xs
xsm
sm
md
lg

แผนสังหารใต้หลังคา(ตอนที่ 5 ต่อ 6)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตอนที่ 5 (ต่อ)
 
ซะบุโรเริ่มผสมยาพิษด้วยความตั้งอกตั้งใจด้วยท่าทีประณีตบรรจงราวกับเภสัชกรมืออาชีพ เขาวางขวดยาไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ หยิบน้ำตาล และน้ำบริสุทธิ์มาวางเรียงไว้ใกล้ ๆ กัน ดึกแล้วความเงียบสงัดครอบคลุมไปทั่วบริเวณ ชาวหอน่าจะเข้านอนกันแล้วทุกคน ซะบุโรเอาก้านไม้ขีดจุ่มน้ำบริสุทธิ์หยดลงไปในขวดทีละหยด ๆ ด้วยความระมัดระวังเต็มที่ เสียงหายใจเข้าออกแรง ๆ ของเขาดังน่ากลัวอย่างประหลาดราวกับเสียงถอนหายใจของปีศาจ ช่างเป็นบรรยากาศที่เติมเต็มความพอใจให้แก่จิตวิปลาสของซะบุโรได้อย่างเปี่ยมล้นอะไรเช่นนี้ ภาพมายาที่ผุดขึ้นมาลาง ๆ และค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเบื้องหน้าเขาคือแม่มดน่าเกลียดน่ากลัวในนิทานโบราณ กำลังแสยะยิ้มขณะจ้องตาโปนถลนลงไปในหม้อยาพิษใบใหญ่ที่กำลังเดือดปุด ๆ อยู่ในถ้ำลึกที่มืดมิด

ทว่า ตั้งแต่เริ่มลงมือผสมยาพิษ อารมณ์หวาดกลัวที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยแม้ได้น้อยค่อย ๆ ผุดขึ้นมาที่ซอกหนึ่งของหัวใจ และค่อย ๆ ขยายวงกว้างออกไปทีละน้อย

MURDER CANNOT BE HID LONG, A MAN'S SON MAY, BUT AT THE LENGTH TRUTH WILL OUT.

ซะบุโรจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นคนคัดมาอ้างอิง แต่คำของเชคสเปียร์ที่ฟังแล้วขนลุกแล้วประโยคนี้ส่งประกายวาบแปลบตาออกมาแล้วสลักลึกลงไปในสมองของเขาราวกับถูกประทับตราเหล็กเผาไฟ ทั้ง ๆ ที่มั่นใจอย่างที่สุดว่าแผนสังหารนี้ไม่มีวันล้มเหลวแน่ แต่ซะบุโรก็ไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับความหวั่นใจที่กำลังรุนแรงขึ้นทุกขณะ

แกยังสติดีอยู่รึที่อยู่ ๆ ก็มาวางแผนฆ่าคนที่ไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นชิงชังกันมาก่อนด้วยความสนุกอย่างเดียว หรือว่าถูกปีศาจร้ายเข้าสิง หรือว่าเป็นบ้าไปแล้ว นี่ใจแกเหี้ยมหาญถึงขนาดไม่กลัวเกรงอะไรเลยรึยังไง

ซะบุโรนิ่งคิดอยู่หน้าขวดยาพิษที่ผสมเสร็จแล้วอยู่นานจนไม่รู้สึกตัวดึกดื่นแค่ไหนแล้ว เขาเกือบตกลงใจล้มเลิกแผนนี้เสียไม่รู้ว่าที่ครั้ง แต่ในที่สุดก็ไม่อาจตัดใจจากเสน่ห์เย้ายวนใจของการฆ่าไปได้

ขณะที่กำลังคิดนั่นคิดนี่อยู่อย่างเอาเป็นเอาตายนั่นเอง อยู่ ๆ สมองซะบุโรก็สว่างวาบขึ้น

เขาหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ แต่ก็ไม่ลืมที่จะคำนึงถึงความเงียบสงัดโดยรอบ

“ไอ้บ้า แกนี่ไปเล่นละครเป็นตลกเอกได้เลย บ้าจริง ๆ มานั่งเคร่งเครียดวางแผนอะไรใหญ่โตอยู่ได้ สมองอัมพาตของแกแยกเรื่องบังเอิญกับเรื่องจริงไม่ออกแล้วหรือไง ปากนายเอ็นโดที่อ้ากว้างอยู่นั่น แกเห็นครั้งนี้ครั้งเดียวใช่ไหมว่ามันอ้าอยู่ตรงกับรูบนเพดานนั่นพอดี แล้วแกแน่ใจได้ยังไงว่าครั้งต่อไปนายนั่นจะมานอนอ้าปากรออยู่ตรงนั้นอีก ไม่มีทาง บอกได้เลยว่าไม่มีทาง”

