สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้วครับ วันนี้ขอเล่าเรื่องที่สืบเนื่องมาจากบทความก่อนหน้านี้อีกสักหน่อยครับ ครั้งก่อนผมเล่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่มาที่ไปของซามูไรที่เปลี่ยนบทบาทจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากเดิมที่→ ซามูไร = คนที่คอยปรนนิบัติรับใช้ผู้ที่มียศฐาบรรดาศักดิ์สูงกว่า จากอารักขาที่ประจำอยู่ตามจุดปล่องทางออกของน้ำทิ้ง หรือถ้าเทียบกับยุคปัจจุบันคิดว่าเป็น salary man คนหนึ่งในองค์กร
จนมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อถึงยุคเฟื่องฟูที่เป็นยุคสมัยของซามูไร กลายเป็นผู้มากไปด้วยยศฐาบารมี จะเปรียบกับยุคปัจจุบันคงจะไม่ใช่ salary man แล้ว แต่เป็น 士業 samuraigyou คือเป็นคนในอาชีพที่เป็นนายตนเอง เช่น ผู้ที่มีความสามารถ มี Qualification , License หรือพวกอาชีพทนายความ นักจัดเก็บภาษี ผู้ที่ประกอบอาชีพที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผู้ที่มีความรู้เฉพาะด้าน
ซึ่งซามูไรที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งสำหรับคนญี่ปุ่น คือ 織田信長 Oda Nobunaga อย่างที่เคยเล่าไป แต่การที่จะสร้างทีมหรือองค์กรได้ไม่ใช่จะทำได้แค่คนคนเดียว ผู้ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำที่มากไปด้วยอำนาจบารมีนั้นไม่ใช่ง่ายๆ เลย การที่ Oda Nobunaga จะผงาดได้เช่นที่ชีวประวัติต่างๆ กล่าวไว้นั้นก็เกิดจากลูกน้องเขาหลายๆ คน เหมือนหัวหน้างานสมัยนี้เช่นกันบางคนมีอำนาจมากแต่ลูกน้องไม่เชื่อฟัง บางคนอาจจะบริหารแบบเรียบๆ แต่ซื้อใจทีมงานได้ ดังนั้นถ้าพูดถึง"ทักษะการเลี้ยงคน หรือความยากในการใช้คน " ก็ถือเป็นอีกทักษะหนึ่งที่นักรบนักสู้หรือหัวหน้างานต้องมี
ลูกน้องคนสำคัญของ Oda Nobunaga มีเป็นพันๆ คนเลยล่ะครับแต่วันนี้อยากยกประเด็นลูกน้องคนเก่งมือซ้ายมือขวา คือ 明智光秀 Akechi Mitsuhide、豊臣秀吉 Toyotomi Hideyoshi、และลูกน้องที่จงรักภักดีทำงานมาตลอด 30 ปีแต่มีชีวิตที่น่าสงสารในช่วงบั้นปลาย นั่นคือ 佐久間信盛 Sakuma Nobumori จะเปรียบไปเรื่องราวต่างๆ ในสังคมญี่ปุ่น หรือสังคมการทำงานในองค์กรที่ต้องทำงานใต้บังคับบัญชา หรือทำงานร่วมกันก็ไม่ต่างจากเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์นัก
