ข้าวหุงหน่อไม้และกับข้าวจากหน่อไม้ เป็นเมนูเด่นที่สร้างความอร่อยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ คนญี่ปุ่นมีวิธีการนำหน่อไม้มารับประทานได้แตกต่างจากคนไทย มาดูเคล็ดลับการต้มหน่อไม้และวิธีการนำหน่อไม้มารับประทานของคนญี่ปุ่นกัน
การต้มหน่อไม้ไม่ให้ขมแบบไทย
หน่อไม้เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมจากคนไทยมาช้านาน อย่างไรก็ตามการเตรียมหน่อไม้เพื่อปรุงเป็นอาหารไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะบางครั้งหน่อไม้ที่ต้มจนสุกแล้วยังมีรสขมจนต้องต้มและเทน้ำทิ้งสลับกันไปหลายครั้ง กว่ารสขมจะหายไปรสชาติของหน่อไม้ก็เปลี่ยนไปด้วย คนไทยมีเคล็ดลับการต้มหน่อไม้ให้อร่อยและไม่ขม ดังนี้คือ วิธีการที่ 1 นำหน่อไม้สดที่ปอกเปลือกออกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มาเติมเกลือและเอามือขยำเบาๆ ให้เกลือแทรกเข้าไปในเนื้อหน่อไม้ ล้างน้ำให้สะอาดและนำไปต้มพอน้ำเดือดแล้วจึงตักหน่อไม้ขึ้น เพื่อนำไปปรุงเป็นเมนูต่างๆต่อไป วิธีที่ 2 นำหน่อไม้สดที่ปอกเปลือกออกมาล้างให้สะอาด เรียงลงไปในหม้อ เติมมะเขือพวงทุบลงไปจากนั้นใช้ใบเตยตัดเป็นท่อนๆคลุมหน่อไม้ไว้ เติมน้ำจนท่วมหน่อไม้และต้มประมาณ 50 นาที ก็จะได้หน่อไม้สดรสหวานอร่อย อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ต้องการลดขั้นตอนอันยุ่งยากจากการปอกเปลือกหน่อไม้และการหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ซึ่งทำให้เสียเวลาและอาจจะคันเนื่องจากเปลือกของหน่อไม้ ลองมาใช้วิธีการต้มแบบญี่ปุ่นดู
การต้มหน่อไม้แบบญี่ปุ่น
โดยทั่วไปในฤดูใบไม้ผลิตามร้านค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตมักวางจำหน่ายหน่อไม้สดทั้งหน่อที่ยังไม่ปอกเปลือก คนญี่ปุ่นขจัดรสขมจากหน่อไม้โดยการใช้ "รำข้าว" ซึ่งมีวิธีดังนี้คือ หากเป็นหน่อไม้ที่มีขนาดเล็กถึงขนาดปานกลางก็นำมาล้างทั้งเปลือกตัดปลายและใช้มีดกรีดด้านข้างก่อนนำวางเรียงลงหม้อ เติมรำข้าวไปประมาณ 1 กำมือ (ปริมาณรำข้าวอาจจะเป็น 2-3 กำมือตามปริมาณหน่อไม้ที่เพิ่มขึ้น) เติมน้ำพอท่วมหน่อไม้ ปิดฝาหม้อและต้มหน่อไม้ไว้ประมาณ 50-90 นาที ตามแต่ขนาดของหน่อไม้ จากนั้นวางหม้อหน่อไม้ไว้จนเย็นแล้วจึงนำหน่อไม้มาปอกง่ายๆ ด้วยมือ รสขมจากหน่อไม้จะออกมาจากรอยตัดทางด้านยอดและด้านข้างหน่อไม้ และถูกดูดซับโดยรำข้าว หากเป็นหน่อไม้ที่มีขนาดใหญ่อาจจะต้องลอกเปลือกหน่อไม้ออก 2-3 ชั้น และตัดส่วนปลายหน่อออกเล็กน้อยก่อนนำมาต้ม ทั้งนี้เวลาต้มต้องหมั่นดูระดับน้ำให้อยู่เหนือหน่อไม้และไม่ควรต้มจนเดือดเกินไปเพราะทำให้รำติดหม้อต้มและทำความสะอาดยาก
ข้อดีของการต้มหน่อไม้ทั้งเปลือกกับรำข้าวคือ
ข้อดีของการต้มหน่อไม้ทั้งเปลือกกับรำข้าวคือ รำข้าวจะไปจับกับสารที่ทำให้เกิดรสขมของหน่อไม้ และกรดอะมิโนที่อยู่ในรำข้าวจะซึมเข้าไปในหน่อไม้ ทำให้หน่อไม้มีรสหวานอร่อย รสชาติและกลิ่นหอมของหน่อไม้จะถูกคงไว้ได้มากกว่าการปอกเปลือกก่อนต้ม อีกทั้งสารธรรมชาติจากเปลือกหน่อไม้จะช่วยฟอกสีหน่อไม้และทำให้หน่อไม้นุ่ม
การนำหน่อไม้มารับประทานแบบญี่ปุ่น
หน่อไม้ทั้งเปลือกที่ได้จากการต้มด้วยรำจะมีรสหวานและมีกลิ่นหอม ที่คนญี่ปุ่นนำมารับประทานง่ายๆ โดยการรับประทานกับซีอิ๊วและคัตสึโอะบุชิ นำมาทำเทมปุระ ต้มซุปมิโซะ และทำข้าวหุงหน่อไม้ ซึ่งเป็นอาหารที่เป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูใบไม้ผลิ
หน่อไม้เป็นอาหารที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานไม่แพ้คนไทย แต่การรับประทานหน่อไม้แบบคนญี่ปุ่นจะเน้นความหวานหอมอร่อยตามธรรมชาติที่เข้ากับฤดูกาล วิธีการเตรียมหน่อไม้ให้มีรสชาติที่อร่อยไร้รสขมจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการที่แน่นอนเพื่อความมั่นใจว่าหน่อไม้จะไม่สูญเสียกลิ่นรสอร่อยในระหว่างการจัดเตรียม วิธีการใช้รำข้าวต้มหน่อไม้จึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดของคนญี่ปุ่น ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่ร้านค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตมักเตรียมรำข้าวไว้บริการแก่ลูกค้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการต้มหน่อไม้ด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org