สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้วครับ คราวที่แล้วผมเล่าเรื่องนินจาและ Komusou 虚無僧 ซึ่งเป็นพระธุดงค์นิกายหนึ่งในพุทธศาสนาแบบญี่ปุ่น ท่านจะไม่ตัดผม ใส่ชุดคลุมทั้งตัว ใส่หมวกที่มีลักษณะเหมือนตะกร้าเครื่องสาน ที่เรียกว่า 天蓋 Tengai นำมาคลุมศีรษะไว้มิดชิด แล้วท่านจะเดินจรไปพร้อมกับขลุ่ยชาคุฮาจิ ขอรับบริจาคเงินตามบ้านคน เมื่อเพื่อนๆ ดูรูปพระ Komusou แล้วก็มีเพื่อนๆ หลายคนสนใจสอบถามเกี่ยวกับ Komusou ครับ เช่นคำถามว่า
* "เลือกพระญี่ปุ่นสิครับ รับจ็อบแต่งหน้าได้ด้วย เป็นนินจาต้องหลบๆซ่อนๆ(ฮา)"
* "อยู่ดีๆทำไมต้องเอากระบุงมาครอบหัวไม่เข้าใจ"!?
* "พระญี่ปุ่นชอบใส่อะไรคลุมหัว คิดว่าน่าจะอย่างเดียวกับพระไทยเอาตาลปัตรบังหน้าคือป้องกันเห็นสีกาขาขาวๆ อวบๆ ทำให้เดินตรงไม่ได้"!?
เป็นต้น ก็เป็นความเห็นของเพื่อนๆ ที่ส่งมาผมต้องขอบคุณที่เพื่อนๆ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ สำหรับเรื่องที่ว่า

ทำไมต้องเอา 天蓋 Tengai มาคลุมหัว?...เพราะว่าไม่อยากให้ใครเห็นหน้า
ทำไมไม่อยากให้ใครเห็นหน้า ? ... มีหลายเหตุผลแต่อาจจะเป็นเหตุผลด้านลบสักหน่อย ช่วง 江戸時代 Edo period (1603~1868) เป็นช่วงที่มี Komusou เพิ่มจำนวนขึ้นเยอะมาก เพราะเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มสงบจากสงครามภายใน เหล่านักรบซามูไรหลายคนไม่มีงานทำ ครั้นจะหันไปเป็นพระแบบปกติก็สวดมนต์ไม่ได้ เพราะบางคนนั้นอ่านหนังสือไม่ออก แต่คิดว่าถ้ามีความสามารถในการเป่าขลุ่ยชาคุฮาจิก็พอจะเป็น Komusou ได้ บางคนคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะอยู่รอดและไม่ถูกจับ การเป็น Komusou ปกปิดหน้าตาไว้นี่แหละคือคำตอบ เลยทำให้มี Komusou เกิดขึ้นเยอะ เป่าขลุ่ยเป็นก็เป็นได้แล้ว และปิดหน้าปิดตาไม่อยากให้ใครๆ เห็นนั่นเอง
ต่อไปวกกลับมาเข้าเรื่องอาชีพที่มีตั้งแต่สมัยก่อนและปัจจุบันยังมีให้เห็นอยู่ต่อจากคราวที่แล้วนะครับ ต่อไปเรื่อง ซูโม่ 相撲 Sumo ครับ ตอนแรกจะคุยแค่นิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องซูโม่ แต่พอดีผมได้ดูข่าวเกี่ยวกับซูโม่ เรื่อง โยโกสุนะ 横綱 Yokozuna ตำแหน่ง "โยโกสุนะ" ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของซูโม่ คนปัจจุบันเป็นญี่ปุ่น ซึ่งนานมากแล้วที่ไม่มี Yokozuna คนญี่ปุ่นแท้ๆ น่าจะมากว่า 19 ปีแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าแสดงความยินดีอยู่ครับ

