เมื่อพูดถึง อิริโอะโมะเตะ (西表島) คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะพากันคิดถึงแมวพันธุ์อิริโอะโมะเตะ แมวประจำเกาะอิริโอะโมะเตะ ที่ใกล้จะสุญพันธุ์ แต่มีคนจำนวนไม่น้อย (แม้แต่คนญี่ปุ่นเอง) ที่ไม่รู้ว่าเกาะอิริโอะโมะเตะนั้นอยู่ที่ไหน และเป็นเกาะแบบไหน วันนี้เราจึงพาทุกคนมารู้จักเกาะอิริโอะโมะเตะกัน
คลังสมบัติจากธรรมชาติ
เกาะอิริโอะโมะเตะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะอิชิกาคิ ห่างจากเกาะหลักโอกินาว่าประมาณ 460 กิโลเมตร และห่างจากไต้หวัน 200กิโลเมตร ซึ่งด้วยระยะทางที่ห่างจากโอกินาว่าถึง 400 กิโลเมตร จึงยากที่จะมองว่าเกาะอิริโอะโมะเตะเป็นส่วนหนึ่งของโอกินาว่า
เกาะอิริโอะโมะเตะ ถูกปกคลุมด้วยป้าไม้เมืองร้อนกว่า 90% เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเกาะหลักของโอกินาว่า และนอกจากจะมีแมวพันธุ์อิริโอะโมะเตะที่สุดแสนหายากแล้ว ยังมีเหยี่ยวพันธุ์ Crested Serpent เต่าพันธุ์ Semaru Hako และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสัตว์แต่ละชนิดที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นคลังสมบัติจากธรรมชาติเลยทีเดียว ดังนั้นหลายคนจึงเรียกเกาะแห่งนี้ว่า “กาลาปากอสตะวันออก”
เกาะแห่งนี้ ยังเหมาะกับการพายเรือคายัค เพราะมีลำธารน้ำใสสะอาดทอดยาวและแยกเป็นกิ่งเป็นก้าน อาจเป็นเพราะชาวบ้านบนเกาะจะอาศัยอยู่ตามชายฝั่งเท่านั้น จึงทำให้เราสามารถพายเรือคายัคผ่อนคลายอารมณ์ได้อย่างเต็มที่
แหล่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
แม้ช่วงนี้จะมีนักท่องเที่ยวรักษ์ธรรมชาติพากันมาเที่ยวชมผ่าไม้และน้ำตกของเกาะอิริโอะโมะเตะ แต่ความพิเศษของเกาะนี้ก็คือ “การอยู่ร่วมกัน” ของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ซึ่งได้แก่ “ทะเล” และ “ภูเขา”
ข้างๆเกาะอิริโอะโมะเตะนั้น มีแหล่งปะการังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่ถูกเรียกว่า “Sekisei Shouko (石西礁湖)” ที่เต็มไปด้วยเหล่าปะการังกว่า 300 ชนิด และถ้าไปกลางทะเลที่ไกลจากชายฝั่งก็จะสามารถทักทายเต่าทะเลที่ว่ายน้ำช้าๆด้วย
สิ่งที่เชื่อมทะเลและป่าไม้เข้าไว้ด้วยกันก็คือ แม่น้ำลำธารจากป่าชายเลน แม่น้ำป่าชายเลนที่ผสมผสานไปด้วยน้ำทะเลและน้ำจืดนั้น ถือได้ว่าเป็นคลังสมบัติที่เต็มไปด้วยพลังของเกาะแห่งนี้ นอกจากนี้บนเกาะแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยสัตว์หายากมากมายไม่ว่าจะเป็นปูมะพร้าว ปูยักษ์ หอยยักษ์ แม้กระทั่งปลาไหลยักษ์
ชาวบ้านของเกาะแห่งนี้ใช้น้ำจากแม่น้ำป่าชายเลนมาตั้งแต่อดีต ทำให้พวกเขารักและห่วงแหนเกาะแห่งนี้มาก และถ้าขึ้นเรือออกห่างไปอีกนิด ก็จะเจอเกาะที่ไร้ผู้คนด้วย นับได้ว่าห้อมล้อมด้วยธรรมชาติของแท้เลยจริงๆ
และของที่สื่อถึงหน้าร้อนได้ดีที่สุดสำหรับเกาะอิริโอะโมะเตะ ก็คือ “สับปะรด” โดยในหน้าร้อนบนเกาะแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสับปะรดและมะม่วงที่เปรี้ยวอมหวาน หอมหวานสุดๆ
วันที่ 15 พฤศจิกายนถึง 15 กุมภาพันธ์ของทุกปี บนเกาะจะประกาศยกเลิกการห้ามล่าสัตว์ และจะเริ่มล่า “หมูป่า” ซึ่งสำหรับชาวเกาะแล้ว ถือว่าเป็นพลังงานอย่างดี แม้จะฟังดูโหดร้าย แต่ถ้าใครอยากเข้าไปชมก็ห้ามพลาดช่วงนั้นนะ
ดอกไม้แสนสวยที่มีโอกาสดูได้เพียงคืนเดียว
สิ่งที่ห้ามลืมที่จะพูดถึงเลยก็คือ “ดอกจิกทะเล (Barringtonia)” โดยเราจะมีโอกาสได้ชมในคืนแรกของฤดูร้อน เพราะหลังจากนั้น เจ้าดอกจิกทะเลนี้จะร่วงโรยราวกับที่สิ่งเราเห็นเมื่อคืนเป็นเพียงภาพลวงตา แต่ภาพของดอกจิกทะเลที่บานสะพรั่งเผยสีชมพูสวยสดอยู่ข้างๆป่าชายเลนนั้น นับได้ว่าเป็นภาพที่เราจะไม่มีวันลืมได้เลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ anngle.org