หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น 1,230,000 คนที่มีอายุครบ 20ปีร่วมฉลองวันบรรลุนิติภาวะ ท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนานชื่นมื่น หากแต่อนาคตของวัยรุ่นญี่ปุ่นกลับต้องเผชิญกับความยากลำบากทั้งจากจำนวนประชากรที่ลดลง และการทำงานท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก
วัยรุ่นชาวญี่ปุ่นร่วมฉลองวันบรรลุนิติภาวะอย่างคึกคัก สาวๆต่างสวมชุดกิโมโนราคาแพง ขณะที่หลายพื้นที่ เช่น เกาะคิวชูและโอกินาวะ บรรดาหนุ่มสาวต่างเฉลิมฉลองด้วยการแต่งตัวประหลาดแหวกแนว หลายคนใช้เงินในการแต่งหน้าทำผมแต่งเล็บ และเช่าชุดกิโมโนมากกว่า 1ล้านเยน โดยต้องจับจองคิวล่วงหน้านานข้ามปี ร้านเสริมสวยและไนท์คลับจำนวนมากเปิดบริการข้ามวันข้ามคืนเพื่อรองรับลูกค้าใหม่วัยกระเตาะ
พิธีฉลองบรรลุนิติภาวะของญี่ปุ่นสืบทอดมาตั้งแต่ยุคซามูไร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเตือนใจบรรดาวัยรุ่นว่าถึงเวลาที่ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองและต่อสังคม แต่ทุกวันนี้วัยรุ่นญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยกลับเห็นการบรรลุนิติภาวะเป็นเพียง “วันปลดปล่อย” ที่สามารถดื่มสุรา สูบบุหรี่ และเที่ยวราตรีได้อย่างเต็มตัว
นับตั้งแต่ยุครุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ คนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นจึงไม่ต้องอนาทรร้อนใจกับชีวิตความเป็นอยู่ และฉลองวันบรรลุนิติภาวะได้อย่างเต็มคราบจนเกิดอุบัติเหตุจากความเมามายมีผู้เสียชีวิตทุกปี รวมทั้งก่อความเดือดร้อนรำคาญใจกับชาวบ้าน
ความอบอุ่นใจกลางอากาศหนาวเหน็บ
พิธีฉลองบรรลุนิติภาวะที่อบอุ่นใจที่สุดน่าจะเป็นพื้นที่ประสบภัยทั้งที่จังหวัดคุมะโมะโตะและฟุกุชิมะ หนุ่มสาวชาวคุมะโมะโตะต่างดีใจที่มีโอกาสได้ร่วมงาน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่แน่ใจว่างานในปีนี้จะมีขึ้นได้หรือไม่ เพราะผลกระทบจากแผ่นดินไหวเมื่อปีที่แล้ว และผู้คนกว่า 10,000คนยังต้องอาศัยในสถานที่พักชั่วคราวอยู่
เช่นเดียวกับหนุ่มสาวที่จังหวัดฟุกุชิมะต่างปลาบปลื้มที่ได้กลับมาร่วมพิธีฉลองบรรลุนิติภาวะที่บ้านเกิดเป็นครั้งแรกในรอบ 6ปี เพราะพื้นที่หลายแห่งเพิ่งพ้นจากสภาพ “พื้นที่ต้องห้าม” จากผลกระทบกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลหลังจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิถล่ม
ส่วนที่ฮอกไกโด หนุ่มสาวฝ่าอากาศที่หนาวเย็นติดลบและหิมะที่ตกหนักหนากว่า 125ซม. เดินทางมาร่วมพิธีบรรลุนิติภาวะ โดยถึงแม้จะมีหนุ่มสาวที่มาร่วมงานเพียงแค่ 5 คนแต่ทุกคนต่างฉลองวันสำคัญของชีวิตอย่างอบอุ่นจนลืมความหนาวเหน็บ
อนาคตสดใสหรือมืดหม่น สมหวังหรือสิ้นหวัง
สถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นได้สอบถามบรรดาวัยรุ่นที่มาร่วมพิธีบรรลุนิติภาวะว่า “อนาคตของญี่ปุ่นสดใสหรือมืดหม่น?” วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยต่างยอมรับว่ากังวลกับอนาคตทั้งเรื่องงานที่หายาก และจำนวนประชากรที่ลดลง ซึ่งหมายความว่าคนหนุ่มสาวที่ทำงานจะต้องแบกรักภาระสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุจำนวนมาก
ในปีนี้ ญี่ปุ่นมีหนุ่มสาววัย 20ปี 1,230,000คน ซึ่งเป็นสถิติที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลในปี 1968 ขณะที่จำนวนเด็กเกิดใหม่ก็ลดลงต่ำกว่า 1ล้านคนเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี
รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามเพิ่มบทบาทของกลุ่มคนหนุ่มสาว เช่น การลดอายุของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจาก 20 ปีเหลือ 18 ปี แต่ผลลัพธ์ปรากฏว่าวัยรุ่นญี่ปุ่นยังคงไปเลือกตั้งน้อยมาก และไม่มีความกระตือรือล้นเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เหล่าวัยรุ่นบอกว่าไม่รู้สึกว่าตนเองจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับญี่ปุ่นได้ จึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีส่วนร่วมทางสังคมและการเมือง
บรรดาหนุ่มสาวญี่ปุ่นต่างรู้สึกถึงอนาคตที่ยากลำบาก หลายคนคาดหวังเพียงแค่มีชีวิตที่เรียบง่าย มีครอบครัวที่อบอุ่น หากแต่คนหนุ่มสาวเหล่านี้ก็ไม่มั่นใจว่าความหวังของพวกเขาจะเป็นจริงได้เพียงไหน? ในวันสำคัญวันนี้ หลายคนจึงทำได้เพียงให้กำลังใจตัวเองว่า “ถึงหนทางข้างหน้าจะมืดหม่น แต่ต้องทำหัวใจให้สว่างไสว”
