สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งซาอุดีอาระเบีย เดินทางเยือนญี่ปุ่นครั้งประวัติศาสตร์พร้อมด้วยคณะผู้ติดตามกว่า 1,000 คน ใช้เครื่องบิน 13ลำ รถยนต์ 500 คัน ขนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาด้วยกว่า 460 ตัน นับเป็นการเสด็จฯเยือนที่อลังการจนนายกฯญี่ปุ่นยังตะลึง
สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอาซิส อัล ซาอุด เสด็จฯเยือนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 46 ปี พร้อมคณะมากกว่า 1,000 คน ประกอบด้วยเจ้าชาย 10พระองค์, รัฐมนตรี 10คน รวมทั้งสมาชิกราชวงศ์และนักธุรกิจ คณะผู้ติดตามบางส่วนต้องเดินทางมาล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อม เครื่องบิน 13 ลำของคณะจอดเต็มพื้นที่สนามบินฮาเนะดะ
คณะของได้ขนรถยนต์พระที่นั่งมาเองพร้อมสัมภาระกว่า 460 ตัน และยังต้องจัดหารถยนต์เพิ่มเติมในญี่ปุ่นอีกกว่า 400 คัน ซึ่งบริษัทรถลีมูซีนในกรุงโตเกียวมีรถไม่เพียงพอ ต้องยืมรถมาจากจังหวัดข้างเคียง และยังได้เหมาโรงแรมหรูใจกลางกรุงโตเกียวทั้งโรงแรม 1,200 ห้องเพื่อเป็นที่พัก
แม้แต่นายกฯซินโซ อะเบะ ยังกล่าวถึงความอลังการของคณะของกษัตริย์ซาอุฯว่า “หากคณะนี้ไปเยือนห้างสรรพสินค้าแห่งไหนคงเป็นข่าวดีแน่”
สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นทรงเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงถวายพระกระยาหารกลางวันแด่สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่พระราชวังหลวงในกรุงโตเกียวในวันอังคารที่ 14 มีนาคม
ที่ผ่านมา สำนักพระราชวังหลวงญี่ปุ่นได้ทบทวนพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี ซึ่งมีพระชนมายุมากขึ้นทุกที และเคยประกาศว่าจะไม่จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันรอบรองประมุขแห่งรัฐหรือบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวังหลวงระบุว่า ครั้งนี้เป็นกรณียกเว้น เนื่องจากพระบรมวงศานุวงศ์ญี่ปุ่นกับซาอุดีอาระเบียทรงมีพระราชไมตรีใกล้ชิดร่วมกันมายาวนาน
รัฐบาลญี่ปุ่นหวังดึงหุ้นบริษัทน้ำมันยักษ์จดทะเบียนในตลาดโตเกียว สร้างอภิมหา IPO
นายกฯชินโซ อะเบะ ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดี โดยทรงมีพระราชดำรัสแสดงความยินดีที่ญี่ปุ่นกับซาอุดีอาระเบียได้รักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรทั้งในทางเศรษฐกิจและทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ได้ทรงแสดงความวิตกต่อภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่เพิ่มมากขึ้น และทรงเรียกญี่ปุ่นว่าเป็น “หุ้นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับการก่อการร้าย”
รัฐบาลญี่ปุ่นคาดหวังให้บริษัท Saudi Aramco ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในสัดส่วน 5% ของปริมาณน้ำมันโลกมาจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว รัฐบาลซาอุฯ มีแผนจะสร้าง IPO ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลาห์ โดยจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของซาอุฯ และในตลาดต่างชาติอีก 1-2 แห่ง เช่นที่โตเกียว, นิวยอร์ก, ลอนดอน, ฮ่องกง, สิงคโปร์ หรือ แคนาดา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในญี่ปุ่นประเมินว่า โอกาสที่ตลาดหุ้นโตเกียวจะคว้าดีลนี้ค่อนข้างยาก เพราะการแข่งขันสูงมาก และนักลงทุนญี่ปุ่นไม่ค่อยสนใจหุ้นกลุ่มพลังงาน เมื่อเทียบกับกลุ่มเทคโนโลยี
เศรษฐีหนีตาย น้ำมันหมดอนาคต
ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่ขายน้ำมันดิบให้ญี่ปุ่นรายใหญ่ที่สุด น้ำมันดิบที่ญี่ปุ่นนำเข้าราว 1 ใน 3 มาจากซาอุฯ ทางการซาอุฯต้องเร่งกระชับความร่วมมือนานาชาติ เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจของโลกในอนาคตที่พลังงานน้ำมันจะค่อยๆหมดความสำคัญลง และทำให้มหาเศรษฐีอย่างซาอุฯ อาจจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ก่อนหน้าเดินทางเยือนญี่ปุ่น คณะของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งซาอุดีอาระเบียได้เสด็จฯเยือนอินโดนีเซียและมาเลเซีย และหลังจากนี้จะเสด็จเยือนบรูไน จีน และมัลดีฟ.