ชาวญี่ปุ่นกลับมานิยมฟังเพลงผ่าน “แผ่นเสียง” จนค่ายเพลงต่างๆต้องกลับมาผลิตแผ่นเสียงอีกครั้ง และอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่พลิกฟื้นวงการดนตรีอีกครั้ง
แผ่นเสียงที่เคยกลายเป็นของตกยุคในโลกดิจิตอล หลังจากผู้คนหันไปฟังเพลงผ่านการดาว์นโหลดและสตรีมมิ่ง แต่คนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นกลับนิยมฟังเพลงจากแผ่นเสียงมากขึ้นจนเกิดเป็นกระแส ทำให้ยอดขายแผ่นเสียงเพิ่มขึ้นมากขึ้น 50% ต่อปี และค่ายเพลงใหญ่อย่าง “โซนี” ตัดสินใจกลับมาผลิตแผ่นเสียงอีกครั้งในต้นปีหน้า
หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นบอกว่า เสียงจากแผ่นเสียงนุ่มนวลกว่าเพลงดิจิตอล และยังมีความสุขจากการวางเข็มลงบนร่องเสียงเพื่อเลือกฟังเพลงที่ชื่นชอบ
สมาคมอุตสาหกรรมการบันทึกเสียงแห่งญี่ปุ่นให้ข้อมูลว่า การผลิตแผ่นเสียงได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ที่มีแผ่นเสียงวางตลาดถึง 200ล้านแผ่นต่อปี แต่พอเข้าสู่ทศวรรษ 1980 แผ่น CD ก็กลายเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมแทนที่ และหลังปี 200 การฟังเพลงก็ได้เปลี่ยนไปสู่โลกออนไลน์ ทำให้ทั้ง CD และแผ่นเสียงแทบจะขายไม่ได้ บริษัทส่วนใหญ่เลิกผลิต โดยในญี่ปุ่นยังเหลือโรงงานผลิตแผ่นเสียงเพียงแค่แห่งเดียวเท่านั้น และมีจำนวนการผลิตเพียงแค่ไม่ถึง 100,000 แผ่นต่อปีในช่วงปี 2009
แต่หลังจากปี 2014 กระแสนิยมแผ่นเสียงในญี่ปุ่นกลับมาฮิตอีกครั้ง ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นมากขึ้นมากกว่า50% ต่อปี โดยในปี 2016 แผ่นเสียงในญี่ปุ่นทำยอดขายได้มากถึง 800,000 แผ่น หรือคิดเป็น 8เท่าตัวของปี 2009
แผ่นเสียงในญี่ปุ่นที่ผลิตออกมาใหม่ได้รับการออกแบบปกให้ทันสมัย ดึงดูดใจผู้ซื้อเพราะมีขนาดใหญ่กว่าปก CD ลูกค้าหลายคนไม่เพียงชื่นชอบกับคุณภาพของเสียงจากแผ่น แต่ยังใช้แผ่นเสียงเพื่อประดับตกแต่งด้วย
เรียวจิ เมนโจ ประธานสมาคมแผ่นเสียงแห่งญี่ปุ่น ระบุว่า เสน่ห์ของแผ่นเสียงมาจากทั้งความละมุนของเสียง, ความสุขในการเล่น และที่สำคัญคือ “ความเป็นเจ้าของ” ที่จับต้องได้จริง ไม่เหมือนกับการฟังผ่านไฟล์ดิจิตอล กระแสนิยมแผ่นเสียงในญี่ปุ่นมาจากทั้งกลุ่มคนรุ่นเก่าที่หวนคิดถึงความทรงจำวันวาน และคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในเอกลักษณ์ของแผ่นเสียง
ฟื้นชีพวงการเพลง ต่อลมหายใจธุรกิจพ้นสมัย
Tower Records เคยเป็นร้านขายแผ่นเสียงและCD ชื่อดังที่เปิดสาขาในหลายประเทศ แต่ยุคดิจิตอล ทำให้ Tower Records กลายเป็นเพียงตำนาน แต่กระแสนิยมแผ่นเสียงทำให้ Tower Records กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยร้านสาขาชิบุยะในกรุงโตเกียว ต้องเพิ่มพื้นที่ขายมาตั้งแต่ปี 2014 ตอบสนองต่อยอดขายแผ่นเสียงที่เพิ่มขึ้นมากถึง 30% ต่อปี
แม้แต่เครือข่ายร้านสะดวกซื้อชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง “ลอว์สัน” ก็ยังแตกไลน์ธุรกิจจัดตั้งบริษัท Lawson HMV Entertainment และเปิดขายแผ่นเสียง 3 ร้านในกรุงโตเกียว
ด้านบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง “พานาโซนิก” ก็ไม่ยอมพลาดโอกาส เปิดตัวเครื่องเล่นแผ่นเสียงยี่ห้อ “Technics” เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สนนราคาราว 50,000 เยน ผลปรากฏว่าขายดิบขายดีจนเกินกำลังการผลิตของทางบริษัท
ศิลปินชื่อดังของญี่ปุ่นหลายรายก็เปิดเผยว่า ผลงานอัลบั้มใหม่ของตนจะบันทึกเสียงทั้งแบบ CD , แผ่นเสียง และไฟล์ดิจิตอล
ในยุค Disruptive technologies หรือ เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ธุรกิจหลายอย่างต้องล้มหายตายจาก สิ่งของหลายชนิดกลายเป็นตำนาน การกลับมาของแผ่นเสียงไม่ใช่เพียงแค่การหวนคืนของความทรงจำ แต่ยังพิสูจน์ว่ามนุษย์ยังต้องการ “สุนทรีย์” ที่อยู่นอกเหนือพัฒนาการแห่งเทคโนโลยี.
