มีผลการสำรวจจากนิตรสารชื่อดังสำรวจความคิดเห็นคนต่างชาติกลุ่มเป้าหมายที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ผลการรวบรวมความชอบและจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมชมชอบแหล่งท่องเที่ยวในญี่ปุ่นนั้นมีที่ใดบ้าง
1. 金閣寺(京都)Kinkakuji Kyoto
วัดคิงกะกุจิ หรือวัดทองนั่นเอง ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดยอดฮิตอีกวัดหนึ่งในเกียวโต ด้วยเอกลักษณ์ของวัดที่ไม่เหมือนใคร สองชั้นบนเป็นสีทองอล่าม มีสระน้ำขนาดใหญ่ติดกับวัด และยังเป็ฉากปราสาท ในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยว มาชมความสวยงามกันมากมาย ที่ศาลาทองซึ่งเป็นจุดเด่นของวัดนั้น แต่เดิมศาลาทองอันเลื่องชื่อนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของโชกุนอะชิกะงะ โยะชิมิสึ ต่อมาผู้เป็นบุตรชายได้เปลี่ยนแปลงให้เป็นวัดนิกายเซนรินไซ ในปี พ.ศ. 2537 ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกร่วมกับสถานที่สำคัญอื่นๆในเมืองเกียวโต
ช่วงที่วัดทองสวยงามมากที่สุดน่าจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ปลายเดือนพฤศจิกายน รอบวัดจะมีใบไม้แดง เหลือง ส้ม และเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด แต่ช่วงอื่นๆ ก็สวยมากไม่แพ้กันทั้งซากุระและฤดูหนาวที่มีหิมะโปรยมาคลุมตัวอาคาร น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
2. 東大寺(奈良)Todaiji Nara
วัดโทไดจิ เป็นวัดพุทธในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น ศาลาหลวงพ่อโต ไดบุสึเด็ง ของวัดนี้ได้รับการบันทึกว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุสึขนาดใหญ่หล่อจากบรอนซ์ มีความสูงดังนี้
ความสูงทั้งองค์ : 14.98 เมตร
ความสูงของพระพักตร์ : 5.33 เมตร
ความยาวของพระเนตร : 1.02 เมตร
ความกว้างของพระนาสิก : 0.5 เมตร
ความยาวของพระกรรณ : 2.54 เมตร
น้ำหนักรวม : 500 ตัน
วัดนี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในทะเบียนเดียวกับวัด ศาลเจ้า และสถานที่สำคัญอื่นๆ อีก 7 แห่งในเมืองนารา ก่อนเดินถึงตัววัดจะต้องเดินผ่านสวนญี่ปุ่นสวยงามและมีเจ้ากวางน้อยมากมายเดินขอขนมนักท่องเที่ยวน่ารักน่าชังมาก ในวัดนอกจากได้นมัสการพระพุทธรูปไดบุสึแล้วยังจะได้ชมความงามของอาคารญี่ปุ่น และมีของฝากของที่ระลึกให้เลือกซื้อมากมาย
3. 富士山(静岡・山梨)Mount Fuji ภูเขาไฟฟูจิ
ภูเขาฟุจิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ที่ความสูง 3,776 เมตร ภูเขาฟุจิ มีชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า "ฟุจิซัง" ซึ่งในหนังสือสมัยก่อนเรียกว่า "ฟุจิยะมะ" เพราะตัวอักษรคันจิที่เขียนว่า (山) สามารถอ่านได้สองแบบทั้ง "ยะมะ" และ "ซัง" ฟุจิซังตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซุโอะกะและจังหวัดยะมะนะชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว พื้นที่โดยรอบ ประกอบด้วยทะเลสาบฟูจิทั้ง 5 อุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุและน้ำตกชิระอิโตะ การเดินทางไปท่องเที่ยวที่นี่สะดวกสบายมีรถไฟรถบัสจากโตเกียวและเมืองรอบๆ ที่นี่มีแหล่งเอนเตอร์เทน สวนสนุก สวนผลไม้สวนดอกไม้มากมาย นอกจากนี้บ่อนำแร่ออนเซนชื่อดังก็เป็นที่นิยมมากต้องเดินทางและค้างคืนจึงจะชื่นชมความสวยงามและธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
4. 清水寺(京都)Kiyo Mizu dera, Kyoto
วัดคิโยะมิซุ หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดน้ำใส ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกียวโต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ชื่อของวัดมีความหมายว่าน้ำบริสุทธิ์ มีที่มาจากน้ำตกที่ไหลผ่านเนินเขาลงมาบริเวณวัด ไหลเป็นสามสาย เชื่อกันว่าการดื่มน้ำจากสายน้ำตกทั้ง 3 นี้ มีความหมายถึงสุขภาพดี โชคดีในความรัก และเกิดความสำเร็จในการงานการศึกษา