★ซูโม่ : 相撲 sumo เพื่อนๆ เคยดูมวยปล้ำญี่ปุ่นไหมครับ นั่นแหละครับคือกีฬาซูโม่ จังหวัดที่ผมเคยอยู่มีสถานที่จัดแข่งซูโม่ บางครั้งช่วงเช้าๆ จะเห็นทีมนักกีฬาออกวิ่งออกกำลังกาย เค้าบอกกันมาว่า นักกีฬาจะวิ่งโดยไม่ได้ทานอะไรมาก่อนพอเหนื่อยมากๆ ก็กินหนักสิครับ ต้องกินเยอะๆ จะได้อ้วนๆ ตัวใหญ่ๆ ใครชอบกินต้องเป็นซูโม่ครับ ปกติแล้วฤดูกาลแข่งขันซูโม่จะเปิดการแข่งขันปีละ 6 ครั้ง คือ ในเดือนมกราคม มีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม กันยายน และพฤศจิกายน โดยแต่ละครั้งใช้เวลานาน 15 วัน คืออาชีพซูโม่นี่แข่งหนึ่งครั้งมักจะรู้ผลแพ้ชนะกันไวมากแทบจะไม่ถึงนาที ถ้าผมสมมุติว่ารู้ผลแพ้ชนะกันภายใน 30 วินาที ทำการแข่งขันกัน 15 ครั้ง x 6 (ปีหนึ่งมีแข่ง 6 เดือน) คือเท่ากับเข้าสนามแข่งจริงแค่ 45 นาที/ ปี (และอาจน้อยกว่านี้ถ้ารู้ผลแพ้ชนะไวกว่าที่ผมสมมุติตัวเลขไป ส่วนมากไวมากจับทุ่มกันหรือทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งถูกพื้น) แต่ตลอดทั้งปีต้องฝึกซ้อมอย่างหนักมาก รวมทั้งเรื่องทำน้ำหนักตัวด้วย
ซูโม่ถือเป็นกีฬาประจำชาติและได้รับความนิยมในญี่ปุ่น เมื่อศตวรรษที่ 8 วังหลวงเกียวโต มีการคัดเลือกนักมวยปล้ำจากกองทัพมาแข่งขันสู้กัน เพื่อสร้างความบันเทิงแก่ชาววัง ตอนแรกๆ เป็นเหมือนการแสดงตลกครับ แต่ปัจจุบันพัฒนาจนกลายเป็นกีฬาอาชีพครับ ประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติสำหรับกีฬาซูโม่นั้นมีความเก่าแก่มาก และยึดถือเป็นแบบปฏิบัติต่อเนื่องกันมาถึงปัจจุบัน เช่น การโปรยเกลืออันเป็นสัญลักษณ์แสดงความบริสุทธิ์ เป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อในศาสนาชินโต การใช้ชีวิตของนักมวยปล้ำซูโม่นั้นเคร่งครัดเป็นอย่างยิ่ง และอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่กำหนดโดยสมาคมซูโม่ ซึ่งนักมวยปล้ำซูโม่อาชีพจะใช้ชีวิตร่วมกันภายใต้ค่ายสังกัดที่เรียกว่า 部屋 heya ของตนเอง โดยมีแบบแผนในการดำเนินชีวิตทุกด้าน นับตั้งแต่อาหารการกิน ไปจนกระทั่งการแต่งกาย ต่างๆ เป็นต้น

ผมยกตัวอย่างตั้งแต่การเริ่มเข้าสู่วงการซูโม่ ตั้งแต่เริ่มก้าวเข้าสู่ค่ายสังกัด heya จะเข้าได้อย่างไร ..อาจจะมีแมวมองไปคว้าตัวมา หรือมีคนรู้จักแนะนำเข้าสังกัด หรือสมัครเข้ามาด้วยตนเอง โดยผ่านหลักเกณฑ์มาตรฐานของสังกัดนั้นๆ ก่อน เมื่อสัก 25 ปีที่แล้วมี โยโกสุนะ สองคนที่เป็นพี่น้องชาวญี่ปุ่นแท้ ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองสำหรับซูโม่มากเหมือนกัน คนญี่ปุ่นอยากเข้าวงการซูโม่กันมากขึ้น มาสมัครเข้าสังกัดต่างๆ กันมาก สังกัดก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่เงื่อนไขที่กำหนดก็มากเช่นกัน เช่นบางคนความสูงไม่ถึง ก็อุตส่าห์ไปทำศัลยกรรมเพิ่มซิลิโคนไปที่ศีรษะเพราะอยากสูงขึ้น กระโดดเอาหัวกระแทกเพดานเพื่อให้หัวโนก่อนจะวัดส่วนสูง ผิดกับปัจจุบันที่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยอยากเป็นซูโม่กันนัก