นั่นเป็นความผิดพลาดที่น่าขันมาก และแผนสังหารของซะบุโรก็มีอันเป็นต้องสลายตัวเหมือนภาพมายา ณ จุดเริ่มต้นนี้เอง แต่ความจริงมันก็เป็นเรื่องหญ้าปากคอกแค่นี้เองทำไมเขาถึงไม่สะดุดใจมาก่อน น่าแปลกมาก หรือว่านั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าสมองของซะบุโรซึ่งทำท่าว่าฉลาดเฉลียวคนนี้มีอะไรบกพร่องอยู่ในนั้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าการค้นพบข้อความจริงครั้งนี้ทำให้เขาผิดหวังไม่น้อย แต่ก็รู้สึกโล่งใจอย่างประหลาดอยู่ลึก ๆ

“ก็ดีไป เราจะได้ไม่ต้องกลายเป็นฆาตกรใจโหด เฮ้อ โล่งอกไปที”

ถึงจะคิดเช่นนั้น แต่ในวันรุ่งขึ้นเมื่อขึ้นไป “เดินเล่นใต้หลังคา”เขาก็อดที่จะแวะเปิดรูตาไม้สอดส่องดูความความเคลื่อนไหวในห้องของนายเอ็นโดไม่ได้ และจากนั้นมาเขาก็แวะดูทุกวันอย่างไม่รู้เบื่อ ระหว่างนั้นแม้จะวิตกกังวลอยู่ว่านายเอ็นโดจะรู้ตัวไหมว่าขวดยาพิษถูกขโมยไป แต่ก็ยังแอบคอยเงียบ ๆว่าเมื่อไรนายเอ็นโด จะบังเอิญมานอนอ้าปากกว้างอยู่ตรงรูเพดานพอดีอีกครั้ง ความจริงแล้ว ซะบุโรไม่เคยเอาขวดยาพิษออกจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของเขาเลยแม้เวลาขึ้นไป“เดินเล่น” ใต้หลังคา

ตอนที่ 6

เหตุเกิดในคืนวันหนึ่ง หลังจากเวลาผ่านไป 10 วันนับจากวันที่ซะบุโรเริ่มขึ้นไป “เดินเล่นใต้หลังคา” ตลอดสิบวันที่ผ่านเขาคลานวนอยู่ใต้หลังวันละไม่รู้กี่รอบทุกวันด้วยความมานะอดทนอย่างที่คนธรรมดาไม่มีใครเขาทำกัน และด้วยความระแวดระวังอย่างที่สุดชนิดที่ไม่อาจบรรยายให้เห็นภาพได้ด้วยคำพื้น ๆ และตลอดช่วงเวลานั้นไม่มีใครรู้สึกถึงความผิดปกติเลยแม้แต่น้อย คืนนั้น ซะบุโรวนเวียนอยู่บริเวณใต้เพดานห้องของนายเอ็นโดตามเคย เขารู้สึกเหมือนกำลังเสี่ยงใบเซียมซี ว่าจะได้ใบโชคดีหรือว่าโชคร้าย และหวังว่าวันนี้อาจเป็นวันที่โชคดีของเขาก็ได้ ซะบุโรเปิดรูตาไม้ออกดูพร้อมกับภาวนาไปด้วยว่าขอให้โชคดีทีเถิด

เอ๊ะ นี่เขาตาฝาดไปหรือเปล่า นายเอ็นโดนอนอยู่ในท่าที่ไม่ผิดอะไรกับที่เคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง ปากที่อ้ากว้างส่งเสียงกรนอยู่นั้นตรงกับรูตาไม้บนเพดานพอดีไม่ใช่หรือ ซะบุโรขยี้ตาหลายครั้ง เขาดึงเชือกผูกกางเกงหูรูดออกมาหย่อนลงไปในรูแบบที่เคยทำ ก็พบว่าเส้นเชือก รูตาไม้ และช่องปากของนายเอ็นโดอยู่ในแนวเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน ซะบุโรกลั้นเสียงอุทานที่เกือบหลุดออกมาดัง ๆ ไว้ได้ทัน ความตื่นเต้นอันแปลกประหลาดที่เกิดจากความดีใจสุดขีดที่โอกาสที่เฝ้ารอมาถึงในที่สุดผสมผสานกับความหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก ทำให้ซะบุโรหน้าซีดขาวโพลนอยู่ในความมืดมิด

