ย่านดาวน์ทาวน์ที่มีชื่อเสียงของโอซาก้าอย่าง “Dotonbori” ที่มีป้ายสัญลักษณ์กูลิโกะที่ทุกคนคุ้นเคย 3 จุดยอดนิยมของโอซาก้าที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี สถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลเข้ามาตลอดทั้งวัน เพื่อค้นหาอาหารสุดคลาสสิคอย่าง ทาโกะยากิ และ โอโคโนะมิยากิ เป็นต้น และย่านที่ว่านั้นก็คือ “Dotonbori” ซึ่งจริงๆ แล้ว ในย่านใจกลางเมืองที่เร่งรีบนี้ ยังมีสถานที่ชิลๆ ที่ไม่ต้องรีบเร่งอะไรนักตั้งอยู่ และยังไม่ค่อยมีคนรู้มากนัก ดังนั้นครั้งนี้เราจะเเนะนำให้รู้จักอีกด้านของ “Dotonbori”
“Dotonbori” ที่มาของพ่อค้าโอซาก้า
ย่าน “Dotonbori” ของโอซาก้า เมืองแห่งของกินอันโด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยว บริเวณใกล้เคียงต่างก็มีร้านกินดื่มที่มักจะมีทาโกะยากิและโอโคโนะมิยากิอยู่ในเมนู ซึ่งแท้จริงแล้วบริเวณนี้ถูกเรียกว่า “สวนสนุกแห่งของกิน”
“Dotonbori” เดิมทีในช่วงสมัยเอโดะตอนต้น พ่อค้าที่ชื่อว่า “Yasui Douton” (安井道頓) ได้ขุดขยายคลองเพื่อพัฒนาการค้า และต่อมาเขาก็ได้เสียชีวิตลงในสงครามโอซาก้า ถึงกระนั้นก็กล่าวได้ว่าธุรกิจของเขานั้นได้สร้างเมืองที่มีชีวิตชีวาในวันนี้
เดินชมศิลปะภาพวาดเกี่ยวกับผู้คนสมัยเอโดะที่ Kamigata Ukiyoe Museum
ปัจจุบัน “Dotonburi” มีชื่อเสียงในฐานะเมืองแห่งของอร่อย แต่ในสมัยเอโดะถือว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญด้านการละครมาก ทำให้มีโรงละครอยู่มากมาย และสิ่งนี้ก็มาจากนโยบายของทหาร ให้รวบรวมโรงละครจำนวนมากไว้ทางทิศใต้ของ Dotonburi กล่าวคือบริเวณนั้นมีกำลังทหารอยู่มาก ก็เลยเป็นแหล่งรวมของละครคาบุกิและละครหุ่นญี่ปุ่น ตอนนี้โรงละครปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก แต่สถานที่ที่จะพากลับไปสู่บรรยากาศในอดีตที่อยากจะแนะนำเลยก็คือ “Kamigata Ukiyoe Museum” หน้าพิพิธภัณฑ์มีรูปปั้นรูปแมว ภายนอกทาสีครีมให้ความรู้สึกสงบภายในมีภาพวาดของชวิตผู้คนสมัยเอโดะโชว์อยู่ พิพิธภัณฑ์เอกชนแห่งนี้เปิดในปี 2001 เป็นสถานที่ทีมีแแต่นิทรรศการเกี่ยวกับ “ภาพวาดของชีวิตผู้คนสมัยเอโดะ”
ภาพวาดที่ว่าเป็นภาพที่ถูกทำขึ้นจากชาวโอซาก้า ศิลปินสมัยเอโดะที่สร้างผลงานนี้มีชื่อว่า คะสึชิกะ โฮะกุไซ และ ฮิโระชิเงะ ในบรรดาภาพวิวทิวทัศน์จำนวนมากที่หลงเหลืออยู่ มากกว่าครึ่งเป็นภาพนักแสดงในสมัยเอโดะ
คนโอซาก้าได้รับอิทธิพลจากสิ่งบันเทิงเริงรมย์อย่างพวกละครคาบุกิ พื้นที่จัดเเสดงผลงานอยู่ที่ชั้น 2 และ ชั้น 3 โดยนิทรรศการจะจัดขึ้นทุก 3 เดือน
มาขอพรกับ “Mizukakefudou”
ที่วัด Housenji จริงๆ แล้วที่นี่เป็นสถานที่ที่มีรูปปั้นหินที่ชื่อว่า “Mizukakefudou” (水掛不動) ว่ากันว่า Mizukakefudou จะให้พรในเรื่อง “การค้ารุ่งเรือง” และ “สมหวังเรื่องความรัก” ที่นี่อาจจะแตกต่างจากศาลเจ้าและวัดทั่วไปตรงที่จะต้องสาดน้ำไปที่รูปปั้นขณะอธิฐานสักการะอยู่ ดังนั้นตอนนี้ก็เลยมีมอสปกคลุมบนรูปปั้นเต็มไปหมด
ที่วัด Housenji แห่งนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในถนสายหลัก เลยทำให้คนไม่มากเท่าใดนัก แต่คนที่มาขอพรกับ Mizukakefudou ก็ต้องต่อคิวอยู่เหมือนกัน
โคมไฟที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายเก่าๆที่ “ตรอกวัด Housenji”
เดินไปทางเหนือของวัดจะเป็น “ตรอกวัด Housenji” ในอดีตภายในบริเวณวัดโฮเซ็นจิเคยเป็นที่ตั้งของร้านแผงลอยต่างๆ ปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นและบาร์ตั้งอยู่เต็มไปหมด เป็นสถานที่ที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ พื้นถนนปูด้วยหินมีทางยาวประมาณ 80 เมตร ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกจะเเขวนป้ายที่เขียนว่า “ตรอกวัด Housenji” (法善寺横丁) เหมาะกับการเดินเล่นชิลๆ ยิ่งตอนเย็นๆค่ำๆ โคมไฟเปิดก็ยิ่งสร้างบรรยากาศ แนะนำให้เดินไปบนพื้นหินเรื่อยๆ สัมผัสกับบรรยากาศแสนครึกครื้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org