เมื่อเข้าสังกัดแล้วนักซูโม่ต้องฝึกอย่างหนักและอยู่ภายใต้กฏระเบียบอย่างเคร่งครัด เช่น ตื่นนอนตีสามหรือตีสี่ แล้วออกกำลังกายต่างๆ และฝึกซ้อมท่าทางการต่อสู้แบบซูโม่ ฝึกซ้อมให้เกิดความหิวอย่างหนักและทานข้าวและอาหารหม้อไฟที่เรียกว่า ちゃんこ chanko กินแล้วทุกคนต้องนอน คือกินให้อิ่ม อิ่มแล้วนอนเลย ขุนนั่นเอง เมื่อตื่นมาอีกรอบก็ต้องทำตามกฏระเบียบของค่ายต่อทั้งวันทั้งคืน บางครั้งนักซูโม่อายุน้อยๆ อาจจะต้องไปเรียน บางคนต้องปรนนิบัติรุ่นพี่ เหมือนรับน้องครับ รุ่นพี่บางคนก็ใช้งานโหดหรือแปลกๆ ก็มี
นักซูโม่แต่ละคนจะมีรูปร่างอ้วนใหญ่ และจะต้องมีน้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า 65-75 กก. ตามพิกัดน้ำหนัก โดยขณะที่แข่งขันมวยปล้ำซูโม่นี้ทั้งสองฝ่ายจะอยู่ในขอบเส้นวงกลม และต้องพยายามทำให้อีกฝ่ายหนึ่งล้ม ทำให้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่นอกเหนือจากฝ่าเท้าแตะกับพื้น หรือดันคู่ต่อสู้ให้ออกจากวงกลมขนาดเล็กนั้น มีความเชื่อว่าซูโม่เป็นกีฬาที่มีเกียรติ ผู้ที่ก้าวไปถึงตำแหน่ง "โยโกสุนะ" ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของซูโม่ถือว่าเป็นผู้พิชิตอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติซะมากกว่า ปัจจุบันมีคนญี่ปุ่นในตำแหน่งโยโกสุนะด้วยหลังจากที่ไม่มีมาหลายสิบปีอย่างที่บอกไป และคนญี่ปุ่นปัจจุบันก็ไม่ค่อยอยากเป็นซูโม่กันด้วยสิ

♢ระดับความยากที่จะทำงานนี้สำหรับคนญี่ปุ่น : ✋🏻✋🏻✋🏻✋🏻✋🏻 ให้คะแนนที่ 5 คะแนน คนญี่ปุ่นเองบางคนก็ยังอยากเป็นซูโม่แต่เป็นไม่ได้ และบางคนไม่อยากเป็น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีคนรู้จักพาเข้าสังกัด หรือแม้จะสมัครเข้าไปเองก็ต้องผ่านเงื่อนไขที่สังกัดกำหนดไว้
♢ระดับความยากที่จะทำงานนี้สำหรับคนไทย :✋🏻✋🏻✋🏻✋🏻✋🏻 ให้คะแนน 5+ เป็นยากครับมีกฏมากมายเลย แต่ถ้าสนใจต้องลองดูครับ
♢ความอันตรายของงาน : 🚑🚑🚑🚑🚑 5++ เป็นแต้มที่เกินลิมิตสูงสุด ปกติตั้งไว้ที่ 5 คะแนน :) ปกตินักซูโม่ เริ่มเป็นได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีหรือต้องจบชั้นมัธยมต้นก่อน แต่ส่วนใหญ่พออายุ 20 กว่าๆ ก็เลิกเล่นกันเยอะแล้วครับ บ้างก็เพราะบาดเจ็บ บางก็มีปัญหาสุขภาพจากความอ้วน เพราะน้ำหนักสำคัญมากสำหรับการเป็น Sumo ไม่ใช่แข็งแรงแต่ต้องตัวหนักๆ ถ่วงไม่ให้ถูกฝ่ายตรงข้ามจับทุ่ม ๆ