อาคารหลักของวัดคิโยะมิซุเป็นที่รู้จักเพราะมีระเบียงขนาดใหญ่ยืนออกมาจากโขดหินสูง 13 เมตร มีเสาไม้กว่าร้อยต้นรองรับ ระเบียงนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเกียวโตได้
ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอื่นๆ จำนวนมาก ที่เป็นที่รู้จักดีคือ ศาลเจ้าจิชู (Jishu-jinja) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพ Okuninushino Mikoto เทพแห่งความรักและเนื้อคู่ ที่ศาลเจ้านี้จะมี"ก้อนหินแห่งความรัก" 2 ก้อน วางห่างกันมีความเชื่อกันว่า หากสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่งได้ จะสมปรารถนาในความรัก
ทางเดินไปวัดจะขึ้นเนินมีร้านค้ามากมาย สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องราง เครื่องหอม ธูป เทียน หรือกระดาษเสี่ยงทายโชคชะตา ขนมของฝากหลากหลาย ร้านขนมร้านคาเฟ่ชิลๆ มากมาย เลือกช้อปปิ้งสนุกสนานครบวงจรในทีเดียว
5. 姫路城 兵庫 Himeji castle
ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ ปราสาทมะสึโมะโตะ และปราสาทคุมะโมะโตะ ปราสาทฮิเมจิเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2538 ปราสาทฮิเมจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2536 และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" เพราะพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง สวยงามยิ่งช่วงซากุระกำลังบายสะพรั่งถ่ายรูปโดยมีฉากเป็นปราสาททรงสวยสง่างามนี้เป็นความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน
6. 浅草寺 東京 Asakusa, Tokyo วัดเซนโซจิ(Sensoji Temple)
เป็นวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะ โตเกียว บางคนเรียกและรู้จักในชื่อว่าวัดอาซากุสะ หรือวัดโคมแดง เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว ทุกทริปน่าจะต้องมีไปที่นี้ ทางเดินเข้าวัดจะมีมีถนนนากามิเสะที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดมีร้านค้ามากมาย ร้านค้าเล็กๆ หลายร้านเรียงยาวจะขายของที่ระลึกต่างๆ เช่น พัด ภาพวาดแผ่นไม้ ชุดกิโมโน เสื้อคลุมแบบต่างๆ ม้วนภาพเขียน ขนมหวานพื้นเมือง ของเล่น เสื้อยืด หรือของประดับตกแต่งต่างๆ ทางเข้าวัดมีประตูขนาดใหญ่ เรียกว่า ประตูคามินาริ (Kaminari-mon) คานประตูแขวนโคมกระดาษขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 5.5 เมตร ในบริเวณวัดเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้น และอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์คันนน (Kannon Bosatsu) บริเวณวัดยังมีสวนแบบญี่ปุ่นที่เงียบสงบ ซึ่งได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ท่านที่ผ่านไปแถวนี้สามารถเที่ยวได้สนุกสนานใกล้ๆ กันนั้นก็สามารถไปเที่ยวอุเอโนะหรือโตเกียวสกายทรีได้อีกด้วย
7. 三十三間堂(京都)Sanjusan gen do ,Kyoto
วัดซันจูซันเก็นโด หรือวัดเจ้าแม่กวนอิม 1000 มือ (Sanjusangendo Temple) วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ถูกค้นพบในปี 1164 ขณะนั้นวัดมีความเสียหายการการถูกไฟไหม้ ต่อมาได้มีการบูรณะซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความงดงามของเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งภายในวัดนั้นมีเจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้าต่างๆ อยู่มากมายไม่ซ้ำหน้ากันสักองค์ เป็นที่อัศจรรย์มาก ทั้งหมดประดิษฐานอยู่ในอาคารไม้เก่าโบราณมีความยาวถึง 120 เมตร เป็นอาคารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ที่นี่อาจจะดูเหมือนไม่ค่อยได้รับคำแนะนำมากนักแต่ถ้าท่านไปเกียวโตเป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
