xs
xsm
sm
md
lg

คนญี่ปุ่นรักกันจริงๆ หรือไม่ อยากหย่าแต่ทำไมต้องทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มีเหตุผลมากมายที่นำพาให้คนเรามารักกัน จนตกลงแต่งงานอยู่กินด้วยกัน แต่สภาพแวดล้อมปัจจุบันหลายคู่อยู่กันต่อไม่ได้

มีเคสตัวอย่างจากสาวๆ ที่แต่งงานแล้วและดูภายนอกว่ามีความสุขในครอบครัวมาก ไม่ว่าจะดูจากรูปที่ถ่ายคู่กันกับสามีพวกเธอช่างมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ใครๆ ก็มองว่ามีความสุขจนน่าอิจฉา แต่ความจริงแล้วอาจจะแค่ต้องการแสดงให้ชาวโลกเห็นว่ามีความสุข ลึกๆ แล้วอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้ ในสังคมปัจจุบันมีคนหลายคนหลายคู่มากที่แสดงให้คนภายนอกเห็นว่าตัวเองเป็นคู่รักครอบครัวที่มีความสุขแต่ความจริงไม่ใช่

ต่อไปนี้เป็นแบบสำรวจจากบริษัทประกันแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่ศึกษาและออกแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งงาน กลุ่มเป้าหมายคือคู่แต่งงานอายุระหว่าง 30-60 ปี จำนวน 800 คน คำถามคือ "มีความคิดว่าอยากหย่าบ้างไหม ?" สรุปว่า มีกลุ่มเป้าหมายที่มีความคิดว่าอยากหย่าอยู่บ่อยๆ 4% กลุ่มเป้าหมายที่คิดว่ามีความคิดอยากหย่าขึ้นมาบ้างเป็นบางครั้ง 26% รวมแล้วมีกลุ่มเป้าหมายที่เคยเกิดความคิดว่าอยากหย่าเป็นอัตราส่วนถึง 1 ใน 3 ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 36% เป็นชาย 26% ซึ่งผู้หญิงกลุ่มดังกล่าวมีอายุช่วงระหว่าง 30-39 ปี คิดเป็น 40%

เหตุใดสาวๆ ญี่ปุ่นช่วงอายุ 30-39 ปี ที่แต่งงานแล้วจึงมีความคิดว่าอยากหย่า แต่หย่าไม่ได้

ตัวอย่างจากสาวคนที่ 1 อายุ 34 ปี ทำงานเกี่ยวกับการสอนดนตรี
คือดิฉันได้ร่วมกันซื้อที่อยู่อาศัยโดยใช้ชื่อผ่อนร่วมกันกับสามี เมื่อ 3 ปีที่แล้วได้ร่วมกันซื้อคอนโดที่โตเกียว จากนั้นเราทั้งคู่ก็ทำงานยุ่งมากๆ วันๆ แทบไม่ได้เจอกัน ห้องก็แยกกันคนละห้อง เรื่องความสัมพันธ์ทางเพศก็ไม่ได้มีมา 3 ปีแล้ว เริ่มแรกที่ไม่อยากมีอะไรด้วยเพราะว่าสามีสูบบุหรี่จัดมาก ฉันรู้สึกว่ามีกลิ่นเหม็น จากนั้นก็ไม่มีอะไรกันเลย ตอนนี้ก็ไม่ค่อยสุงสิงกันเท่าไหร่ ก็รู้สึกอยากหย่าเหมือนกัน แต่ช่วยไม่ได้ที่กู้ซื้อห้องร่วมกันมีภาระต้องผ่อนด้วยกันอีกนานก็คงต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป

จะเห็นว่าจากตัวอย่างนี้มีอีกหลายคู่เลยที่เป็นเช่นนี้ ถ้าต่างคนต่างซื้อหรือชื่อแยกกัน คงมีคู่ที่จะหย่ากันหลายคู่ทีเดียว ดังนั้นถ้ากรณีเคสแบบนี้ต้องการที่จะหย่ากันจริงๆ คงต้องปรึกษากันมากเลยทีเดียว

