xs
xsm
sm
md
lg

เหล้างูโด่โอกินาว่า แซ่บ! สะท้านทรวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้วครับ อาทิตย์ที่แล้วผมพูดถึงการท่องเที่ยวจังหวัดโอกินาว่าไปนิดหน่อย โอกินาว่าเป็นเกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น มีทะเลสวย มีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความเป็นญี่ปุ่นและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ผสมผสานกันอย่างลงตัว

สมัยที่ผมเป็นนักศึกษาผมเคยเดินทางไปโอกินาว่าโดยเรือโดยสารประจำทาง ด้วยการแบ็คแพ็คเดินทางจากท่าเรือฟุกุโอกะไปถึงท่าเรือนาฮาที่โอกินาว่าใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงอย่างที่เคยเล่าไป

วันนั้นผมแบกเป้ไปหนึ่งใบกับถุงนอน พอลงเรือผมคิดว่าจะนอนแถวสวนสาธารณะหน้าสถานีรถไฟ แต่นึกขึ้นได้ว่าโอกินาว่ามีงูพิษเยอะ ハブ(Habu) เกิดมันเลื้อยมาจ๊ะเอ๋ขึ้นมาจะทำยังไง ผมยิ่งกลัวงูขึ้นสมองอยู่ด้วย ..... I have a pen〜♪ _φ( ̄ー ̄ ) .... ハブ Habu(s) have a Poison! ・゚・(つД`)

ครั้งนั้นผมไปเกาะเล็กๆ ชื่อ 渡嘉敷島 Tokashiki-jima ที่นั่นมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวนอนเต๊นท์ได้ในพื้นที่แคมป์ที่จัดไว้ให้ ผมคิดๆ ว่าจะนอนเต๊นท์หรือนอนในถุงนอนดี ผมจึงสอบถามข้อมูลจากคุณลุงที่ดูแลสถานที่ว่าเกาะนี้มีงูพิษไหมครับ ( เพราะที่โอกินาว่ามีเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายบางเกาะมีงูพิษ บางเกาะไม่มี ข้อมูลเรื่องนี้สอบถามได้ บางที่มีตั้งโต๊ะเป็นข้อมูลให้นักท่องเที่ยวเลยครับ)

ลุงผู้ดูแลพื้นที่บอกว่า มีสิ !! ลุงถามว่าจะเช่าเต๊นท์ไหม หรือจะนอนตามสวนในแค้มป์ก็ได้คนละราคา นอนตามสวนก็ถูกลงมาหน่อย ลุงบอกถ้าเลือกนอนตามสวนให้นอนที่ๆ มีไฟส่องนะ ผมไม่อยากเช่าเต๊นท์จึงไปนอนแถวๆ หน้าห้องน้ำ 💡(´•ω•`) เพราะเป็นที่เดียวที่มีไฟส่องตลอดคืน คือจริงๆ ก็นอนไม่ใช่จะหลับหรอกครับ เพราะคนเมาเข้าห้องน้ำและร้องเพลงกันตลอดคืน ♪♯♭♪

พูดเรื่องงูพิษ อย่างที่บอกไปว่าคนที่นี่ค่อนข้างต้องรู้ว่าเกาะไหนหรือพื้นที่ไหนมีงูพิษ ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญของคนพื้นที่และนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะถ้าชอบเข้าป่าปีนเขา ถ้าเราถามคนท้องถิ่นว่าเกาะไหนมีงูพิษ เขาสามารถบอกเราได้เกือบทุกคน ที่จริงถ้างูที่ไม่มีพิษก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้างคือช่วยจับหนู แต่ถ้างูพิษค่อนข้างเป็นอันตรายต่อชีวิตมากๆ ครับ

ที่โอกินาว่ามีเกาะหนึ่งที่ชื่อว่า 宮古島 Miyako-jima เป็นเกาะที่โด่งดังขึ้นชื่อมากๆ เรื่องความสวยงามของท้องทะเล นักท่องเที่ยวนิยมมาดำนำกันเยอะ หนังสือ Lonely planet ก็ยกย่องว่าสวยงามระดับเวิร์ดคลาสเลยทีเดียว เกาะนี้เดิมไม่มีงูพิษครับ แต่อยู่มาวันหนึ่งมีคนเจองู เป็นงูพิษด้วย พอเจอปุ๊บก็มีข่าวดังขึ้นมาเลย เพราะเป็นที่สงสัยกันว่ามีงูพิษมาที่เกาะนี้ได้ทางใด สรุปว่าอาจมีคนแอบเอาขึ้นเรือมาปล่อยรึเปล่า ก็ยังถกเถียงกันอยู่