ซึ่งการทำงานในปัจจุบันทิศทางและนโยบายต่างๆ ก็ออกมาจากผู้บริหารระดับสูงใช่ไหมครับ บางทีการมีหัวหน้าเช่นไรก็มีผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชาเช่นกัน เช่นเดียวกับหัวหน้าแบบ Oda Nobunaga มีข้อดีและข้อไม่ดีที่ขัดกันสุดโต่งเลยเชียว มีคนบอกว่าเขาเป็นคนมีเหตุผล แต่เขาให้ความสำคัญกับประเด็นที่ว่าใครสามารถทำงานให้เขาได้เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงช่วยเหลือและเลื่อนขั้นเลื่อนยศให้กับลูกน้องที่เขาเห็นว่าสามารถทำงานให้เขาได้โดยไม่คำนึงถึงชาติกำเนิดว่าลูกน้องคนนั้นจะเกิดมายากจนหรือไต่เต้ามาจากไหน อีกความสุดโต่งคือเขาตัดคนออกทันทีถ้าคิดว่าต้องการตัด แม้ว่าลูกน้องคนนั้นจะมียศมีตำแหน่งมานานแต่ถ้าเขาเห็นว่าใช้ไม่ได้แล้วเขาก็ตัดออกง่ายๆ เลย (ซึ่งผู้นำเช่นนี้จะตรงข้ามกับความเป็นจริงในสังคมการทำงานในญี่ปุ่นปัจจุบันที่จะเลี้ยงคน เก่งไม่เก่งก็ทำงานกันไปจนเกษียณอายุ แต่ถ้าใครเจอหัวหน้าแบบ Oda Nobunaga นี่เค้าตัดคุณออกจากเกมส์ทันทีถ้าเห็นว่าคุณหมดประโยชน์หรือช่วยอะไรเขาไม่ได้แล้ว โหดร้ายมาก) ตัวอย่างการตัดคนของ Oda Nobunaga เช่นกรณีการขับไล่ Nobumori ออก
ก่อน Oda Nobunaga ตาย 2 ปี เขาไล่ลูกน้องจำนวนหนึ่งออก วันนี้จะแนะนำให้รู้จักหนึ่งในบรรดาลูกน้องที่ถูกไล่ออกครับ คือ Sakuma Nobumori ในตอนนั้นมีการทำเป็นเอกสารระบุเหตุผลที่ไล่ออกไว้ด้วยซึ่งยังคงเป็นหลักฐานอยู่ในปัจจุบัน เอกสารนั้นเป็นข้อความที่ตรงชัดตรงประเด็นจะต่างจากสไตล์คนญี่ปุ่นปัจจุบันที่จะใช้คำอ้อมๆ ถนอมน้ำใจ เนื้อหาในสารไล่ออกที่เขียนไว้ตัวอย่างเช่น ( ข้อความต่อไปนี้เป็นข้อความจากการแปลในการอธิบายตามแบบฉบับของผมนะครับ ไม่ใช่เนื้อหาจากสารตัวจริง)
・หลังจากที่ Nobumori ได้ถูกสั่งให้มาเป็นแม่ทัพคุมกำลังเพื่อทำสงครามกับพระภิกษุ ( Oda Nobunaga ทำสงครามกับพระภิกษุต่อเนื่อง 10 ปี แต่ Nobumori ได้เป็นแม่ทัพทำงานนี้ช่วง 5 ปีหลังก่อนสงครามกับพระภิกษุจะยุติลง) สารไล่ออกบอกว่าตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งคุมงานนี้ ไม่ได้ทำงานเลยใช่ไหมภายในระยะเวลา 5 ปีมานี้ ไม่รบจริงจัง คิดว่าอยู่เฉยๆ พวกพระจะยอมแพ้งั้นเหรอ แกคิดผิดแล้ว ( ถ้าเทียบกับลูกน้องเช่น 明智光秀 Akechi Mitsuhide、豊臣秀吉 Toyotomi Hideyoshi、ที่ได้รับมอบหมายไปรบตามเมืองอื่นๆ ก็สู้รบอย่างจริงจัง )
・ถ้าแกรบไม่เก่ง ไม่ชอบรบก็ต้องใช้สมองให้มากขึ้น ทำไมถึงไม่เคย 報・連・相 hou ren sou แจ้งข้อมูล ติดต่อ ปรึกษากันเลย รบไม่เป็นไม่เก่งก็มาถามสิจะได้บอกให้!!
・ใช้เงินค่าใช้จ่ายเยอะ ใช้ทำอะไรบ้าง ? เอาไปสังสรรค์ปาร์ตี้ใช่ไหม ?
・ลูกชายของ Nobumori เป็นคนไม่ดี ไม่ช่วยรักษาผลประโยชน์แคว้น
・เป็นลูกน้องทำงานกันมามากกว่า 30 ปี ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร!!
