หญิงชาวไต้หวันที่ทำธุรกิจถ่ายภาพยนตร์วาบหวิวในประเทศญี่ปุ่นจนได้ชื่อว่า “เจ้าแม่หนัง AV” เปิดใจถึงธุรกิจที่ทำมาหากินกับกามารมณ์ และเกี่ยวพันกับอิทธิพลมืดในแดนอาทิตย์อุทัย
นางเฉินเหม่ยลี่ วัย 67 ปี ชาวไต้หวันที่อาศัยในญี่ปุ่นเป็นผู้หญิงรายเดียวที่ทำธุรกิจถ่ายทำและผลิตภาพยนตร์ AV ในญี่ปุ่น เธอเป็นเจ้าของบริษัท “พิเอโร” ผลิตภาพยนตร์วาบหวิวในญี่ปุ่นแล้วส่งผ่านไต้หวันไปจำหน่ายในเว็บไซต์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ธุรกิจของเธอดำเนินมานานกว่า 9 ปีสร้างกำไรมากกว่า 1400 ล้านเยน หรือกว่า 400 ล้านบาท
เฉินเหม่ยลี่เปิดเผยว่า ธุรกิจภาพยนตร์ AV ในญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดมีกลุ่มยากูซ่าหนุนหลัง เพราะถึงแม้ภาพยนตร์ AV จะถูกกฎหมายในญี่ปุ่น แต่ก็มีข้อจำกัดมากมายจนเข้าข่าย “ธุรกิจสีเทา” เธอบอกว่าการทำธุรกิจกับกลุ่มาเฟียก็เหมือนกับธุรกิจทั่วไป เพียงแต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นเหล่ายากูซ่าจะจัดการได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดกว่า
อย่างไรก็ตาม “เจ้าแม่หนัง AV” ยอมรับว่า การทำธุรกิจในญี่ปุ่นส่วนมากเป็นไปตามกฎ เงินที่ต้องจ่ายหากจ่ายตามเวลาก็ไม่มีเรื่อง เหมือนกับในยุทธภพที่เมื่อ “กินอิ่มแล้วก็ไม่อยากจะกินอีกจนท้องแตก”
ในช่วงปี 1990 เฉินเหม่ยลี่เดินทางมาญี่ปุ่นเพื่อค้นหาเทคโนโลยีผลิตโทรศัพท์มือถือที่มีขนาดกะทัดรัด เธอได้ร่วมทุนกับชาวจีนสร้างโรงงานในแผ่นดินใหญ่และได้กำไรมหาศาล หากแต่ไม่กี่ปีต่อมา ปัญหาการผลิตทำให้โทรศัพท์มือถือที่ผลิตขึ้นมียอดส่งซ่อมและคืนสินค้าจำนวนมากจนเธอแทบจะหมดเนื้อหมดตัว
ลูกชายของเธอบอกว่า “ซูสีไทเฮา บูเช็กเทียน ต่อให้เก่งแค่ไหนก็มีวันสิ้นอำนาจ” เพื่อบอกให้เธอวางมือ โดยกลับไปดื่มน้ำเต้าหู้ที่ไต้หวัน ดีกว่ากินเป๋าฮื้อที่แผ่นดินใหญ่ เฉินเหม่ยลี่จึงถอนตัวจากธุรกิจในเมืองจีน หันมาสู่ธุรกิจวาบหวิวในไต้หวันและญี่ปุ่น
ถึงแม้จะเป็น “เจ้าแม่หนัง AV” แต่ชีวิตส่วนตัวของเธอกลับไม่ได้โลดโผนเหมือนอาชีพ เธอบอกว่า “ผู้หญิงส่วนใหญ่แทบไม่ค่อยสุขสมอารมณ์หมาย เพราะต้องขึ้นอยู่กับผู้ชายเป็นหลัก ตอนอายุ 28 ฉันต้องทำงานใช้หนี้ ไม่มีเวลามาคิดเรื่องอื่นมากมาย จนได้เมื่อเข้าสู่ธุรกิจ AV จึงรู้ว่าเรื่องเพศสำคัญต่อชีวิตคู่มาก เป็นความสุขอย่างหนึ่ง แต่ตอนนี้ฉันล่วงเลยวัยไปแล้ว”
เฉินเหม่ยลี่บอกว่า ภาพยนตร์ AV เป็นสิ่งเร้ากามารมณ์ แต่ก็ช่วยให้ชีวิตคู่มีสีสันมากขึ้น เรื่องราวในหนังเกือบทั้งหมดเป็นจินตนาการที่สร้างขึ้นเพราะบางเรื่องไม่สามารถทำได้ในชีวิตจริง
หลังปี 2000 อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่แพร่หลาย ทำให้ผู้ชมส่วนมากสามารถดูฟรีผ่านอินเทอร์เน็ต ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ AV อย่างหนัก แต่เธอเชื่อว่าตราบในที่ผู้คนยังไม่สิ้นไร้ไฟสวาท จุดสุดยอดทางธุรกิจก็ต้องกลับมาอีกครั้ง แต่เพราะภาพยนตร์จากค่ายของเธอนั้นเน้นเรื่องราวมากเกินไป บรรดาชายหนุ่มจึงขี้เกียจรอดูฉากสำคัญ และทำให้ธุรกิจของเธอทุนหายกำไรหด ต้องหันมาขายภาพยนตร์แบบไร้เซนเซอร์ซึ่งผิดกฎหมาย และทำให้เธอถูกจับกุมในครั้งนี้
หลังถูกจับกุม เฉินเหม่ยลี่ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยตำรวจญี่ปุ่นได้ขอความร่วมมือกับตำรวจไต้หวันและสหรัฐฯ เพื่อรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การพิจารณาดำเนินคดีหรือไม่ต่อไป