หลังจากที่ผมกลับมาโตเกียวผมก็อ่านเจอหนังสือเล่มหนึ่งเขียนไว้เกี่ยวกับอาชีพ 虚無僧 Komusou พระผมยาวเดินจร และอาชีพคนจับงูพิษ!! เขาบอกว่าทั้งสองอาชีพเป็นอาชีพที่มีที่ญี่ปุ่นมาช้านานแล้ว น่าสงสัยว่าทำไมต้องทำอาชีพคนจับงูพิษ ก็เพื่อความปลอดภัยของประชาชนนั่นเอง ผมเองเพิ่งเคยเห็นว่ามีอาชีพแบบนี้ด้วยหรอเนี่ยตกใจนิดหน่อย ไม่รู้ว่าที่เมืองไทยมีไหมครับ

ที่โอกินาว่าจะมีป้ายเขียนติดไว้เป็นระยะว่าถ้าใครเจองูพิษให้โทรแจ้งตำรวจท้องถิ่น ตำรวจท้องถิ่นที่นี้เป็นศัตรูกับงูพิษนะครับ ต้องฝึกทักษะไว้ ตำรวจที่เมืองนี้ต้องถูกเทรนนิ่งเรื่องการจับงูพิษด้วยค่อนข้างแปลกกว่าตำรวจจังหวัดอื่นๆ นะครับ

มีคนบอกว่าตำรวจโอกินาว่ามีความสัมพันธ์อันดีกับเหล่ายากุซ่าแต่กับงูพิษแล้วต้องตายกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนั้นอาชีพคนจับงูพิษก็มีคนทำกันเยอะ มีทั้งแบบมืออาชีพและแบบพาร์ทไทม์ อาชีพคนจับงูพิษนี้จะไม่รับเดินจับตามบ้านนะครับ  โปรแบบนี้ตามจับงูตามทุ่งนาและสวนและป่าเขานู้นเลย ส่วนถ้าใครเจองูตามบ้านต้องรีบโทรแจ้งตำรวจครับ

ลองมาดูวิถีทางแห่งอาชีพคนจับงูพิษกันหน่อยไหมครับ เผื่อมีใครสนใจ อยากลองทำดู (゚∀゚)

อิมเมจง่ายๆ คือคล้ายคนจับกบบ้านเราล่ะครับ นักจับงูพิษมืออาชีพจะออกไปล่างูพิษบนภูเขายามค่ำคืน มีไฟส่องคาดหัวพร้อมอุปกรณ์ครบมือ พวกเขาจะเดินล่างูพิษไปเรื่อยๆ ตามแหล่งที่ประสบการณ์บอกว่าที่นี้มีงูพิษแน่ๆ นักล่างูบางคนเคยโดนงูพิษกัดแต่ก็รอดมาได้ เขียนในบทสัมภาษณ์ว่าเขามีพิษงูในร่างกายทำให้เขาแข็งแรงขึ้น ว้าว! พูดแบบไม่น่าจะเชื่อเลย ผมแนะนำว่าอย่าลองนะครับ :) ต่างคนต่างอยู่จะดีที่สุดนะครับ

บางคนอาจสงสัยว่าเค้าจะเสี่ยงอันตรายและจับงูพิษไปทำอะไร สามารถเอามาทำธุรกิจอะไรต่อได้อย่างงั้นหรอ เขาคงไม่เอามาเลี้ยงหรือขายเองตามตลาดสดแน่ๆ เขาเอาไปขายที่ไหนรู้ไหมครับ เขาเอาไปขายที่ที่ว่าการอำเภอ หรือสถานที่ราชการท้องถิ่นครับ