・ครั้งนี้ต้องเลือกระหว่าง จะเก็บไว้ให้พยายามทำงานต่อไป หรือไล่ออก
ผมคิดว่านี่เป็นจดหมายจากหัวหน้าถึงลูกน้องที่น่ากลัวมากเลยนะ นอกจากสิ่งที่เขียนไว้ในเอกสารบันทึกเหตุการณ์นี้ Oda Nobunaga ไม่พอใจและยังจดจำคำพูดที่ Nobumori เคยพูดไว้โดยการยกตนชื่นชมตนเองว่า「 ลูกน้องที่มีความสามารถแบบพวกเรา หาไม่ได้ที่ไหนหรอก 」Oda Nobunaga ไม่พอใจอาการโอหังของคำพูดนี้มาตลอด
Nobumori เป็นลูกน้องของ Nobunaga ก็จริงแต่เขามีอาวุโสสูงมียศมีตำแหน่งมาตั้งแต่ไดเมียวคนเก่าก่อนที่ Nobunaga จะขึ้นเป็นไดเมียวต่อ ดังนั้นเขาก็ถือเป็นอีกคนที่สามารถพูดอะไรๆ ให้คนในแคว้นเชื่อถือได้ ก่อนหน้านั้น Nobunaga เคยแพ้สงครามและทุกคนต้องหลบหนีโดยการหลบหนีครั้งนั้นมี Hideyoshi ช่วยเป็นกองกำลังหนุนหลังคืออยู่ท้ายสุด ถือเป็นคนที่อยู่ในอันตรายที่สุด และช่วยให้ Nobunaga รอดจากกระสุนปืนมาได้ ทำให้กองทัพสามารถหลบหนีได้อย่างปลอดภัย และครั้งนั้นเอง Hideyoshi ได้รับคำชมจาก Nobunaga เป็นอย่างมาก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Hideyoshi จึงเป็นที่จับตาและค่อยๆ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งมาเรื่อยๆ แต่ก็มีผู้คัดค้านต่อการเลื่อนตำแหน่งของ Hideyoshi เพราะเขามีชาติตระกูลที่ไม่สูงส่ง แต่เพราะ Nobumori เองที่เป็นผู้อาวุโสและมีตำแหน่งอยู่ก่อนก็ช่วยพูดให้คนอื่นๆ เข้าใจและยอมรับในตัว Hideyoshi ว่า 「 Nobunaga ประเมิน Hideyoshi ในมุมมองที่เป็นเลิศอยู่แล้วจงไว้ใจ เพราะว่า Hideyoshi มีความสามารถมาก」 ก็อาวุโสขนาดนี้ใครจะรู้ว่าสุดท้าย Nobumori เองจะถูกหัวหน้าตนเองไล่ออกซะได้
มีเรื่องที่ Nobunaga ไม่พอใจ Nobumori อีกครับเล่าอีกสักหน่อย ครั้งหนึ่งตอนที่ทำสงคราม ศัตรูยังไม่มา แต่ Nobumori หนีไปก่อนแล้ว ทำให้ Nobunaga โกรธไม่ยกโทษให้ ถึงแม้จะได้รับฉายาว่า 「退き佐久間」nokisakuma หมายความว่า ผู้ที่เก่งในการหลบหนี แต่ Nobunaga ก็คอยโอกาสที่จะเอาเขาออกจนได้ คือครั้งทำสงครามกับพระภิกษุนั่นเอง บั้นปลายสุดท้ายของ Nobumori ผู้ซึ่งเป็น No.2 และเป็นรองหัวหน้าตระกูลโอดะได้ถูกเนรเทศออกจากทัพ ตอนที่ถูกไล่ออกเขามีลูกน้องติดตามออกมาด้วยอีกหลายคน แต่พอเงินเริ่มหมดลูกน้องก็เริ่มห่างหายออกไปที่ละคนสองคนจนสุดท้ายไปเกือบหมด เหลืออยู่คนเดียวที่ดูแลเขาตลอด เขาตัดสินใจออกบวชครับ จากนั้น Mitsuhide เป็นคนรับช่วงท่านรองต่อจากเขา หลังจากนั้น 2 ปี Mitsuhide ได้ฆ่า Nobunaga เหตุผลในการฆ่ายังไม่มีใครรู้จนถึงปัจจุบันนี้ แต่ก็คงจะเป็นความคับข้องใจหลายอย่างถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมอาจจะหาอ่านได้จากหนังสือ เรื่อง เงื่อนงำของวัดฮอนโนจิ 本能寺Hon'nouji ลองหามาอ่านนะครับ หลังจากที่ Nobunaga เสียชีวิตก็มีความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง เช่นคนที่ช่วยดูแล Nobumori ตอนเป็นพระก็ได้รับการช่วยเหลือให้มาเป็นซามูไร เป็นต้น
