กระทรวงการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นจะวิเคราะห์อย่างละเอียดเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ “คิมจองอึน” หวังเรียกร้องความสนใจจากสหรัฐฯ
สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า กระทรวงการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นจะส่งอากาศยานไปค้นหาเศษซากขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงมาตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น เพื่อนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียด
ทางกระทรวงระบุว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธ 4 ลูกเมื่อเวลาประมาณ 7.34 น. ของวันจันทร์ที่ 6 มีนาคมตามเวลาในญี่ปุ่น โดยยิงทั้งหมดเกือบจะพร้อมกัน ขีปนาวุธได้พุ่งไปเป็นระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตรก่อนตกลงในทะเลญี่ปุ่น โดยแต่ไม่มีรายงานความเสียหายแต่อย่างใด
นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะของญี่ปุ่นได้เรียกการยิงขีปนาวุธล่าสุดของเกาหลีเหนือว่า "ขั้นใหม่ของภัยคุกคาม"
ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่านี่เป็นการกระทำที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะขีปนาวุธมากกว่าหนึ่งลูกได้ตกอย่างแม่นยำลงภายในหรือใกล้กับเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
ผู้นำญี่ปุ่นยังได้กล่าวถึงการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างนายโชตะโร ยะชิ หัวหน้าสำนักเลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติของญี่ปุ่น กับนายเฮอร์เบิร์ต เรย์มอนด์ แม็คมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ โดยผู้นำญี่ปุ่นเปิดเผยว่านายแม็คมาสเตอร์ได้รับรองท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการสนับสนุนจุดยืนของญี่ปุ่น 100 เปอร์เซ็นต์
ญี่ปุ่นยังได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีในสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการยั่วยุเพิ่มเติมจากเกาหลีเหนือหลังเกาหลีเหนือ ผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้รวมถึงนายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ นายฟุมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศ และนางโทะโมะมิ อินะดะ รัฐมนตรีกระทรวงการป้องกันประเทศ
ที่ประชุมได้วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธและได้หารือกันถึงวิธีการรับมือ เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนชาวญี่ปุ่น
หลังจากนั้น นายฟุมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ได้หารือทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐและเกาหลีใต้ ทั้งสามชาติเรียกร้องให้เกาหลีเหนือหลีกเลี่ยงจากการกระทำยั่วยุใดๆ อีก และให้เกาหลีเหนือปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ด้านผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นประจวบเหมาะกับที่มาเลเซียประกาศศึกทางการทูตกับฝ่ายโสมแดงหลังจากเกิดเหตุลอบสังหารนายคิมจองนัม พี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ
การลอบสังหารทำให้สหรัฐฯยกเลิกการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการกับเกาหลีเหนือ ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนนี้ที่นครนิวยอร์ก จึงเห็นได้ว่ารัฐบาลโสมแดงต้องการเรียกร้องความสนใจจากสหรัฐฯ
ข้อมูลจากฝ่ายญี่ปุ่นยังระบุว่า นายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือยังคงใช้มาตรการ “กระชับอำนาจ” โดยสังหารแกนนำกองทัพระดับสูงที่ต้องสงสัยว่าคิดทรยศ โดยได้สั่งปลดนายคิม วอนฮอง หัวหน้าหน่วยตำรวจลับ และสั่งประหารเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง แสดงถึงความหวาดระแวงเรื่องความมั่นคงในอำนาจของตัวนายคิมจองนัม.