ราคาขึ้นอยู่กับความยากง่าย งูตัวหนึ่งอาจจะสามพันเยนขึ้นไปหรือราคาสูงกว่านี้ ที่นำไปขายให้สถานที่ราชการก็เพราะว่าสถานที่ราชการมีนโยบายกำจัดสัตว์พิษอยู่แล้วจึงมีการรับซื้องูด้วย และทำให้เกิดอาชีพเหล่านี้ตามมา คนที่จะนำงูมาขายได้ต้องมีทะเบียนบ้านอยู่ญี่ปุ่นนะครับ งั้นเขาไม่รับซื้ออีกแนะ ส่วนสถานที่ราชการของจังหวัดอื่นๆ ก็อาจจะรับซื้อสัตว์อื่นๆ ที่ไม่เป็นที่ต้องการนะครับเช่น หนู เป็นต้น แต่พูดถึงต้องเสี่ยงอันตรายจับงูพิษแบบนี้แล้วขายได้ไม่เท่าไหร่เอง คนที่ทำได้นี่ต้องชอบเป็นการส่วนตัวนะครับเนี่ย




นอกจากจะขายให้สถานที่ราชการแล้วก็อาจจะเอาไปขายที่ร้านเหล้าโบราณ อาจจะคล้ายๆ เหล้ายาดองงูพิษชูกำลัง เห็นมั้ยครับว่าที่โอกินาว่ามีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกับเอเซียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ หลายๆ สิ่งที่เจอที่โอกินาว่าแทบจะไม่มีที่จังหวัดอื่นๆ ของญี่ปุ่นแล้ว

จากนั้นร้านเหล้ายาดองงูก็ผลิตผลิตภัณฑ์ออกมาวางขายนักท่องเที่ยวแหละครับ เมื่อก่อนเหล้างูที่นี่ค่อนข้างโด่งดังเอาเรื่องนะเออ สรรพคุณคือโด่สะท้านทรวง อะไรพวกนี้ แบบโฆษณาชวนเชื่อเรื่องพละกำลังวังชาของหนุ่มๆ เค้า แล้วก็มีคนเชื่อถือเยอะนะเอ้า แต่ผมไม่กล้ากินครับ :)

เพื่อนๆ แวะไปโอกินาว่าอย่าลืมลองแล้วช่วยมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ หรือไม่ก็ขายให้แหล่งวิจัย และร้านทำผลิตภัณฑ์จากหนังงู เช่น เครื่องดนตรีพื้นเมืองของโอกินาว่าจะมีหนังงูเป็นส่วนประกอบและมีเอกลักษณ์เฉพาะตนเองอย่างโดดเด่น เพลงพื้นบ้านของโอกินาว่าก็ไพเราะและมีหลายเพลงที่โด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เช่น 涙そうそう Nadasousou, 島唄 Shimauta

ญี่ปุ่นมีสำนวนสำหรับเปรียบเปรยคนที่ไม่ค่อยลงรอยกันว่า ไม่ถูกกันเหมือนสุนัขกับลิง 犬猿の仲 Ken-En no Naka 🐕🐒 ส่วนอีกสำนวนที่เพิ่งมีเพิ่มขึ้นมาคือ ไม่ถูกกันเหมือนงูกับพังพอน ハブとマングース Habu to Manguusu

เมื่อประมาณร้อยกว่าปีที่แล้วมีการนำเข้าพังพอนจากอินเดียหรืออาจจะแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เข้าไปเลี้ยงเพาะพันธ์เพื่อนำไปปล่อยในป่าให้จับงูโดยให้ระบบนิเวศจัดการกันเองตามธรรมชาติ ไม่เช่นนั้นโอกินาว่าคงจะมีงูพิษและงูมากมายเต็มเกาะแน่ๆ บางเกาะเล็กๆ มีงูมากกว่าสองแสนตัว มากกว่าจำนวนคนที่อาศัยอยู่ซะอีกนะครับ ดังนั้นใครอยากไปผจญภัยที่โอกินาว่า อย่าลืมถามเขาด้วยนะครับว่า ที่เกาะนี้มีงูพิษไหม แฮะๆ แต่ไม่ต้องกลัวนะครับเพราะตามแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ และทะเลสวยๆ เค้าดูแลดีไม่ปล่อยให้มีงูมากัดนักท่องเที่ยวแน่ๆ
 
วันนี้สวัสดีครับ ว่าจะไปลองเหล้างูสักหน่อย :)

กำลังโหลดความคิดเห็น