เรื่องความสัมพันธ์ของลูกน้องกับหัวหน้าเป็นเรื่องที่ยากนะครับ หัวหน้าที่เก่งกาจแบบ Nobunaga แต่อาจเป็นที่หวาดกลัวของลูกน้อง แต่ถ้าหัวหน้าอย่าง Nobumori ที่ชอบการปาร์ตี้สังสรรค์ เป็นหัวหน้าที่สนุกสนานลูกน้องทำงานด้วยกันได้อย่างสนิทใจ ไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี วันนี้สวัสดีครับ
จนมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อถึงยุคเฟื่องฟูที่เป็นยุคสมัยของซามูไร กลายเป็นผู้มากไปด้วยยศฐาบารมี จะเปรียบกับยุคปัจจุบันคงจะไม่ใช่ salary man แล้ว แต่เป็น 士業 samuraigyou คือเป็นคนในอาชีพที่เป็นนายตนเอง เช่น ผู้ที่มีความสามารถ มี Qualification , License หรือพวกอาชีพทนายความ นักจัดเก็บภาษี ผู้ที่ประกอบอาชีพที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผู้ที่มีความรู้เฉพาะด้าน
ซึ่งซามูไรที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งสำหรับคนญี่ปุ่น คือ 織田信長 Oda Nobunaga อย่างที่เคยเล่าไป แต่การที่จะสร้างทีมหรือองค์กรได้ไม่ใช่จะทำได้แค่คนคนเดียว ผู้ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำที่มากไปด้วยอำนาจบารมีนั้นไม่ใช่ง่ายๆ เลย การที่ Oda Nobunaga จะผงาดได้เช่นที่ชีวประวัติต่างๆ กล่าวไว้นั้นก็เกิดจากลูกน้องเขาหลายๆ คน เหมือนหัวหน้างานสมัยนี้เช่นกันบางคนมีอำนาจมากแต่ลูกน้องไม่เชื่อฟัง บางคนอาจจะบริหารแบบเรียบๆ แต่ซื้อใจทีมงานได้ ดังนั้นถ้าพูดถึง"ทักษะการเลี้ยงคน หรือความยากในการใช้คน " ก็ถือเป็นอีกทักษะหนึ่งที่นักรบนักสู้หรือหัวหน้างานต้องมี
ลูกน้องคนสำคัญของ Oda Nobunaga มีเป็นพันๆ คนเลยล่ะครับแต่วันนี้อยากยกประเด็นลูกน้องคนเก่งมือซ้ายมือขวา คือ 明智光秀 Akechi Mitsuhide、豊臣秀吉 Toyotomi Hideyoshi、และลูกน้องที่จงรักภักดีทำงานมาตลอด 30 ปีแต่มีชีวิตที่น่าสงสารในช่วงบั้นปลาย นั่นคือ 佐久間信盛 Sakuma Nobumori จะเปรียบไปเรื่องราวต่างๆ ในสังคมญี่ปุ่น หรือสังคมการทำงานในองค์กรที่ต้องทำงานใต้บังคับบัญชา หรือทำงานร่วมกันก็ไม่ต่างจากเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์นัก