♢กรณีไปได้ถึงดวงดาว(ประสบผลสำเร็จในสายงานนี้) :💴💴💴💴💴 5+++
ให้คะแนนสูงอีกแล้วเพราะจะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป มีเงินเดือนดีมาก มีสังกัดเลี้ยงดู ได้เงินจากค่าโฆษณาด้วย และเงินจากการแข่งแต่ละรอบอีก และถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงเดือนที่ไม่มีแข่งขันก็ได้เงินเดือน ตามลำดับ Level ของซูโม่ เช่น แต่คนที่ยังไม่ได้ Level ถึงระดับที่กำหนดก็จะไม่ได้เงินเดือนจำนวนนี้ แต่อาจจะมีเงินส่วนอื่นบ้างแต่ว่ากินอยู่ฟรีทุกอย่าง
ตัวอย่างของเงินเดือนซูโม่ ตั้งแต่ระดับสูงสุดลงไป โยโกสุนะ 横綱 Yokozuna:2,820,000 ¥大関 Oozeki :2,347,000 ¥三役 San-yaku:1,693,000 ¥平幕 Hiramaku:1,309,000 ¥十両 Juuryou :1,036,000 ¥
ส่วนเงินที่ได้ส่วนแบ่งเพิ่มเติมจากการแข่งขันแต่ละรอบ เรียกว่า 懸賞金 Kenshou-Kin สมมุติ ค่าโฆษณาตัวนั้น 20,000 บาท นักซูโม่ก็อาจจะได้สักครึ่งหนึ่ง ถ้ารอบที่ป๊อปปูล่ามากๆ มีลงโฆษณาสัก 50-60 ตัวตัวละสองหมื่นบาท แม้จะได้แค่ครึ่งเดียวแต่ก็มหาศาลอยู่นะเนี่ยแข่งแค่ไม่กี่วินาทีเอง :)

พูดเรื่องซูโม่บางทีอาจไม่ใช่แค่การแข่งขันเท่านั้นแต่เป็นลักษณะของธุรกิจที่มีวงจรที่น่าสนใจ ตั้งแต่เจ้าของค่ายสังกัดต่างๆ การเลี้ยงนักซูโม่ การแข่งขัน การล้มมวยเพื่อให้คนอื่นๆ ได้ชนะขึ้นมาในระดับที่รับเงินเดือนได้ ที่เรียกว่า 八百長 yaochou คือจะแข่งให้แพ้ นั่นเอง
♢กรณีไปไม่ถึงดวงดาว(ไม่ประสบผลสำเร็จในสายงานนี้) : 💴💴💴 ให้คะแนน 3 ครับ เพราะแม้จะไม่ได้เงินเดือนก็มีค่ายเลี้ยงดู แต่ต้องทำตามกฏของสังกัดนะครับ แลกกันหน่อยไม่มีอะไรได้มาฟรี
เพิ่มเติมอีกสักหน่อยครับ ซูโม่ ปกติเป็นอิมเมจที่ทำให้นักกีฬาหิวๆ แล้วจะได้กินมากไปซ้อมหนักๆ แต่ท่วงท่าของซูโม่ก็มีไม่ถึงห้าสิบกระบวนท่าละมังถ้าเทียบกับมวยไทยหรือกีฬาอื่นอาจจะง่ายกว่าก็ได้นะครับ ก่อนนี้ซูโม่ค่อนข้างถูกมองว่าเป็นวงจรธุรกิจสีเทา ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เช่นการขายตั๋วให้ยากุซ่า การพนันแพ้ชนะ การล้มมวย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อร้อยปีที่แล้วที่ญี่ปุ่นยังยากจนมาก ไม่มีอาหาร บางคนเข้าบ้านฝึกซูโม่เพื่อขอให้ได้มีอาหารเลี้ยงชีพ แต่ต้องฝึกฝนอย่างหนัก แต่ปัจจุบันญี่ปุ่นมีความเป็นอยู่ดีขึ้นจึงไม่ค่อยมีใครอยากเป็นอยากฝึกซูโม่เท่าไรนัก นักซูโม่จึงมีแต่ต่างชาติซะเยอะเลย วันนี้เล่าเรื่องซูโม่ไปนิดหน่อย คราวหน้ามีเรื่องสนุกๆ มาเล่าต่อครับ สวัสดีครับ
* "เลือกพระญี่ปุ่นสิครับ รับจ็อบแต่งหน้าได้ด้วย เป็นนินจาต้องหลบๆซ่อนๆ(ฮา)"
* "อยู่ดีๆทำไมต้องเอากระบุงมาครอบหัวไม่เข้าใจ"!?
