลงกลางถนนในระหว่างการเดินทางโดยคาดว่าอาจเป็นอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน วันวิสาข์ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่กรุงโตเกียว
“เคอิจิ โออิ” คุณหมอชาวญี่ปุ่นได้ช่วยเหลือชีวิตสาวน้อยไปได้ราวปาฏิหาริย์โดยทำการผ่าตัดถึง 5 ครั้ง ซึ่งรวมทั้งการทำบายพาสหลอดเลือดหัวใจ การรักษาใช้เวลานานถึง 10 วันจนวันวิสาข์รู้สึกตัวและพักฟื้น และสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่ได้ซื้อประกันการสุขภาพไว้ วันวิสาข์จึงเป็นหนี้ค่ารักษาพยายาลสูงถึง 18 ล้านเยน หรือราว 3 ล้านบาท ซึ่งตัวเธอก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจ่ายในกับทางโรงพยาบาลได้อย่างไร
ข่าวของเธอแพร่หลายไปในสื่อมวลชน และมีชาวไทยและชาวญี่ปุ่นร่วมกันบริจาคช่วยเหลือ โดยรวบรวมเงินได้ราว 1,500,000 เยน หรือราว 500,000 บาท และทางสถานทูตได้สำรองเงินจ่ายให้กับเธอราว 8 ล้านเยน ทำให้สามารถออกจากโรงพยาบาลได้
วันวิสาข์ ระบุว่า “ขอบคุณแพทย์ชาวญี่ปุ่นและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยเหลือชีวิตของเธอ และตั้งใจว่าจะทยอยชำระค่ารักษาพยายาลที่ติดค้างไว้ให้ได้”
หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นระบุว่า กรณีของวันวิสาข์เป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่นซื้อประกันสุขภาพเพียงแค่ 10% เท่านั้น
สถิติจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่นพบว่า จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 24 ล้านคนที่เดินทางมาญี่ปุ่นนั้น ราว 4% ได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย และหลายคนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล โดยจำนวนมากไม่ได้ซื้อประกันสุขภาพไว้ และต้องเผชิญกับค่ารักษาที่สูงมากในญี่ปุ่น
ผลการสำรวจจากโรงพยาบาล 147 แห่งในจังหวัดโอซากา พบว่าในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ปีนี้ มี 27 กรณีที่นักท่องเที่ยวค้างชำระค่ารักษา เป็นเงินรวมกันมากกว่า 15 ล้านเยน ขณะที่โรงพยาบาลกว่า 1,000แห่งในฮอกไกโด มี 28 แห่งที่มียอดค้างชำระค่ารักษาพยาบาลจากเหตุที่นักท่องเที่ยวเข้ารักษาตัวในรอบ 3 ปีที่ผ่าน
โรงพยาบาลหลายแห่งจำต้องให้นักท่องเที่ยวที่เข้ารับการรักษาออกจากโรงพยาบาลได้ หลังจากชำระค่ารักษาบางส่วน แต่ภายหลังก็ไม่สามารถติดต่อเพื่อทวงหนี้ได้อีกเลย
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นกำลังศึกษาปัญหาดังกล่าว และร่วมกับกลุ่มธุรกิจประกันเพื่อรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวซื้อประกันสุขภาพ โดยบริษัทประกันภัยหลายแห่งของญี่ปุ่นได้ริเริ่มขายประกันให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ หลายแห่งได้อำนวยความสะดวกโดยจัดทำแอพลิเคชั่นเพื่อแปลภาษาในสัญญาประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และยังมีบริการแนะนำหรือนำส่งตัวผู้ซื้อประกันไปยังโรงพยาบาลในกรณีฉุกเฉินด้วย.