สวัสดีครับ ผม Mr.Leon มาแล้ว วันนี้ผมอยากเล่าเกี่ยวกับลักษณะนิสัยหลายแบบหลายสไตล์ของคนญี่ปุ่นให้เพื่อนๆ ฟังครับ
ครั้งล่าสุดที่ผมกลับญี่ปุ่น ได้มีโอกาสไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่ร้านเหล้าร้านหนึ่งแถวๆ มหาวิทยาลัยที่เคยเรียน ในร้านมีกลุ่มลูกค้าที่ดูแล้วน่าจะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยและมาสังสรรค์ร้านเดิมๆ กันอยู่เป็นประจำ ร้านนี้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยจึงเน้นกลุ่มลูกค้านิสิตนักศึกษาและอาจมีคนทำงานละแวกนั้นบ้าง จึงทำให้ราคาอาหารต่างๆ ไม่แพงเกินไปนัก แต่ร้านค่อนข้างแคบมาก ต้องนั่งเรียงกันตรงเคาน์เตอร์ ถ้าไปหน้าหนาวถอดเสื้อโค้ทแขวนตามฝาผนังก็เต็มแล้วล่ะครับแถมยังต้องนั่งเบียดๆ กัน แต่จะว่าไปคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ชอบฟิลลิ่งประมาณนี้มากเลยครับ แบบร้านเดิมๆ เจ้าประจำ บ้านๆ กันเองๆ บางคนไม่ใช่ไม่มีฐานะนะครับ มีเงินเดือนดี มีการงานดี แต่การที่ได้ทำในสิ่งเดิมที่คุ้นเคยมีส่วนทำให้จิตใจรู้สึกปลอดภัย นั่นเอง
ณ ตอนนั้นพวกผมสั่ง 焼きうどん Yaki-Udon (อุด้งผัดซอส ใส่กระหล่ำปี หอมหัวใหญ่ หมู) เราพูดคุยเรื่องทั่วไปรวมถึงเรื่องรุ่นพี่คนหนึ่งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย รุ่นพี่คนนี้ที่จริงที่บ้านรวยมาก คุณพ่อพี่เขาเป็นนักเขียนชื่อดัง แต่พี่เขาชอบทำตัวสมถะ ใครไม่รู้จักมาก่อนนี่นึกว่าชายเร่ร่อนได้เลยทีเดียว อย่างหนึ่งเพราะเขาผอมมากๆ เสื้อผ้าก็ใส่แบบเก่าแล้วยังรุงรัง เขาบอกกับพวกผมเองว่าไม่รู้ทำไมไม่ค่อยมีคนชอบเขาเลย ทั้งเพื่อนรุ่นเดียวกันหรือรุ่นน้อง ตอนที่เจอพี่เขาครั้งแรกคือตอนที่ผมเริ่มเรียนปี 1 แล้วไปสมัครเข้าชมรมปีนเขา ชมรมเดียวกับพี่เขานั่นแหละครับ จากนั้นก็มีชวนกันไปดื่มสังสรรค์กันบ้างเป็นระยะๆ เวลาพี่เขาจะไปด้วยเขาจะเลือกร้านที่ค่อนข้างหรูหน่อย อาหารจะแพงกว่าร้านที่พวกผมชอบไปกัน พอทุกคนนั่งครบปุ๊บแกจะควักตังค์แบ็งค์หมื่นเยน ( ประมานสามพันบาท) ออกมาวางบนโต๊ะก่อนสั่งอาหารทุกครั้ง .. พวกผมก็แอบฮากันไป จุดนี้เป็นจุดดีอย่างหนึ่งของพี่แกที่ชอบเลี้ยงน้องๆ (พี่เขาทำแบบนี้แสดงว่าวันนี้ผมจ่ายหมื่นเยน คือถ้าไม่พอคนอื่นๆ ก็เฉลี่ยช่วยกันอีกนิดหน่อย ปกติแล้วคนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยเลี้ยงกันเท่าไหร่แต่คนนี้สปอร์ตมาก )
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในเมืองหลวง ก็เลยอยากไปเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์กัน ชวนๆ กันไป 3 คนมีผม นายเค และสาวยู(เป็นสาวสวยน่ารักมาก) วันที่คุยกันอีกครั้งเพื่อนัดแนะวันเวลา ปรากฏว่ารุ่นพี่คนที่ผมเล่าข้างต้นเขาได้ยินเลยบอกว่าจะไปด้วย ก็เลยตกลงไปเที่ยวกันรวมเป็น 4 คน ผมรู้แล้วว่าจะเป็นยังไง!?!? แต่นายเคไม่รู้ว่ารุ่นพี่เป็นยังไง o(^_-)O สรุปวันนั้นที่ไปเที่ยวกันพี่เขาไม่แนะนำอะไรๆ พวกผู้ชายเลยครับ เทคแคร์สาวยูตลอด ขนาดเข้าคิวยังเอาตัวมากั้นไม่ให้คนอื่นเข้า จะเก็บที่ไว้ให้สาว คือที่จริงแกมีธรรมชาติแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว แบบว่าเทคแคร์สาวแบบออกนอกหน้าแบบนี้แหละครับ นายเคปกติเป็นคนที่ไม่เคยโกรธใคร กลับจากเที่ยวดิสนี่ย์ฯ แล้วเขาบอกเขารู้แล้วว่ารุ่นพี่เป็นยังไง ฮ่าๆ
