ประเทศญี่ปุ่นกำลังเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ต้อนรับการจัดงาน Tokyo Olympic 2020 ในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะหลั่งไหลเข้ามาในระหว่างการจัดงานจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านทางญี่ปุ่นตกลงที่จะปรับแก้กฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติของไกล์แปลภาษาให้สามารถทำหน้าที่เป็นไกด์ล่ามแบบได้รับค่าตอบแทนได้แม้จะไม่ได้มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยการแก้กฎหมายดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมาผู้ที่จะทำหน้าไกด์แปลภาษาได้จะต้องมีคุณสมบัติได้รับการรับรองจากทางรัฐบาล แต่เมื่อจำนวนของไกด์สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเริ่มไม่เพียงพอ จึงได้มีการพิจารณาปรับแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ปัญหาไกด์ภาษาอื่นๆไม่เพียงพอทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้เกิดความต้องการไกด์ล่ามเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วภาษาต่างประเทศที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยมากที่สุด คือ ภาษาอังกฤษ และไกด์แปลภาษาที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องในประเทศเกินกว่าครึ่งก็เป็นไกด์ภาษาอังกฤษ ทำให้ไกด์แปลภาษาอื่นๆ เช่น ภาษาจีน มีจำนวนไม่เพียงพอ และดูเหมือนว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากปัญหาจำนวนไกด์ล่ามที่ไม่เพียงพอแล้ว ประเด็นเกี่ยวกับระบบการสอบเพื่อให้ได้คุณสมบัติไกด์แปลภาษาก็ถูกหยิบยกมาพูดถึงด้วยเช่นกัน ในข้อสอบจะมีคำถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของญี่ปุ่นอย่างละเอียด ซึ่งความยากของเนื้อหาก็อยู่ในระดับที่ทำให้มีผู้สอบผ่านอยู่ที่ประมาณ 20% เท่านั้น กล่าวได้ว่าระบบดังกล่าวเป็นตัวฉุดให้ไม่สามารถผลิตไกด์แปลภาษาป้อนเข้าสู่ตลาดได้เพียงพอนั่นเอง
ด้วยระบบแบบใหม่ วิธีการอบรมและสอบไกด์แปลภาษาจะเปลี่ยนไป จะเพิ่มการให้ความสำคัญกับความสามารถในการจัดการแผนการเดินทางแบบที่ในอดีตไม่เคยนำจุดนี้มาเป็นหัวข้อในการพิจารณา และจะต้องเพิ่มความสามารถทางการสื่อสาร (communication skill) เช่น ปรับเปลี่ยนเนื้อหาการนำเที่ยวและวิธีการพูดให้สอดคล้องกับระดับความรู้ ข้อมูล และความสนใจของลูกค้า เป็นต้น และจะแยกประเภทของไกด์เป็น ไกด์ที่ทำหน้าที่ดูแลการท่องเที่ยวโดยรวม กับไกด์ที่รับหน้าที่เฉพาะในบางพื้นที่ ใครที่จะเป็นไกด์เฉพาะในบางพื้นที่ก็ไม่จำเป็นจะต้องมีคุณสมบัติรับรองจากทางรัฐก็ได้ เพียงแค่เข้ารับการอบรม หรือรับคุณสมบัติจากหน่วยงานท้องถิ่นเท่านั้น
ถึงระบบจะเข้มงวด แต่ไกด์แย่ๆก็ไม่หมดไป
เมื่อบอกว่าจะผ่อนปรนระบบในการผลิตไกด์แปลภาษา แน่นอนก็ต้องมีหลายคนสงสัยว่าจะทำให้คุณภาพของไกด์ลดลงไปด้วยหรือไม่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะทำกฎระเบียบให้เข้มงวดแค่ไหน ไกด์ผีหรือไกด์แย่ๆก็ไม่มีทางหมดไปได้ ทางภาครัฐก็ได้บังคับใช้บทลงโทษที่รุนแรงเพื่อเป็นการส่งแมสเสจเตือนไม่ให้ผู้ที่คิดจะทำผิดลงมือทำ
การหาช่องทางในการรวบรวมไกด์แปลภาษาที่ดี เพื่อผลักดันไกด์แย่ๆให้หมดไปก็เป็นสิ่งสำคัญ ก่อนอื่นเราจะต้องรวบรวมกลุ่มสมาคมไกด์ต่างๆให้กลายเป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มเดียว เพื่อแก้ปัญหาการต่อรองเรื่องราคาที่ทำได้ยาก และไม่มีการอบรมที่ได้คุณภาพแบบในปัจจุบัน และเพิ่ม native guide (แปลภาษาต่างประเทศให้เป็นภาษาแม่) ยกตัวอย่างเช่น คนไทยที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ก็ให้สอบให้ได้คุณสมบัติในการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่สำคัญของญี่ปุ่นให้ผ่าน ส่วนรายละเอียดตามท้องถิ่นที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ก็ขอความร่วมมือให้ไกด์ที่รับหน้าที่เฉพาะในท้องที่เป็นคนดูแล การได้ไกด์ที่เป็นคนไทยเหมือนกันจะทำให้สามารถเข้าใจถึงความสนใจ ความชอบของลูกค้าได้เป็นอย่างดี รู้ว่าจะต้องอธิบายยังไงหรือจับประเด็นไหนแล้วลูกค้าจะรู้สึกสนุก เพราะไกด์แปลภาษาเปรียบได้กับเป็นสะพานที่เชื่อม 2 ประเทศเข้าด้วยกัน ไกด์แปลภาษาจะพยายามให้ลูกค้าเข้าใจถึงข้อดีของญี่ปุ่นในแบบที่ตัวเองเคยมีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งเชื่อว่านั่นจะสามารถช่วยลดจำนวนไกด์แย่ๆไปได้ในระดับนึง
เห็นได้ชัดว่าญี่ปุ่นกำลังตื่นตัวกับการเตรียมตัวจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิคในปี 2020 เป็นอย่างมากเลยนะคะ ซึ่งการสร้างบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอย่างเช่น ไกด์แปลภาษาเข้าสู่ตลาด ก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ญี่ปุ่นกำลังเร่งมือทำอยู่ในขณะนี้ เพื่อนๆคนไหนที่ฝันอยากจะเป็นไกด์ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ก็อย่าลืมเตรียมตัวฝึกฝนตัวเองกันให้ดี เพราะดูเหมือนว่าโอกาสจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org