เขาหยิบขวดยาพิษออกมาจากกระเป๋าเสื้อ พยายามบังคับปลายนิ้วที่สั่นอยู่ให้สงบลงขณะเปิดจุก จรดขวดลงที่เส้นเชือก...ซะบุโรบอกไม่ถูกว่าเขารู้สึกอย่างไร ยาพิษในขวดหยด ติ๋ง ติ๋ง ลงไปหลายหยด...เสร็จจนได้ ซะบุโรหลับตาลงทันที

“รู้สึกตัวแล้วรึ ต้องรู้สึกตัวแน่เลย รู้สึกตัวแล้ว เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวเถอะ ต้องร้องลั่นแน่ เสียงจะดังขนาดไหนนะ”

เขาถึงกับอยากยกมือขึ้นปิดหูถ้าสองมือว่างอยู่

แต่ไม่เป็นไปตามคาด นายเอ็นโด ยังนอนเฉยอยู่ไม่ปริปากร้องอะไรออกมา ไม่พลาดแน่เพราะซะบุโรเห็นกับตาตอนที่ยาพิษหยดลงไปในปาก แต่ทำไมถึงเงียบสงบอย่างนี้ เขาแนบตาลงกับรูตาไม้อย่างหวาด ๆ พอดีกับที่นายเอ็นโด เคี้ยวปากหยับ ๆ พร้อมกับยกมือทั้งสองขึ้นเช็ดริมฝีปากแล้วหลับไปอีกครั้ง จริงตามคำโบราณว่าไว้ จะห่วงหน้าห่วงหลังไปทำไมให้กังวล ลงมือทำแล้วจะรู้เองว่ามันไม่ยาก นายเอ็นโดท่าทางงัวเงีย โดยไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่าดื่มยาพิษร้ายแรงเข้าไป

ซะบุโรนั่งนิ่งไม่ไหวติง ตาจ้องจับไปที่หน้าเหยื่อผู้น่าสงสารอยู่นานเท่านาน คิดว่าราวสองสามชั่วโมงแต่จริง ๆ แล้วเวลาผ่านไปเพียงไม่ถึง 20 นาที ตอนนั้นเองที่นายเอ็นโดก็ลืมตาขึ้นทันควัน ลุกขึ้นนั่งกวาดตาไปทั่วห้องด้วยท่าทีแปลกใจ หรือว่าจะเวียนหัว เพราะเห็นสั่นหัว ขยี้ตา พึมพำอะไรออกมาเหมือนคนละเมอและทำท่าอะไรแปลก ๆ แล้วก็ล้มตัวลงนอนหนุนหมอนอีกครั้ง แต่คราวนี้นายเอ็นโดพลิกตัวไปมาหลายต่อหลายตลบ

ไม่นานแรงพลิกตัวก็ค่อย ๆ อ่อนลงตามลำดับจนคิดว่าหมดแรงเสียแล้ว แต่ที่ไหนได้นายเอ็นโดกลับเริ่มกรนเสียงสนั่นหวั่นไหวอีกครั้ง มองลงไปเห็นหน้าของเขาแดงก่ำเหมือนคนเมาเหล้า เหงื่อเม็ดโป้ง ๆ ผุดขึ้นมาที่ปลายจมูกและหน้าผาก แสดงว่าภายในร่างกายของนายเอ็นโด ที่กำลังหลับสนิทอยู่นั้น ความเป็นและความตายอาจกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดสยดสยองที่สุด คิดแค่นี้ก็น่ากลัวจนขนพองสยองเกล้าแล้ว ครู่หนึ่งต่อมาหน้าที่แดงก่ำค่อย ๆ ซีดลงจนกลายเป็นสีขาวเหมือนกระดาษ และค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีม่วง ตอนนี้เสียงกรนหยุดไปแล้วและลมหายใจเข้าออกดูเหมือนจะอ่อนแรงลง และอยู่ ๆ หน้าอกก็หยุดเคลื่อนไหวทำให้นึกว่าคงหมดลมแล้ว แต่ไม่นานลมหายใจอ่อน ๆ ก็กลับมาเหมือนนึกขึ้นมาได้ว่าต้องหายใจและริมฝีปากสั่ทนระริก อาการนี้เกิดขึ้นซ้ำสองสามครั้งก่อนสิ้นใจ...นายเอ็นโด หยุดเคลื่อนไหว บนใบหน้าที่เอียงตกไปจากหมอนมีรอยยิ้มน้อย ๆ แบบที่ต่างจากยิ้มบนโลกของเราอย่างสิ้นเชิง นายเอ็นโดคงอำลาโลกไปสู่สุคติอย่างงที่เขาพูด ๆ กันแล้วเป็นแน่

