ถึงแม้นางโคอิเกะจะไม่ใช่ “มือใหม่”ทางการเมืองเพราะเธอเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีป้องกันประเทศ, รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นสส.มายาวนาน แต่หลังจากชนะศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงโตเกียวเมื่อเดือนสิงหาคม รัศมีทางการเมืองของเธอเจิดจรัสยิ่งกว่านักการเมืองคนใดในแดนอาทิตย์อุทัย
ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯโตเกียว ย้ำแค้นพรรคLDP
หลังจากนายโยอิชิ มัตสุโซเอะ ต้องลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯกรุงโตเกียวเพราะข้อหาอื้อฉาวด้านการเงิน นางโคะอิเกะประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง หากแต่พรรค LDP ต้นสังกัดของเธอ กลับปฏิเสธที่จะส่งเธอลงสนามในนามพรรค และยังขู่จะลงโทษสมาชิกพรรคที่สนับสนุนช่วยเธอหาเสียง ทำให้เธอต้องลงสมัครในนามอิสระ
นางโคะอิเกะชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ชัยชนะของเธอะจึงทำให้บรรดาผู้อาวุโสในพรรค LDP เสียหน้าอย่างมาก และแน่นอนว่าเป็น “รอยแค้น” ที่เธอรอวันชำระ
ทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง นางโคะอิเกะเดินหน้าชนระบบราชการที่แฝงด้วยเงาอำนาจของพรรค LDP เช่น การระงับการย้ายตลาดซึคิจิ ตลาดค้าส่งปลายักษ์ใหญ่กลางกรุงโตเกียว
อ่านเพิ่มเติม ผู้ว่าโตเกียวสั่งเปรี้ยง เลื่อนย้ายตลาดปลาสึกิจิ
และที่สำคัญคือ การตัดลดงบประมาณการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกอย่างมหาศาล ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นโครงการ “ทำมาหากิน” ของนายโยชิโร โมริ ประธานคณะกรรมการจัดมหกรรมกีฬาโตเกียวโอลิมปิก ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ทรงบารมีในพรรค LDP
อ่านเพิ่มเติม ศึกการเมืองเบื้องหลังโตเกียวโอลิมปิก 2020
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าหญิงแห่งโตเกียวได้ใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ไม่เพียงนโยบายปฏิรูปหลายอย่างของเธอ แต่คอการเมืองในญี่ปุ่นเชื่อว่า พันธมิตรฝ่ายค้านไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะท้าทายอำนาจของพรรค LDP แต่ “คนวงใน” อย่างนางโคะอิเกะอาจสามารถทำได้
รวมพันธมิตร ตั้ง “ห้องเรียนการเมือง” ต่อยอดสู่พรรคทางเลือก
ถึงแม้นางโคะอิเกะจะยังสังกัดพรรค LDP แต่แน่นอนว่ารอยแค้นในอดีตทำให้มองหน้ากันไม่ติด เธอจึงเลือกสร้างถนนสู่ดวงดาวของตัวเองด้วยการตั้ง “ห้องเรียนแห่งความหวัง” เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการเมืองให้กับคนรุ่นใหม่
ห้องเรียนการเมืองนี้ไม่เพียงรวบรวมสมาชิกพรรค LDP ในสายของนายโคอิซุมิ แต่เธอยังส่งเทียบไปเชิญนายโทรุ ฮาชิโมโต อดีตพ่อเมืองโอซากา ซึ่งจำต้องถอนตัวจากหน้าฉากทางการเมืองหลังพ่ายแพ้การลงประชามติเรื่องการจัดตั้ง “มหานครโอซากา” ในปี 2015 แต่บารมีของนายฮาชิโมโตยังคงกว้างขวางในแถบคันไซ และยังจะขยายไปสู่การเมืองระดับประเทศอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม "โทรุ ฮาชิโมโต" พ่อเมืองพยศเจ้าของแนวคิด "มหานครโอซากา"
บรรดาแกนนำพรรครัฐบาลต่างรู้ดีว่า “ห้องเรียนแห่งความหวัง” ของนางโคะอิเกะพร้อมจะเปลี่ยนโฉมไปเป็นพรรคการเมืองได้เมื่อถึงคราวเลือกตั้งใหญ่ และหากเธอมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในตำแหน่งผู้ว่าฯกรุงโตเกียว พรรคการเมืองใหม่นี้คือคู่แข่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าพันธมิตรฝ่ายค้านในปัจจุบัน
หลังจากนางโคะอิเกะรับตำแหน่งผู้ว่าฯกรุงโตเกียว ไม่มีวันไหนที่เธอจะไม่เป็นข่าว การงัดข้อระหว่างเธอกับกลุ่มอำนาจเก่าถูกใจชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แต่ในทางการเมืองเธอกลับตกที่นั่งลำบาก เพราะฐานเสียงในสภากรุงโตเกียวล้วนแต่เป็นของพรรค LDP เกือบทั้งหมด แต่หากเธอทำงานปฏิรูปตามที่หาเสียงได้สำเร็จ อนาคตทางการเมืองของเธอก็จะเจิดจรัสยิ่งขึ้น
นางโคะอิเกะจะหมดวาระในตำแหน่งผู้ว่าฯกรุงโตเกียวก่อนมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเปิดฉากในปี 2020 ถึงวันนั้นเธอต้องตัดสินใจว่าจะลงเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ เมืองหลวงสมัยที่ 2 เพื่อสร้างชื่อในมหกรรมโอลิมปิก หรือจะหวนคืนสู่การเมืองระดับประเทศ ซึ่งเธอคงไม่ได้คาดหวังแค่ตำแหน่ง สส. หรือ สว. อีก แต่ไปไกลถึงเก้าอี้ผู้นำสูงสุดแห่งญี่ปุ่น.