คุยถึงรุ่นพี่คนนี้อีกนิด เวลาที่รุ่นพี่คนนี้ไปกินเหล้าเมาแล้วเมาปลิ้น ชวนทะเลาะมาก ครั้งหนึ่งแกเคยไปเมากร่างยากุซ่าแถวชินจูกุ ทั้งๆ ที่เป็นนักศึกษาตัวน้อยๆ จนยากุซ่าบอกเป็นอะไรมากไหมไอ้น้อง !!!! (´・Д・)」 ทำให้รุ่นน้องปีหนึ่งต้องไหว้ยากุซ่าแล้วช่วยลากตัวพี่แกออกมาแทบไม่ทัน (−_−;)ผมคุยกับเพื่อนเรื่องพี่คนนี้แล้วความหลังเก่าๆ มากมายก็หวนกลับมา สมัยนั้นพี่เขาเป็นแบบที่เล่าแต่ใครจะรู้ว่าทุกวันนี้เขาเป็นอาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศส อยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังระดับหนึ่งในท็อป 5 ของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่เขาเปลี่ยนบุคลิกหรือสไตล์การแต่งตัวหรือยังหนอ ... แค่จะบอกว่าบางทีเริ่มต้นอาจจะไม่สวยนัก แต่ชีวิตก็เดินไปตามทางจนได้ดีทีเดียว บางทีเราก็ไม่ควรมองใครแค่ภายนอกแล้วตัดสินจากความรู้สึกที่ตามองเห็นเท่านั้นครับ ^ ^
มีรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง ที่ผมอยากเล่า เพราะผมอยากบอกให้ทุกคนพยายามรักษามิตรภาพและคนที่ดีกับเราไว้นานๆ ตอนที่ผมเป็นวัยรุ่นเป็นนักศึกษามีวีรกรรมการดื่มเมาหลายครั้ง รุ่นพี่คนนี้เขาเป็นคนดีมากๆ เขาชอบช่วยเหลือทุกคนและไม่เห็นแก่ตัวด้วย แต่พวกผมไม่รู้หรอกตอนนั้นว่าเขาใจดีแค่ไหน เป็นคนดีแค่ไหน เขาเดินทางจากบ้านที่จังหวัดกุมมะ เข้ามาเรียนในเมืองโตเกียวไปกลับทุกวัน ขาละ 2-3 ชั่วโมง พวกผมคิดว่าพี่คนนี้บ้าจริงๆ วันหนึ่งผมเมามาก แบบยืนไม่ไหวก็มีพี่คนนี้ช่วยพาขึ้นรถไฟไปส่งที่หอพัก จากร้านแถวมหาวิทยาลัยไปหอพักผมก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง แถมดึกแล้ว ผมก็ไม่ได้ชวนแกนอนที่ห้อง แกก็กลับบ้านไม่ได้แล้วเพราะรถไฟที่จะกลับบ้านแกหมดแล้ว มีแต่รถขากลับไปมหาวิทยาลัย แกก็กลับไปนอนในห้องชมรม เรื่องเล็กๆ แค่นี้เองตอนเด็กๆ ผมไม่ทันคิดถึงใจเขาว่า อุตส่าห์มาส่งแล้วตัวเองก็ลำบากกลับบ้านไม่ได้ ถ้าตอนนั้นผมชวนเขานอนที่หอก็คงจะดี ตอนนี้แกเป็นข้าราชการที่จังหวัดบ้านเกิดแกเอง ที่จริงอิมเมจของงานราชการที่ญี่ปุ่นถึงจะเป็นคนไม่เก่งมากแต่ก็ไม่มีวันถูกให้ออกจากงาน ดังนั้นคนจึงพยายามเข้าทำงานข้าราชการกัน แต่คนเก่งและเอาการเอางานแบบพี่เขาน่าจะทำงานที่ท้าทายมากกว่านี้ ผมรู้สึกเสียดายความสามารถพี่เขาเหมือนกันนะเนี่ย แต่แกคงเลือกทางของแกแล้ว ...
จะเห็นว่าคนญี่ปุ่นมีหลายลักษณะมากๆ เลย เรื่องที่ผมเล่าก็อยากจะให้เพื่อนๆ เห็นมุมมองอีกแบบเกี่ยวกับคนญี่ปุ่นครับ