xs
xsm
sm
md
lg

สุดสลด! หนุ่มญี่ปุ่นนอนข้างศพพ่อนานครี่งปี เหตุไม่มีเงินค่าทำศพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หนุ่มชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งใช้ชีวิตอยู่กับศพของพ่อในบ้านพักนานเกือบ 6 เดือน เนื่องจากไม่มีเงินสำหรับค่าฌาปนกิจศพ สะท้อนสภาพสังคมผู้สูงอายุในญี่ปุ่นที่การมีอายุยืนยาวอาจไม่ใช่ความสุขอีกต่อไป

ค่ำคืนในเดือนพฤษภาคม ปี 2016 ชายหนุ่มชาวโตเกียววัย 55 ปีกลับถึงบ้านหลังเก่าด้วยความอ่อนล้า หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการหางานทำ เมื่อเข้าบ้านเขาพบว่าพ่อวัย 84 ปีก้มหน้าฟุบลงกับที่นอน เขาเข้าไปดูอาการของพ่อ และพบว่าผู้เฒ่าได้สิ้นใจจากโลกนี้ไปแล้ว

ถึงแม้ชายหนุ่มจะเสียใจกับการสูญเสียบิดา แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ฉุกคิดได้ว่า “ไม่สามารถจ่ายเงินค่าทำศพได้” เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวตอนนี้เขามีเงินอยู่เพียง 30,000 เยน บวกกับเงินสะสมของพ่ออีกเล็กน้อยซึ่งไม่พอสำหรับการจัดงานศพอย่างแน่นอน เขาจำได้ดีว่าในงานศพของแม่ที่จากไปเมื่อ 12 ปีก่อน ทางบ้านได้ใช้เงินไปมากถึง 2 ล้านเยน

ถึงแม้จะมีน้องสาวอีกคนหนึ่ง แต่ชายหนุ่มไม่อาจแจ้งข่าวการเสียชีวิตของพ่อได้ เพราะคิดว่าลูกชายคนโตต้องรับผิดชอบดูแลพ่อแม่ ส่วนน้องสาวเองก็มีภาระต้องเลี้ยงดูลูก และเขาต้องปกปิดเรื่องที่ไม่มีงานทำเลี้ยงตัวเอง

ชายหนุ่มใช้น้ำร้อนเช็ดร่างของบิดาเพื่อหวังจะชะลอการเน่าเปื่อยของศพ แต่เขาก็ทำได้เพียงไม่กี่วัน เพราะสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ และต้องทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำเพื่อหารายได้เป็นรายวัน ความเสียใจที่ไม่อาจจัดงานศพให้กับพ่อได้ทำให้ลูกชายหดหู่อย่างยิ่งและได้แต่ขอโทษพ่อจากหัวใจ โดยไม่แม้แต่ไปแจ้งเรื่องการเสียชีวิตของพ่อกับเจ้าหน้าที่ โดยขณะที่ร่างของพ่อเริ่มจะเน่าเปื่อย เขาก็ทำได้แค่ฉีดย่าฆ่าแมลงและสเปรย์ปรับอากาศ

ทุกๆวัน เขาต้องอยู่กับร่างไร้วิญญาณของของพ่อ จนกระทั่งหลายเดือนถัดมาเขาไม่อาจทำใจกลับมาที่บ้านได้ และใช้ชีวิตนอกบ้านนานถึง 13 คืนซึ่งไม่เคยจะข่มตานอนหลับได้เลย หลังจากร่างกายและจิตใจรับไม่ไหวอีกต่อไป เขาจึงตัดสินใจกลับมาที่บ้าน และต้องพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมากมายที่เตรียมจะดำเนินคดีกับเขาในข้อหา “ทอดทิ้งศพ”

ตำรวจมาที่บ้านก็เพราะน้องสาวไม่สามารถติดต่อกับพ่อได้จึงเป็นห่วงและไปแจ้งความ จนเจ้าหน้าที่มาที่บ้านและพบว่าผู้เป็นพ่อได้เสียชีวิตไปตั้งแต่หลายเดือนก่อนหน้า

ชายหนุ่มผู้เป็นลูกชายได้ให้การกับศาลว่า หลังจบการศึกษาเขาได้เข้าทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่ง ต่อมาเขาได้ลงทุนกับเพื่อนเปิดบริษัทของตัวเองเมื่ออายุ 38 ปี แต่บริษัทล้มละลายใน 7 ปีต่อมา หลังจากนั้นเขาจึงกลายเป็น “คนหลักลอย” ที่ต้องพึ่งพาพ่อที่ทั้งไปพบจิตแพทย์ด้วยกัน และกินอยู่หลับนอนร่วมกัน กำลังใจจากพ่อทำให้สภาพจิตใจของเขาดีขึ้นจนสามารถออกไปหางานทำนอกบ้านได้ แต่ก็เป็นแค่งานรับจ้างรายวันเท่านั้น

ศาลได้ตัดสินให้ลูกชายมีความผิดในข้อหา “ทอดทิ้งศพ” แต่ให้รอลงอาญาไว้ ขณะที่น้องสาวได้จัดการกับศพของพ่อ โดยนำไปฝังไปร่วมกับแม่

ความรู้สึกผิดในฐานะลูกชายที่ไม่อายดูแลพ่อในวันสุดท้ายได้กลายเป็น “ตราบาป”ในใจ ทุกวันนี้เขาได้แต่ขอโทษกับอัฐิของพ่อที่ใส่ซองวางไว้หิ้งพระ เขาได้แต่หวังว่าในวันหนึ่งจะเข้มแข็งพอที่จะพบหน้าน้องสาว ที่ช่วยรวบรวมเงินจัดการงานศพของพ่อให้แทน ความหวังสูงสุดของเขาในวันนี้ คือ การวางแผนสำหรับวันสุดท้ายในชีวิตตัวเอง โดยหวังจะหลับอย่างนิรันดร์ในหลุมฝังศพของตระกูลร่วมกันกับพ่อและแม่.
กำลังโหลดความคิดเห็น