คนต่างชาติที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นวัดวาอารามและเป็นมรดกโลกที่สมควรค่าแห่งการชื่นชม ใครมีโอกาสต้องลองไปเที่ยวชม
1. 金閣寺(京都)Kinkakuji Kyoto
วัดคิงกะกุจิ หรือวัดทองนั่นเอง ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดยอดฮิตอีกวัดหนึ่งในเกียวโต ด้วยเอกลักษณ์ของวัดที่ไม่เหมือนใคร สองชั้นบนเป็นสีทองอล่าม มีสระน้ำขนาดใหญ่ติดกับวัด และยังเป็ฉากปราสาท ในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยว มาชมความสวยงามกันมากมาย ที่ศาลาทองซึ่งเป็นจุดเด่นของวัดนั้น แต่เดิมศาลาทองอันเลื่องชื่อนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของโชกุนอะชิกะงะ โยะชิมิสึ ต่อมาผู้เป็นบุตรชายได้เปลี่ยนแปลงให้เป็นวัดนิกายเซนรินไซ ในปี พ.ศ. 2537 ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกร่วมกับสถานที่สำคัญอื่นๆในเมืองเกียวโต
ช่วงที่วัดทองสวยงามมากที่สุดน่าจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ปลายเดือนพฤศจิกายน รอบวัดจะมีใบไม้แดง เหลือง ส้ม และเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด แต่ช่วงอื่นๆ ก็สวยมากไม่แพ้กันทั้งซากุระและฤดูหนาวที่มีหิมะโปรยมาคลุมตัวอาคาร น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
2. 東大寺(奈良)Todaiji Nara
วัดโทไดจิ เป็นวัดพุทธในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น ศาลาหลวงพ่อโต ไดบุสึเด็ง ของวัดนี้ได้รับการบันทึกว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุสึขนาดใหญ่หล่อจากบรอนซ์ มีความสูงดังนี้
ความสูงทั้งองค์ : 14.98 เมตร
ความสูงของพระพักตร์ : 5.33 เมตร
ความยาวของพระเนตร : 1.02 เมตร
ความกว้างของพระนาสิก : 0.5 เมตร
ความยาวของพระกรรณ : 2.54 เมตร
น้ำหนักรวม : 500 ตัน
วัดนี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในทะเบียนเดียวกับวัด ศาลเจ้า และสถานที่สำคัญอื่นๆ อีก 7 แห่งในเมืองนารา ก่อนเดินถึงตัววัดจะต้องเดินผ่านสวนญี่ปุ่นสวยงามและมีเจ้ากวางน้อยมากมายเดินขอขนมนักท่องเที่ยวน่ารักน่าชังมาก ในวัดนอกจากได้นมัสการพระพุทธรูปไดบุสึแล้วยังจะได้ชมความงามของอาคารญี่ปุ่น และมีของฝากของที่ระลึกให้เลือกซื้อมากมาย
3. 富士山(静岡・山梨)Mount Fuji ภูเขาไฟฟูจิ
ภูเขาฟุจิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ที่ความสูง 3,776 เมตร ภูเขาฟุจิ มีชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า "ฟุจิซัง" ซึ่งในหนังสือสมัยก่อนเรียกว่า "ฟุจิยะมะ" เพราะตัวอักษรคันจิที่เขียนว่า (山) สามารถอ่านได้สองแบบทั้ง "ยะมะ" และ "ซัง" ฟุจิซังตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซุโอะกะและจังหวัดยะมะนะชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว พื้นที่โดยรอบ ประกอบด้วยทะเลสาบฟูจิทั้ง 5 อุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุและน้ำตกชิระอิโตะ การเดินทางไปท่องเที่ยวที่นี่สะดวกสบายมีรถไฟรถบัสจากโตเกียวและเมืองรอบๆ ที่นี่มีแหล่งเอนเตอร์เทน สวนสนุก สวนผลไม้สวนดอกไม้มากมาย นอกจากนี้บ่อนำแร่ออนเซนชื่อดังก็เป็นที่นิยมมากต้องเดินทางและค้างคืนจึงจะชื่นชมความสวยงามและธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
4. 清水寺(京都)Kiyo Mizu dera, Kyoto
วัดคิโยะมิซุ หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดน้ำใส ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกียวโต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ชื่อของวัดมีความหมายว่าน้ำบริสุทธิ์ มีที่มาจากน้ำตกที่ไหลผ่านเนินเขาลงมาบริเวณวัด ไหลเป็นสามสาย เชื่อกันว่าการดื่มน้ำจากสายน้ำตกทั้ง 3 นี้ มีความหมายถึงสุขภาพดี โชคดีในความรัก และเกิดความสำเร็จในการงานการศึกษา
