หนุ่มญี่ปุ่นแห่ซื้อประกัน ป้องกันตัวจาก “คดีหื่นกาม”

บริษัทประกันภัยในญี่ปุ่นเสนอกรมธรรม์เพื่อคุ้มครองการตกเป็นผู้ต้องหาในเหตุลวนลามหญิงสาวในที่สาธารณะ โดยจะให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีและปรึกษาทนายความ

รถไฟในญี่ปุ่นที่หนาแน่นเบียดเสียดทำให้ชายหนุ่มจำนวนหนึ่งฉวยโอกาสนี้เพื่อกระทำการมิดีมิร้ายกับหญิงสาว แต่ขณะเดียวกันก็มีชายหนุ่มอีกหลายรายที่ถูกกล่าวหาว่าลวนลามหญิงสาว ทั้งๆที่ตนเองไม่ได้เจตนาหรือเกิดจากความเข้าใจผิด ชายหนุ่มเหล่านี้ต้องเสียอนาคตทั้งหน้าที่การงาน และชีวิตส่วนตัวที่ถูกตราหน้าว่าเป็นพวก “หื่นกาม” เคราะห์หามยามร้ายเช่นนี้เคยเกิดขึ้นจริง และมีการต่อสู้ในชั้นศาลจนมีคำพิพากษาว่าชายหนุ่มไม่ได้กระทำผิด แต่สุดท้ายก็ไม่อาจเรียกคืนความสูญสียทั้งเรื่องงานและศักดิ์ศรีได้

บริษัทประกันภัยของญี่ปุ่นรายหนึ่งซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงโตเกียว จึงเสนอแผนประกันภัยสำหรับชายหนุ่ม เพื่อป้องกันความเสี่ยงจะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลวนลามหญิงสาว โดยจะให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายทันทีหลังเกิดเหตุ ภายในนโยบายที่ว่า “อย่าหนี แต่จงปรึกษาทนายความ”

เงื่อนไขตามกรมธรรม์คือ ผู้ซื้อประกันจ่ายเงินเพียง 6,400เยนต่อปี โดยเมื่อตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลวนลาม ผู้ซื้อประกันจะสามารถติดต่อมายัง“สายด่วน” ที่บริษัทจัดตั้งขึ้น และทางบริษัทจะจัดส่งทนายความที่มีอยู่ทั่วประเทศไปยังสถานที่เกิดเหตุทันที หรือจะปรึกษากับทนายความทางโทรศัพท์ก็ได้ ทนายความจะให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับลูกค้าโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลา 48 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ นอกจากนี้ กรมธรรม์ยังจะชดใช้ค่าเสียหายหากเกิดอุบัติเหตุหรือความล่าช้าของรถไฟจากเหตุที่เกิดขึ้นด้วย

แผนประกันนี้ได้ออกจำหน่ายทั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2015 และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม หลังจากเปิดตัวมีผู้ซื้อประกันรายใหม่หลายสิบคนต่อเดือน และเพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อยคนต่อเดือนในปีนี้ โดยลูกค้า 80% เป็นชายหนุ่มที่มีหน้าที่การงานดีและไม่ต้องการเสี่ยงตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอัปยศเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขสำคัญของกรมธรรม์คือ ความคุ้มครองทั้งหมดจะถูกยกเลิกหากการดำเนินคดีพิสูจน์ได้ว่า ชายหนุ่มเจตนาก่อเหตุ “หื่นกาม” ขึ้นจริง

โชจิ สุกิโมะโตะ ประธานบริษัทประกันเจ้าของแผนประกันดังกล่าว ระบุว่า หลายปีก่อนมีคดีที่ชายหนุ่มรายหนึ่งถูกกล่าวหาว่าลวนลามเด็กสาวบนรถไฟ เขาต้องต่อสู้คดีอย่างยากเย็นกว่าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง คดีดังนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้ทางบริษัทเสนอแผนประกันภัยนี้ โดยไม่ได้มีเจตนาปกป้องชายหนุ่ม “หื่นกาม” แต่ต้องการลดความเสี่ยงจากการตกเป็นผู้ต้องหาด้วยความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับใครก็ได้.