ขั้นตอนการล้างหน้าที่ถูกวิธีแบบสาวญี่ปุ่นทำอย่างไรจึงจะสวยสดใสไร้สิวไร้ริ้วรอย มีหลักแนะนำเป็นเคล็ดลับกันดังนี้
☆ควรล้างหน้าบ่อยแค่ไหน
การล้างหน้าจริงๆ ไม่ความล้างบ่อยจนเกินไปเพราะอาจจะทำร้ายผิวจากการสัมผัสโดยไม่รู้ตัว การล้างหน้าควรล้างแค่วันละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว คือตอนเช้าหลังตื่นนอนและเย็นก่อนนอนเท่านั้น
☆ควรใช้โฟมล้างหน้าหรือไม่
มีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องเลือกโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล บางคนคิดว่าการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่ความจริงแล้วผิวหน้าเจอมลภาวะมาตลอดทั้งวัน รวมทั้งสาวๆ ที่มีการแต่งหน้าแบบจัดเต็มมีสิ่งสกปรกตกค้างที่รูขุมขนจำนวนมาก การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าจึงไม่เพียงพอสาวญี่ปุ่นแนะนำโฟมที่เป็นลักษณะเหมือนวิปคือตีฟองนุ่มฟูๆ แล้วนำไปล้างหน้าจะดีมากและก่อนล้างหน้าควรใช้ Makeup Remover ทุกครั้งเพื่อกำจัดเครื่องสำอางค์ก่อน
☆ขั้นตอนการล้างหน้าที่ถูกวิธีเป็นอย่างไร
* ล้างมือให้สะอาด เพราะถ้ามือไม่สะอาดแล้วล้างหน้าทันทีจะทำให้ความสกปรกติดค้างที่ใบหน้า แทนที่จะได้ความสดใสกลับทำให้ใบหน้ามีแบคทีเรียและสิ่งสกปรกตกค้างได้
* เมื่อลบเครื่องสำอางค์ออกหมดแล้วเริ่มล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อเป็นการเปิดรูขุมขน
* จากนั้นใช้ถุงตาข่ายตีฟองโฟมล้างหน้าให้ฟูฟ่อง แล้วใช้ฟองนั้นล้างหน้าเบาๆ นวดหน้าวนไปด้วยอย่างเบามือ
* ควรล้างหน้าแบบเบามืออย่าถูหน้าแบบรุนแรงเพราะจะเป็นการทำร้ายผิวและ ทำให้เกิดริ้วร้อยได้ง่าย
* จากนั้นล้างฟองออกและตบท้ายการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อช่วยปิดและกระชับรูขุมขน
* หลังล้างหน้าใช้สำลีชุบโทนเนอร์เช็ดหน้าเบาๆ เพื่อช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่เรายังล้างออกไม่หมด และช่วยกระชับรูขุมขนไปในตัว
☆เคล็ดลับการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
น้ำอุ่นมีความจำเป็นสำหรับการล้างหน้าในขั้นตอนแรก อุณหภูมิของน้ำมีผลต่อสภาพผิวอีกด้วย คนที่สภาพผิวต่างกันการเลือกอุณหภูมิของน้ำอุ่นดังนี้
* สภาพผิวมัน สาวๆ ที่มีใบหน้ามันควรเลือกน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ３６～３８℃
* สภาพผิวแห้ง สาวๆ ผิวแห้ง ลอกเป็นขุยง่าย ควรเลือกน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ ３４～３６℃
* สาวผิวปกติ สภาพผิวไม่มันและไม่แห้งมาก ควรเลือกน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ ２８～３２℃
แค่นี้ก็จะทำให้เป็นสาวหน้าใสห่างไกลสิวและริ้วรอยแล้ว
☆ควรล้างหน้าบ่อยแค่ไหน
การล้างหน้าจริงๆ ไม่ความล้างบ่อยจนเกินไปเพราะอาจจะทำร้ายผิวจากการสัมผัสโดยไม่รู้ตัว การล้างหน้าควรล้างแค่วันละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว คือตอนเช้าหลังตื่นนอนและเย็นก่อนนอนเท่านั้น
☆ควรใช้โฟมล้างหน้าหรือไม่
มีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องเลือกโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล บางคนคิดว่าการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่ความจริงแล้วผิวหน้าเจอมลภาวะมาตลอดทั้งวัน รวมทั้งสาวๆ ที่มีการแต่งหน้าแบบจัดเต็มมีสิ่งสกปรกตกค้างที่รูขุมขนจำนวนมาก การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าจึงไม่เพียงพอสาวญี่ปุ่นแนะนำโฟมที่เป็นลักษณะเหมือนวิปคือตีฟองนุ่มฟูๆ แล้วนำไปล้างหน้าจะดีมากและก่อนล้างหน้าควรใช้ Makeup Remover ทุกครั้งเพื่อกำจัดเครื่องสำอางค์ก่อน
☆ขั้นตอนการล้างหน้าที่ถูกวิธีเป็นอย่างไร
* ล้างมือให้สะอาด เพราะถ้ามือไม่สะอาดแล้วล้างหน้าทันทีจะทำให้ความสกปรกติดค้างที่ใบหน้า แทนที่จะได้ความสดใสกลับทำให้ใบหน้ามีแบคทีเรียและสิ่งสกปรกตกค้างได้
* เมื่อลบเครื่องสำอางค์ออกหมดแล้วเริ่มล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อเป็นการเปิดรูขุมขน
* จากนั้นใช้ถุงตาข่ายตีฟองโฟมล้างหน้าให้ฟูฟ่อง แล้วใช้ฟองนั้นล้างหน้าเบาๆ นวดหน้าวนไปด้วยอย่างเบามือ
* ควรล้างหน้าแบบเบามืออย่าถูหน้าแบบรุนแรงเพราะจะเป็นการทำร้ายผิวและ ทำให้เกิดริ้วร้อยได้ง่าย
* จากนั้นล้างฟองออกและตบท้ายการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อช่วยปิดและกระชับรูขุมขน
* หลังล้างหน้าใช้สำลีชุบโทนเนอร์เช็ดหน้าเบาๆ เพื่อช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่เรายังล้างออกไม่หมด และช่วยกระชับรูขุมขนไปในตัว
☆เคล็ดลับการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
น้ำอุ่นมีความจำเป็นสำหรับการล้างหน้าในขั้นตอนแรก อุณหภูมิของน้ำมีผลต่อสภาพผิวอีกด้วย คนที่สภาพผิวต่างกันการเลือกอุณหภูมิของน้ำอุ่นดังนี้
* สภาพผิวมัน สาวๆ ที่มีใบหน้ามันควรเลือกน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ３６～３８℃
* สภาพผิวแห้ง สาวๆ ผิวแห้ง ลอกเป็นขุยง่าย ควรเลือกน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ ３４～３６℃
* สาวผิวปกติ สภาพผิวไม่มันและไม่แห้งมาก ควรเลือกน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ ２８～３２℃
แค่นี้ก็จะทำให้เป็นสาวหน้าใสห่างไกลสิวและริ้วรอยแล้ว