* "พระญี่ปุ่นชอบใส่อะไรคลุมหัว คิดว่าน่าจะอย่างเดียวกับพระไทยเอาตาลปัตรบังหน้าคือป้องกันเห็นสีกาขาขาวๆ อวบๆ ทำให้เดินตรงไม่ได้"!?
เป็นต้น ก็เป็นความเห็นของเพื่อนๆ ที่ส่งมาผมต้องขอบคุณที่เพื่อนๆ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ สำหรับเรื่องที่ว่า
ทำไมต้องเอา 天蓋 Tengai มาคลุมหัว?...เพราะว่าไม่อยากให้ใครเห็นหน้า
ทำไมไม่อยากให้ใครเห็นหน้า ? ... มีหลายเหตุผลแต่อาจจะเป็นเหตุผลด้านลบสักหน่อย ช่วง 江戸時代 Edo period (1603~1868) เป็นช่วงที่มี Komusou เพิ่มจำนวนขึ้นเยอะมาก เพราะเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเริ่มสงบจากสงครามภายใน เหล่านักรบซามูไรหลายคนไม่มีงานทำ ครั้นจะหันไปเป็นพระแบบปกติก็สวดมนต์ไม่ได้ เพราะบางคนนั้นอ่านหนังสือไม่ออก แต่คิดว่าถ้ามีความสามารถในการเป่าขลุ่ยชาคุฮาจิก็พอจะเป็น Komusou ได้ บางคนคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะอยู่รอดและไม่ถูกจับ การเป็น Komusou ปกปิดหน้าตาไว้นี่แหละคือคำตอบ เลยทำให้มี Komusou เกิดขึ้นเยอะ เป่าขลุ่ยเป็นก็เป็นได้แล้ว และปิดหน้าปิดตาไม่อยากให้ใครๆ เห็นนั่นเอง
ต่อไปวกกลับมาเข้าเรื่องอาชีพที่มีตั้งแต่สมัยก่อนและปัจจุบันยังมีให้เห็นอยู่ต่อจากคราวที่แล้วนะครับ ต่อไปเรื่อง ซูโม่ 相撲 Sumo ครับ ตอนแรกจะคุยแค่นิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องซูโม่ แต่พอดีผมได้ดูข่าวเกี่ยวกับซูโม่ เรื่อง โยโกสุนะ 横綱 Yokozuna ตำแหน่ง "โยโกสุนะ" ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของซูโม่ คนปัจจุบันเป็นญี่ปุ่น ซึ่งนานมากแล้วที่ไม่มี Yokozuna คนญี่ปุ่นแท้ๆ น่าจะมากว่า 19 ปีแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าแสดงความยินดีอยู่ครับ
★ซูโม่ : 相撲 sumo เพื่อนๆ เคยดูมวยปล้ำญี่ปุ่นไหมครับ นั่นแหละครับคือกีฬาซูโม่ จังหวัดที่ผมเคยอยู่มีสถานที่จัดแข่งซูโม่ บางครั้งช่วงเช้าๆ จะเห็นทีมนักกีฬาออกวิ่งออกกำลังกาย เค้าบอกกันมาว่า นักกีฬาจะวิ่งโดยไม่ได้ทานอะไรมาก่อนพอเหนื่อยมากๆ ก็กินหนักสิครับ ต้องกินเยอะๆ จะได้อ้วนๆ ตัวใหญ่ๆ ใครชอบกินต้องเป็นซูโม่ครับ ปกติแล้วฤดูกาลแข่งขันซูโม่จะเปิดการแข่งขันปีละ 6 ครั้ง คือ ในเดือนมกราคม มีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม กันยายน และพฤศจิกายน โดยแต่ละครั้งใช้เวลานาน 15 วัน