รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เพื่อซื้อหุ้นบริษัทผลิตหน่วยความจำของโตชิบา สกัดกั้นเทคโนโลยีชั้นสูงไหลไปสู่บริษัทจากประเทศจีน
รัฐบาลญี่ปุ่น โดยกองทุนเครือข่ายนวัตกรรม และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่น กำลังพยายามสนับสนุนให้บริษัท Broadcom ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์จากสหรัฐ ช่วงชิงความได้เปรียบในการประมูลซื้อหุ้นของโตชิบาในรอบที่ 2
Broadcom ได้เข้าร่วมการประมูลในรอบแรก แต่พ่ายแพ้ให้กับหงไห่ พริซิชั่น ยักษ์ใหญ่จากไต้หวัน ที่เพิ่งซื้อกิจการของชาร์ปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยเสนอราคามากถึง 3 ล้านล้านเยน สูงกว่าราคาที่โตชิบาคาดไว้ถึง 1 ล้านล้านเยน
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมา “ตีปลาหน้าไซ” ทันที โดยแสดงความกังวลว่าเทคโนโลยีของโตชิบามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของญี่ปุ่น และไม่สมควรจะตกอยู่ในมือของต่างชาติ เพราะหงไห่ซึ่งเป็นผู้รับจ้างผลิตโทรศัพท์ไอโฟนจนร่ำรวยนั้น มีฐานการผลิตใหญ่อยู่ในประเทศจีน และ นาย “กัวไถหมิง” กรรมการผู้จัดการใหญ่ของหงไห่ ก็มีความใกล้ชิดกับรัฐบาลจีนอย่างมาก
แต่การประมูลในรอบที่ 2 Broadcom ได้รับการหนุนหลังจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม หรือ MITI ของรัฐบาลญี่ปุ่นจะได้รับการสนับสนุนทั้งทางการเมืองและการเงิน โดยองค์กรต่างๆของญี่ปุ่น รวมทั้งธนาคารขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นก็พร้อมจะให้การสนับสนุนกับบริษัทพันธมิตรระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐนี้
นอกจากนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นยังกำลังเจรจาให้ Kohlberg Kravis Roberts & Co กองทุนของสหรัฐที่เข้าประมูลซื้อหุ้นของโตชิบาในรอบแรกด้วย เข้าร่วมในบริษัทพันธมิตรของญี่ปุ่น-สหรัฐนี้ด้วย
แต่ฝ่ายของนาย “กัวไถหมิง” มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไต้หวัน เจ้าของหงไห่ พริซิชั่น ก็ไม่ได้ยอมอ่อนข้อ และได้เดินเกมเหนือชั้นโดยเจรจากับบริษัทแอปเปิลของสหรัฐฯ และบริษัทซอฟแบงก์ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของญี่ปุ่น รวมทั้งจะใช้บริษัทชาร์ป ซึ่งหงไห่ได้ซื้อกิจการไป เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในการประมูลรอบที่ 2 ด้วย เพื่อลดความกังวลของรัฐบาลญี่ปุ่นว่าเทคโนโลยีจะตกไปอยู่ในมือต่างชาติ
บริษัทโตชิบาประสบผลขาดทุนมหาศาลจากธุรกิจนิวเคลียร์ในสหรัฐ จนต้องจำใจขายหุ้นของบริษัทย่อยที่ผลิตชิปหน่วยความจำ หรือเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจทางธุรกิจ เพื่อรักษาองคาพยพโดยรวมของบริษัทไว้ และหลีกเลี่ยงไม่ให้โตชิบาต้องถูกเพิกถอนหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์โตเกียว.