ซะบุโรที่กำมือเปียกไปด้วยเหงื่อขณะกลั้นใจเฝ้าดูอยู่นั้น ถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมาเป็นครั้งแรก ในที่สุดเขาก็กลายเป็นฆาตกรไปแล้ว เหยื่อของเขาช่างตายง่ายดายอะไรเช่นนี้ ไม่ร้องเลยสักคำ ไม่แสดงสีหน้าว่าทุกข์ทรมาน แถมตายไปทั้ง ๆ กำลังกรนอยู่ด้วยซ้ำ

“อะไรกัน การฆ่าคนเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เองน่ะรึ”

ซะบุโรรู้สึกผิดหวังขึ้นมาตะหงิด ๆ ฆาตกรรมในโลกของจินตนาการของเขานั้นเป็นพฤติกรรมที่มีเสน่ห์เหลือเกิน แต่พอทำเข้าจริง ๆ ทำไมถึงไม่ผิดอะไรกับกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ เหมือนกินข้าวสักชามดื่มชาสักถ้วยยังไงยังงั้น ถ้าง่ายประมาณนี้ละก็เห็นจะฆ่าได้อีกหลายคน แต่ขณะที่คิดเช่นนั้น อีกด้านหนึ่งความหวาดกลัวจากห้วงมิติอันลึกลับกำลังคืบคลานช้า ๆ เข้ามาคุกคามจิตใจที่กำลังหวั่นไหวของชายหนุ่มจิตประหลาดผู้นี้

ภาพของตนเองที่นอนพังพาบเหมือนตุ๊กแกหรืออะไรสักอย่างแนบติดกับพื้นฝ้าเพดาน เฝ้าดูซากศพของมนุษย์อยู่ใต้โครงขื่อคานใต้หลังคาที่พาดกันไปในแนวขวางยืนขึ้นไปเป็นแนวตรงเหมือนสัตว์ประหลาดยืนทะมึนอยู่ในความมืดมิด ทำให้ ซะบุโรขยะแขยงจนขนลุก เขารู้สึกเย็นวาบที่ต้นคออย่างประหลาด เมื่อเงี่ยหูฟังก็แว่วเสียงเหมือนมีใครกำลังเรียกชื่อเขาช้า ๆ ติดต่อกันมาจากไกลแสนไกล ทำให้ต้องละสายตาจากรูตาไม้กวาดสายตามองไปรอบ ๆในความมืด ซะบุโรรู้ดีว่าคงเป็นเพราะเพิ่งละสายตามาจากการจ้องจับไปยังที่สว่างอยู่นาน จึงทำให้เขาเห็นวงแสงสีแสดเล็กบ้างใหญ่บ้าง สว่างวาบวับละลานตาอยู่เบื้องหน้า และพอเขม้นมองไปก็เห็นเหมือนกับจะมีริมฝีปากใหญ่ผิดปกติของนายเอ็นโดโผล่ออกมาจากข้างหลังวงแสงที่วาบวับอยู่นั้น

เอาละ ในที่สุดปฏิบัติการขั้นแรกสุดตามแผนสังหารของเขาก็เสร็จเรียบร้อย เขาทิ้งขวดยาพิษ (ยังมียาพิษเหลืออีกหล่ยหยด) ลงไปทางรูตาไม้ ปิดรูตาไม้ แล้วใช้ไฟฉายตรวจเช็กอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งกันพลาดว่าไม่ได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ใต้หลังคาแน่ ๆ พอเห็นว่าไม่ขาดตกบกพร่องแล้วจึงรีบไต่ไม้คานหลังคากลับห้องของตนโดยเร็ว

“ในที่สุดก็เสร็จ”