คืออาชีพซูโม่นี่แข่งหนึ่งครั้งมักจะรู้ผลแพ้ชนะกันไวมากแทบจะไม่ถึงนาที ถ้าผมสมมุติว่ารู้ผลแพ้ชนะกันภายใน 30 วินาที ทำการแข่งขันกัน 15 ครั้ง x 6 (ปีหนึ่งมีแข่ง 6 เดือน) คือเท่ากับเข้าสนามแข่งจริงแค่ 45 นาที/ ปี (และอาจน้อยกว่านี้ถ้ารู้ผลแพ้ชนะไวกว่าที่ผมสมมุติตัวเลขไป ส่วนมากไวมากจับทุ่มกันหรือทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งถูกพื้น) แต่ตลอดทั้งปีต้องฝึกซ้อมอย่างหนักมาก รวมทั้งเรื่องทำน้ำหนักตัวด้วย
ซูโม่ถือเป็นกีฬาประจำชาติและได้รับความนิยมในญี่ปุ่น เมื่อศตวรรษที่ 8 วังหลวงเกียวโต มีการคัดเลือกนักมวยปล้ำจากกองทัพมาแข่งขันสู้กัน เพื่อสร้างความบันเทิงแก่ชาววัง ตอนแรกๆ เป็นเหมือนการแสดงตลกครับ แต่ปัจจุบันพัฒนาจนกลายเป็นกีฬาอาชีพครับ ประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติสำหรับกีฬาซูโม่นั้นมีความเก่าแก่มาก และยึดถือเป็นแบบปฏิบัติต่อเนื่องกันมาถึงปัจจุบัน เช่น การโปรยเกลืออันเป็นสัญลักษณ์แสดงความบริสุทธิ์ เป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อในศาสนาชินโต การใช้ชีวิตของนักมวยปล้ำซูโม่นั้นเคร่งครัดเป็นอย่างยิ่ง และอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่กำหนดโดยสมาคมซูโม่ ซึ่งนักมวยปล้ำซูโม่อาชีพจะใช้ชีวิตร่วมกันภายใต้ค่ายสังกัดที่เรียกว่า 部屋 heya ของตนเอง โดยมีแบบแผนในการดำเนินชีวิตทุกด้าน นับตั้งแต่อาหารการกิน ไปจนกระทั่งการแต่งกาย ต่างๆ เป็นต้น
ผมยกตัวอย่างตั้งแต่การเริ่มเข้าสู่วงการซูโม่ ตั้งแต่เริ่มก้าวเข้าสู่ค่ายสังกัด heya จะเข้าได้อย่างไร ..อาจจะมีแมวมองไปคว้าตัวมา หรือมีคนรู้จักแนะนำเข้าสังกัด หรือสมัครเข้ามาด้วยตนเอง โดยผ่านหลักเกณฑ์มาตรฐานของสังกัดนั้นๆ ก่อน เมื่อสัก 25 ปีที่แล้วมี โยโกสุนะ สองคนที่เป็นพี่น้องชาวญี่ปุ่นแท้ ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองสำหรับซูโม่มากเหมือนกัน คนญี่ปุ่นอยากเข้าวงการซูโม่กันมากขึ้น มาสมัครเข้าสังกัดต่างๆ กันมาก สังกัดก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่เงื่อนไขที่กำหนดก็มากเช่นกัน เช่นบางคนความสูงไม่ถึง ก็อุตส่าห์ไปทำศัลยกรรมเพิ่มซิลิโคนไปที่ศีรษะเพราะอยากสูงขึ้น กระโดดเอาหัวกระแทกเพดานเพื่อให้หัวโนก่อนจะวัดส่วนสูง ผิดกับปัจจุบันที่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยอยากเป็นซูโม่กันนัก