ซึ่งการทำงานในปัจจุบันทิศทางและนโยบายต่างๆ ก็ออกมาจากผู้บริหารระดับสูงใช่ไหมครับ บางทีการมีหัวหน้าเช่นไรก็มีผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชาเช่นกัน เช่นเดียวกับหัวหน้าแบบ Oda Nobunaga มีข้อดีและข้อไม่ดีที่ขัดกันสุดโต่งเลยเชียว มีคนบอกว่าเขาเป็นคนมีเหตุผล แต่เขาให้ความสำคัญกับประเด็นที่ว่าใครสามารถทำงานให้เขาได้เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงช่วยเหลือและเลื่อนขั้นเลื่อนยศให้กับลูกน้องที่เขาเห็นว่าสามารถทำงานให้เขาได้โดยไม่คำนึงถึงชาติกำเนิดว่าลูกน้องคนนั้นจะเกิดมายากจนหรือไต่เต้ามาจากไหน อีกความสุดโต่งคือเขาตัดคนออกทันทีถ้าคิดว่าต้องการตัด แม้ว่าลูกน้องคนนั้นจะมียศมีตำแหน่งมานานแต่ถ้าเขาเห็นว่าใช้ไม่ได้แล้วเขาก็ตัดออกง่ายๆ เลย (ซึ่งผู้นำเช่นนี้จะตรงข้ามกับความเป็นจริงในสังคมการทำงานในญี่ปุ่นปัจจุบันที่จะเลี้ยงคน เก่งไม่เก่งก็ทำงานกันไปจนเกษียณอายุ แต่ถ้าใครเจอหัวหน้าแบบ Oda Nobunaga นี่เค้าตัดคุณออกจากเกมส์ทันทีถ้าเห็นว่าคุณหมดประโยชน์หรือช่วยอะไรเขาไม่ได้แล้ว โหดร้ายมาก) ตัวอย่างการตัดคนของ Oda Nobunaga เช่นกรณีการขับไล่ Nobumori ออก
ก่อน Oda Nobunaga ตาย 2 ปี เขาไล่ลูกน้องจำนวนหนึ่งออก วันนี้จะแนะนำให้รู้จักหนึ่งในบรรดาลูกน้องที่ถูกไล่ออกครับ คือ Sakuma Nobumori ในตอนนั้นมีการทำเป็นเอกสารระบุเหตุผลที่ไล่ออกไว้ด้วยซึ่งยังคงเป็นหลักฐานอยู่ในปัจจุบัน เอกสารนั้นเป็นข้อความที่ตรงชัดตรงประเด็นจะต่างจากสไตล์คนญี่ปุ่นปัจจุบันที่จะใช้คำอ้อมๆ ถนอมน้ำใจ เนื้อหาในสารไล่ออกที่เขียนไว้ตัวอย่างเช่น ( ข้อความต่อไปนี้เป็นข้อความจากการแปลในการอธิบายตามแบบฉบับของผมนะครับ ไม่ใช่เนื้อหาจากสารตัวจริง)
・หลังจากที่ Nobumori ได้ถูกสั่งให้มาเป็นแม่ทัพคุมกำลังเพื่อทำสงครามกับพระภิกษุ ( Oda Nobunaga ทำสงครามกับพระภิกษุต่อเนื่อง 10 ปี แต่ Nobumori ได้เป็นแม่ทัพทำงานนี้ช่วง 5 ปีหลังก่อนสงครามกับพระภิกษุจะยุติลง) สารไล่ออกบอกว่าตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งคุมงานนี้ ไม่ได้ทำงานเลยใช่ไหมภายในระยะเวลา 5 ปีมานี้ ไม่รบจริงจัง คิดว่าอยู่เฉยๆ พวกพระจะยอมแพ้งั้นเหรอ แกคิดผิดแล้ว ( ถ้าเทียบกับลูกน้องเช่น 明智光秀 Akechi Mitsuhide、豊臣秀吉 Toyotomi Hideyoshi、ที่ได้รับมอบหมายไปรบตามเมืองอื่นๆ ก็สู้รบอย่างจริงจัง )
・ถ้าแกรบไม่เก่ง ไม่ชอบรบก็ต้องใช้สมองให้มากขึ้น ทำไมถึงไม่เคย 報・連・相 hou ren sou แจ้งข้อมูล ติดต่อ ปรึกษากันเลย รบไม่เป็นไม่เก่งก็มาถามสิจะได้บอกให้!!
・ใช้เงินค่าใช้จ่ายเยอะ ใช้ทำอะไรบ้าง ? เอาไปสังสรรค์ปาร์ตี้ใช่ไหม ?
・ลูกชายของ Nobumori เป็นคนไม่ดี ไม่ช่วยรักษาผลประโยชน์แคว้น
・เป็นลูกน้องทำงานกันมามากกว่า 30 ปี ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร!!