ซะบุโรรู้สึกเหมือนเป็นเหน็บชาไปทั่วทั้งตัวสมองก็พลอยชาไปด้วยเหมือนกับลืมอะไรไปสักอย่าง เขาเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าในตู้เก็บที่นอนนั่นเองด้วยพยายามที่จะขจัดความรู้สึกห่วงกังวลและทำใจให้เข้มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็นึกขึ้นมาได้ในตอนนั้นว่าเชือกกางเกงหูรูดที่เขาเอามาใช้กะระยะเส้นนั้นหายไปไหน คิดว่าไม่น่าลืมทิ้งไว้ซะบุโรคิดพลางรีบคลำดูตรงเอวพอไม่พบก็ตาลีตาลานค้นไปทั่วตัวจบพบในที่สุด โธ่เอ๋ย อุตส่าห์เก็บใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตไว้อย่างดีแล้วทำไมถึงลืมเสียได้ โล่งใจไปที แต่ เอ๊ะ พอหยิบเชือกกับไฟฉายออกมาจากกระเป๋า ซะบุโรก็ต้องสะดุ้งเมื่อพบอะไรอีกอย่างหนึ่งอยู่ในนั้น...จุกขวดยาพิษอันจิ๋วนั่นเอง

ตอนที่ซะบุโรหยดยาพิษลงไปเมื่อตะกี้นี้นั้น เขาอุตส่าห์เก็บจุกไว้ในกระเป๋าเสื้อเพราะคิดว่าถ้าหายไปจะแย่แน่ และดูเหมือนเขาจะลืมมันเสียสนิทตอนที่ทิ้งขวดยาพิษลงไปในห้อง ถึงจะเป็นจุกอันนิดเดียวแต่ถ้าเก็บมันไว้อย่างนั้นจะเป็นหลักฐานให้สืบสาวมาถึงตัวเขาได้ ความหวาดหวั่นใจผลักดันให้ซะบุโรต้องกลับไปยังที่เกิดเหตุอีกครั้ง แล้วทิ้งจุดขวดเล็กจิ๋วนั้นลงไปทางรูตาไม้

คืนนั้นกว่า ซะบุโรจะเข้านอนก็ราวตีสาม เขาเลิกนอนในตู้เก็บที่นอนมาได้พักหนึ่งแล้วเพราะคิดว่าต้องระวังตัวไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย แต่ด้วยจิตใจที่ตื่นระทึกทำให้ไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ ขนาดจุกขวดยังลืมทิ้งลงไปอย่างนี้ อาจมีอย่างอื่นที่หลงลืมอีกก็ได้ พอคิดมาถึงตรงนี้จิตใจก็พะวักพะวน เลยพยายามสงบจิจสงบใจด้วยการคิดทบทวนพฤติกรรมของตนในคืนนั้นทีละขั้นตอนว่ามีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง แต่ก็ไม่พบอะไร อาชญากรรมของเขาไม่ว่ามองจากแง่มุมใด ไม่เห็นมีจุดบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

ซะบุโรคิดเรื่อยเปื่อยไปจนสว่าง ไม่นานพอได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกชาวหอที่เป็นคนตื่นเช้าเดินผ่านระเบียงไปห้องล้างหน้า เขาก็ผลุดลุกขึ้นและเริ่มเตรียมตัวออกไปข้างนอกทันที เพราะกลัวที่จะอยู่ตอนมีใครพบศพของนายเอ็นโด ไม่รู้ว่าถ้าตนเองอยู่ตอนนั้นจะวางตัวอย่างไรดี หากไปทำอะไรแปลก ๆ ให้เป็นที่น่าสงสัยเข้าด้วยยิ่งแย่ ตอนแรกซะบุโรคิดว่าการปลีกตัวออกไปข้างนอกตอนนี้จะปลอดภัยที่สุดสำหรับตนเอง แต่มาคิดได้ว่าการรีบออกไปจากหอโดยไม่กินอาหารเช้านั้นน่าจะดูเป็นพิรุธมากกว่า “เออจริงด้วย เกือบไปแล้วไหมล่ะ” รู้สึกตัวได้ดังนั้น จึงมุดเข้าโปงไปใหม่

จากนั้นซะบุโรต้องกระสับกระส่ายอยู่ราวสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาอาหารเช้า โชคดีที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก่อนที่เขาจะรีบกินและหนีออกไปจากหอพัก พอออกมาได้เขาก็ไม่รู้จะไปไหน ได้แต่เดินวกวนฆ่าเวลาไปเรื่อย ๆ จากตำบลนั้นไปตำบลนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น