อาคารหลักของวัดคิโยะมิซุเป็นที่รู้จักเพราะมีระเบียงขนาดใหญ่ยืนออกมาจากโขดหินสูง 13 เมตร มีเสาไม้กว่าร้อยต้นรองรับ ระเบียงนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเกียวโตได้
ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอื่นๆ จำนวนมาก ที่เป็นที่รู้จักดีคือ ศาลเจ้าจิชู (Jishu-jinja) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพ Okuninushino Mikoto เทพแห่งความรักและเนื้อคู่ ที่ศาลเจ้านี้จะมี"ก้อนหินแห่งความรัก" 2 ก้อน วางห่างกันมีความเชื่อกันว่า หากสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่งได้ จะสมปรารถนาในความรัก
ทางเดินไปวัดจะขึ้นเนินมีร้านค้ามากมาย สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องราง เครื่องหอม ธูป เทียน หรือกระดาษเสี่ยงทายโชคชะตา ขนมของฝากหลากหลาย ร้านขนมร้านคาเฟ่ชิลๆ มากมาย เลือกช้อปปิ้งสนุกสนานครบวงจรในทีเดียว
5. 姫路城 兵庫 Himeji castle
ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ ปราสาทมะสึโมะโตะ และปราสาทคุมะโมะโตะ ปราสาทฮิเมจิเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2538 ปราสาทฮิเมจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2536 และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า "ปราสาทนกกระสาขาว" เพราะพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง สวยงามยิ่งช่วงซากุระกำลังบายสะพรั่งถ่ายรูปโดยมีฉากเป็นปราสาททรงสวยสง่างามนี้เป็นความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน
6. 浅草寺 東京 Asakusa, Tokyo วัดเซนโซจิ(Sensoji Temple)
เป็นวัดใหญ่ในย่านอาซากุสะ โตเกียว บางคนเรียกและรู้จักในชื่อว่าวัดอาซากุสะ หรือวัดโคมแดง เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดวัดหนึ่งของเมืองโตเกียว ทุกทริปน่าจะต้องมีไปที่นี้ ทางเดินเข้าวัดจะมีมีถนนนากามิเสะที่เป็นถนนยาวเข้าสู่พื้นที่ภายในวัดมีร้านค้ามากมาย ร้านค้าเล็กๆ หลายร้านเรียงยาวจะขายของที่ระลึกต่างๆ เช่น พัด ภาพวาดแผ่นไม้ ชุดกิโมโน เสื้อคลุมแบบต่างๆ ม้วนภาพเขียน ขนมหวานพื้นเมือง ของเล่น เสื้อยืด หรือของประดับตกแต่งต่างๆ ทางเข้าวัดมีประตูขนาดใหญ่ เรียกว่า ประตูคามินาริ (Kaminari-mon) คานประตูแขวนโคมกระดาษขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 5.5 เมตร ในบริเวณวัดเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้น และอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์คันนน (Kannon Bosatsu) บริเวณวัดยังมีสวนแบบญี่ปุ่นที่เงียบสงบ ซึ่งได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ท่านที่ผ่านไปแถวนี้สามารถเที่ยวได้สนุกสนานใกล้ๆ กันนั้นก็สามารถไปเที่ยวอุเอโนะหรือโตเกียวสกายทรีได้อีกด้วย
7. 三十三間堂(京都)Sanjusan gen do ,Kyoto
วัดซันจูซันเก็นโด หรือวัดเจ้าแม่กวนอิม 1000 มือ (Sanjusangendo Temple) วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ถูกค้นพบในปี 1164 ขณะนั้นวัดมีความเสียหายการการถูกไฟไหม้ ต่อมาได้มีการบูรณะซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความงดงามของเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งภายในวัดนั้นมีเจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้าต่างๆ อยู่มากมายไม่ซ้ำหน้ากันสักองค์ เป็นที่อัศจรรย์มาก ทั้งหมดประดิษฐานอยู่ในอาคารไม้เก่าโบราณมีความยาวถึง 120 เมตร เป็นอาคารไม้ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ที่นี่อาจจะดูเหมือนไม่ค่อยได้รับคำแนะนำมากนักแต่ถ้าท่านไปเกียวโตเป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
คนต่างชาติที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นวัดวาอารามและเป็นมรดกโลกที่สมควรค่าแห่งการชื่นชม ใครมีโอกาสต้องลองไปเที่ยวชม