・ครั้งนี้ต้องเลือกระหว่าง จะเก็บไว้ให้พยายามทำงานต่อไป หรือไล่ออก
ผมคิดว่านี่เป็นจดหมายจากหัวหน้าถึงลูกน้องที่น่ากลัวมากเลยนะ นอกจากสิ่งที่เขียนไว้ในเอกสารบันทึกเหตุการณ์นี้ Oda Nobunaga ไม่พอใจและยังจดจำคำพูดที่ Nobumori เคยพูดไว้โดยการยกตนชื่นชมตนเองว่า「 ลูกน้องที่มีความสามารถแบบพวกเรา หาไม่ได้ที่ไหนหรอก 」Oda Nobunaga ไม่พอใจอาการโอหังของคำพูดนี้มาตลอด
Nobumori เป็นลูกน้องของ Nobunaga ก็จริงแต่เขามีอาวุโสสูงมียศมีตำแหน่งมาตั้งแต่ไดเมียวคนเก่าก่อนที่ Nobunaga จะขึ้นเป็นไดเมียวต่อ ดังนั้นเขาก็ถือเป็นอีกคนที่สามารถพูดอะไรๆ ให้คนในแคว้นเชื่อถือได้ ก่อนหน้านั้น Nobunaga เคยแพ้สงครามและทุกคนต้องหลบหนีโดยการหลบหนีครั้งนั้นมี Hideyoshi ช่วยเป็นกองกำลังหนุนหลังคืออยู่ท้ายสุด ถือเป็นคนที่อยู่ในอันตรายที่สุด และช่วยให้ Nobunaga รอดจากกระสุนปืนมาได้ ทำให้กองทัพสามารถหลบหนีได้อย่างปลอดภัย และครั้งนั้นเอง Hideyoshi ได้รับคำชมจาก Nobunaga เป็นอย่างมาก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Hideyoshi จึงเป็นที่จับตาและค่อยๆ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งมาเรื่อยๆ แต่ก็มีผู้คัดค้านต่อการเลื่อนตำแหน่งของ Hideyoshi เพราะเขามีชาติตระกูลที่ไม่สูงส่ง แต่เพราะ Nobumori เองที่เป็นผู้อาวุโสและมีตำแหน่งอยู่ก่อนก็ช่วยพูดให้คนอื่นๆ เข้าใจและยอมรับในตัว Hideyoshi ว่า 「 Nobunaga ประเมิน Hideyoshi ในมุมมองที่เป็นเลิศอยู่แล้วจงไว้ใจ เพราะว่า Hideyoshi มีความสามารถมาก」 ก็อาวุโสขนาดนี้ใครจะรู้ว่าสุดท้าย Nobumori เองจะถูกหัวหน้าตนเองไล่ออกซะได้
มีเรื่องที่ Nobunaga ไม่พอใจ Nobumori อีกครับเล่าอีกสักหน่อย ครั้งหนึ่งตอนที่ทำสงคราม ศัตรูยังไม่มา แต่ Nobumori หนีไปก่อนแล้ว ทำให้ Nobunaga โกรธไม่ยกโทษให้ ถึงแม้จะได้รับฉายาว่า 「退き佐久間」nokisakuma หมายความว่า ผู้ที่เก่งในการหลบหนี แต่ Nobunaga ก็คอยโอกาสที่จะเอาเขาออกจนได้ คือครั้งทำสงครามกับพระภิกษุนั่นเอง บั้นปลายสุดท้ายของ Nobumori ผู้ซึ่งเป็น No.2 และเป็นรองหัวหน้าตระกูลโอดะได้ถูกเนรเทศออกจากทัพ ตอนที่ถูกไล่ออกเขามีลูกน้องติดตามออกมาด้วยอีกหลายคน แต่พอเงินเริ่มหมดลูกน้องก็เริ่มห่างหายออกไปที่ละคนสองคนจนสุดท้ายไปเกือบหมด เหลืออยู่คนเดียวที่ดูแลเขาตลอด เขาตัดสินใจออกบวชครับ จากนั้น Mitsuhide เป็นคนรับช่วงท่านรองต่อจากเขา หลังจากนั้น 2 ปี Mitsuhide ได้ฆ่า Nobunaga เหตุผลในการฆ่ายังไม่มีใครรู้จนถึงปัจจุบันนี้ แต่ก็คงจะเป็นความคับข้องใจหลายอย่างถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมอาจจะหาอ่านได้จากหนังสือ เรื่อง เงื่อนงำของวัดฮอนโนจิ 本能寺Hon'nouji ลองหามาอ่านนะครับ หลังจากที่ Nobunaga เสียชีวิตก็มีความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง เช่นคนที่ช่วยดูแล Nobumori ตอนเป็นพระก็ได้รับการช่วยเหลือให้มาเป็นซามูไร เป็นต้น
เรื่องความสัมพันธ์ของลูกน้องกับหัวหน้าเป็นเรื่องที่ยากนะครับ หัวหน้าที่เก่งกาจแบบ Nobunaga แต่อาจเป็นที่หวาดกลัวของลูกน้อง แต่ถ้าหัวหน้าอย่าง Nobumori ที่ชอบการปาร์ตี้สังสรรค์ เป็นหัวหน้าที่สนุกสนานลูกน้องทำงานด้วยกันได้อย่างสนิทใจ ไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี วันนี้สวัสดีครับ