เมื่อเข้าสังกัดแล้วนักซูโม่ต้องฝึกอย่างหนักและอยู่ภายใต้กฏระเบียบอย่างเคร่งครัด เช่น ตื่นนอนตีสามหรือตีสี่ แล้วออกกำลังกายต่างๆ และฝึกซ้อมท่าทางการต่อสู้แบบซูโม่ ฝึกซ้อมให้เกิดความหิวอย่างหนักและทานข้าวและอาหารหม้อไฟที่เรียกว่า ちゃんこ chanko กินแล้วทุกคนต้องนอน คือกินให้อิ่ม อิ่มแล้วนอนเลย ขุนนั่นเอง เมื่อตื่นมาอีกรอบก็ต้องทำตามกฏระเบียบของค่ายต่อทั้งวันทั้งคืน บางครั้งนักซูโม่อายุน้อยๆ อาจจะต้องไปเรียน บางคนต้องปรนนิบัติรุ่นพี่ เหมือนรับน้องครับ รุ่นพี่บางคนก็ใช้งานโหดหรือแปลกๆ ก็มี
นักซูโม่แต่ละคนจะมีรูปร่างอ้วนใหญ่ และจะต้องมีน้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า 65-75 กก. ตามพิกัดน้ำหนัก โดยขณะที่แข่งขันมวยปล้ำซูโม่นี้ทั้งสองฝ่ายจะอยู่ในขอบเส้นวงกลม และต้องพยายามทำให้อีกฝ่ายหนึ่งล้ม ทำให้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่นอกเหนือจากฝ่าเท้าแตะกับพื้น หรือดันคู่ต่อสู้ให้ออกจากวงกลมขนาดเล็กนั้น มีความเชื่อว่าซูโม่เป็นกีฬาที่มีเกียรติ ผู้ที่ก้าวไปถึงตำแหน่ง "โยโกสุนะ" ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของซูโม่ถือว่าเป็นผู้พิชิตอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติซะมากกว่า ปัจจุบันมีคนญี่ปุ่นในตำแหน่งโยโกสุนะด้วยหลังจากที่ไม่มีมาหลายสิบปีอย่างที่บอกไป และคนญี่ปุ่นปัจจุบันก็ไม่ค่อยอยากเป็นซูโม่กันด้วยสิ
♢ระดับความยากที่จะทำงานนี้สำหรับคนญี่ปุ่น : ✋🏻✋🏻✋🏻✋🏻✋🏻 ให้คะแนนที่ 5 คะแนน คนญี่ปุ่นเองบางคนก็ยังอยากเป็นซูโม่แต่เป็นไม่ได้ และบางคนไม่อยากเป็น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีคนรู้จักพาเข้าสังกัด หรือแม้จะสมัครเข้าไปเองก็ต้องผ่านเงื่อนไขที่สังกัดกำหนดไว้
♢ระดับความยากที่จะทำงานนี้สำหรับคนไทย :✋🏻✋🏻✋🏻✋🏻✋🏻 ให้คะแนน 5+ เป็นยากครับมีกฏมากมายเลย แต่ถ้าสนใจต้องลองดูครับ
♢ความอันตรายของงาน : 🚑🚑🚑🚑🚑 5++ เป็นแต้มที่เกินลิมิตสูงสุด ปกติตั้งไว้ที่ 5 คะแนน :) ปกตินักซูโม่ เริ่มเป็นได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีหรือต้องจบชั้นมัธยมต้นก่อน แต่ส่วนใหญ่พออายุ 20 กว่าๆ ก็เลิกเล่นกันเยอะแล้วครับ บ้างก็เพราะบาดเจ็บ บางก็มีปัญหาสุขภาพจากความอ้วน เพราะน้ำหนักสำคัญมากสำหรับการเป็น Sumo ไม่ใช่แข็งแรงแต่ต้องตัวหนักๆ ถ่วงไม่ให้ถูกฝ่ายตรงข้ามจับทุ่ม ๆ
♢กรณีไปได้ถึงดวงดาว(ประสบผลสำเร็จในสายงานนี้) :💴💴💴💴💴 5+++