ตัวอย่างที่ 2 อายุ 31 อาชีพพนักงานบริษัทที่มีชื่อเสียง
คือที่จริงตอนนี้ดิฉันมีรูปแบบชีวิตมาตรฐานที่ดี ถ้าหย่าแล้วอาจทำให้มาตรฐานความเป็นอยู่แย่ลงจึงหย่าไม่ได้ ครั้งหนึ่งเคยเจอว่าสามีไปใช้บริการเว็บไซต์หาคู่นอน เห็นรูปสาวเซ็กซี่ส่งแลกเปลี่ยนไปมากับทางสามี ฉันรู้สึกว่าจิตใจฉันเศร้ามาก รับไม่ได้ แต่ที่หย่าไม่ได้เพราะที่อยู่กับสามีคนนี้ทำให้ชีวิตฉันสุขสบาย ฉันมีความเป็นอยู่ที่หรูหรา สบายทุกอย่าง ดังนั้นจึงยอมอดทนเอา

จากตัวอย่างนี้แม้ว่าสาวๆ จะช้ำใจมาก แต่ช่วยยากมากถ้าเธอไม่ยอมรับสภาพและเลือกจะอยู่กับชีวิตหรูหราที่กล้ำกลืน

ตัวอย่างที่ 3 อายุ 35 ปี อาชีพแม่บ้าน
เพราะมีลูกน้อย ตอนนี้มีลูกแล้ว พอคลอดลูกคนที่สองก็เริ่มมีปัญหาระหว่างกัน สามีทำงานยุ่งมาก และไม่เคยช่วยเรื่องงานบ้านหรือช่วยเลี้ยงลูกเลย แล้วบอกให้ฉันทำ ฉันเองก็เลยรู้สึกไม่ค่อยพอใจ สามีบอกว่าเขาทำงานข้างนอกเหนื่อยมากแล้วให้ฉันทำงานบ้านและเลี้ยงลูกไป ฉันกับสามีทะเลาะกันบ่อยมาก แต่ว่ามีลูกด้วยกันแล้วทำให้ฉันหย่าไม่ได้ ถ้าลูกโตขึ้นมาอีกหน่อยแล้วฉันคงต้องออกไปหางานทำอีกครั้ง

กรณีเช่นนี้แนะนำให้สาวๆ อย่าคิดมาก และลองหางานที่ทำได้ทำเพื่อให้รู้สึกมีคุณค่า

ตัวอย่างที่ 4 อายุ 30 ปี พนักงานบริษัทไอที
ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับพ่อแม่สามี พวกท่านรักเอ็นดูเราเหมือนลูกจริงๆ จึงไม่อยากเสียความไว้ใจที่เขาให้เราไป แม้ว่าจะแต่งงานมาแล้วกว่า 2 ปี และความคิดระหว่างฉันและสามีเริ่มไม่ตรงกันมากขึ้นๆ จูนกันยากมากจึงทำให้การสื่อสารกันน้อยลงมาก เดินสวนกันบางทียังไม่ทักกันเลย ก็ไม่รู้จะอยู่กันได้นานแค่ไหน แต่กับคุณแม่คุณพ่อเขาเรามีความรักกันดีมาก ส่วนทางสามีเขาก็ไม่ค่อยติดต่อกับทางบ้านเขานัก แต่ด้วยความที่เขาเป็นลูกคนเดียวทางบ้านเขาเลยรักฉันมากและคิดว่าฉันเป็นลูกอีกคนไปแล้ว

และนี่คือตัวอย่างจากสาวๆ ทำให้เห็นหลายเหตุผลที่ต้องจำทนอยู่ด้วยกันทั้งๆ ที่เกิดปัญหาระหว่างกัน อย่างไรก็ตามใครเกิดปัญหาลักษณะนี้ก็ค่อยๆ หาทางออกและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันให้มาก
กำลังโหลดความคิดเห็น