ให้คะแนนสูงอีกแล้วเพราะจะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป มีเงินเดือนดีมาก มีสังกัดเลี้ยงดู ได้เงินจากค่าโฆษณาด้วย และเงินจากการแข่งแต่ละรอบอีก และถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงเดือนที่ไม่มีแข่งขันก็ได้เงินเดือน ตามลำดับ Level ของซูโม่ เช่น แต่คนที่ยังไม่ได้ Level ถึงระดับที่กำหนดก็จะไม่ได้เงินเดือนจำนวนนี้ แต่อาจจะมีเงินส่วนอื่นบ้างแต่ว่ากินอยู่ฟรีทุกอย่าง
ตัวอย่างของเงินเดือนซูโม่ ตั้งแต่ระดับสูงสุดลงไป โยโกสุนะ 横綱 Yokozuna:2,820,000 ¥大関 Oozeki :2,347,000 ¥三役 San-yaku:1,693,000 ¥平幕 Hiramaku:1,309,000 ¥十両 Juuryou :1,036,000 ¥
ส่วนเงินที่ได้ส่วนแบ่งเพิ่มเติมจากการแข่งขันแต่ละรอบ เรียกว่า 懸賞金 Kenshou-Kin สมมุติ ค่าโฆษณาตัวนั้น 20,000 บาท นักซูโม่ก็อาจจะได้สักครึ่งหนึ่ง ถ้ารอบที่ป๊อปปูล่ามากๆ มีลงโฆษณาสัก 50-60 ตัวตัวละสองหมื่นบาท แม้จะได้แค่ครึ่งเดียวแต่ก็มหาศาลอยู่นะเนี่ยแข่งแค่ไม่กี่วินาทีเอง :)
พูดเรื่องซูโม่บางทีอาจไม่ใช่แค่การแข่งขันเท่านั้นแต่เป็นลักษณะของธุรกิจที่มีวงจรที่น่าสนใจ ตั้งแต่เจ้าของค่ายสังกัดต่างๆ การเลี้ยงนักซูโม่ การแข่งขัน การล้มมวยเพื่อให้คนอื่นๆ ได้ชนะขึ้นมาในระดับที่รับเงินเดือนได้ ที่เรียกว่า 八百長 yaochou คือจะแข่งให้แพ้ นั่นเอง
♢กรณีไปไม่ถึงดวงดาว(ไม่ประสบผลสำเร็จในสายงานนี้) : 💴💴💴 ให้คะแนน 3 ครับ เพราะแม้จะไม่ได้เงินเดือนก็มีค่ายเลี้ยงดู แต่ต้องทำตามกฏของสังกัดนะครับ แลกกันหน่อยไม่มีอะไรได้มาฟรี
เพิ่มเติมอีกสักหน่อยครับ ซูโม่ ปกติเป็นอิมเมจที่ทำให้นักกีฬาหิวๆ แล้วจะได้กินมากไปซ้อมหนักๆ แต่ท่วงท่าของซูโม่ก็มีไม่ถึงห้าสิบกระบวนท่าละมังถ้าเทียบกับมวยไทยหรือกีฬาอื่นอาจจะง่ายกว่าก็ได้นะครับ ก่อนนี้ซูโม่ค่อนข้างถูกมองว่าเป็นวงจรธุรกิจสีเทา ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เช่นการขายตั๋วให้ยากุซ่า การพนันแพ้ชนะ การล้มมวย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อร้อยปีที่แล้วที่ญี่ปุ่นยังยากจนมาก ไม่มีอาหาร บางคนเข้าบ้านฝึกซูโม่เพื่อขอให้ได้มีอาหารเลี้ยงชีพ แต่ต้องฝึกฝนอย่างหนัก แต่ปัจจุบันญี่ปุ่นมีความเป็นอยู่ดีขึ้นจึงไม่ค่อยมีใครอยากเป็นอยากฝึกซูโม่เท่าไรนัก นักซูโม่จึงมีแต่ต่างชาติซะเยอะเลย วันนี้เล่าเรื่องซูโม่ไปนิดหน่อย คราวหน้ามีเรื่องสนุกๆ มาเล่าต่อครับ สวัสดีครับ