กลาโหมญี่ปุ่นทุ่มงบประมาณสูงเป็นประวัติการณ์ รับมือจีนขยายอำนาจ

กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นยื่นของบประมาณสูงเป็นประวัติการณ์ โดยระบุว่าเพื่อรับมือการขยายอำนาจทางทะเลของประเทศจีน

กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นได้ยื่นของงบประมาณจากรัฐบาลในปีหน้า มูลค่ากว่า 5 ล้านล้านเยน โดยร่างงบประมาณดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 จากงบประมาณของปีปัจจุบัน โดยระบุว่าจะนำร่างเงินงบประมาณส่วนหนึ่งไปใช้จัดซื้อรถหุ้มเกราะ 36 คันซึ่งสามารถขนส่งด้วยอากาศยาน รวมทั้งจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์สำหรับการขนส่งและการกู้ภัย และอากาศยานขนส่งออสเพรย์ใหม่จำนวน 12 ลำ

การเพิ่มงบประมาณทางทหารของญี่ปุ่น สอดคล้องกับการผลักดันร่างกฎหมายความมั่นคงของรัฐบาลนายกฯ ชินโสะ อะเบะ ที่จะเปิดทางให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นสามารถปฏิบัติการในเชิงรุกมากขึ้น รวมทั้งสามารถร่วมปฏิบัติการรบในต่างแดนได้ด้วย ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากประชาชนจำนวนมากว่า กฎหมายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ และจะเปิดทางให้ญี่ปุ่นก่อสงครามได้อีกครั้ง

รัฐบาลญี่ปุ่น ระบุชัดเจนว่า จำเป็นต้องเพิ่มศักยภาพการปกป้องพื้นที่เกาะในทะเล เพื่อรับมือการขยายอิทธิพลทางทะเลของจีน เช่น การถมทะเลสร้างลานจอดเครื่องบินรบในพื้นที่พิพาทในทะเล ซึ่งจีนอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกับญี่ปุ่น และหลายประเทศ เช่น เวียดนาม และฟิลิปปินส์

หลังเกิดเหตพิพาทเรื่องเกาะเซ็นกากุ หรือที่ฝ่ายจีนเรียกว่า เกาะเตี้ยวอี๋ว์ ฝ่ายจีนได้ส่งทั้งเรือประมงและเรือลาดตระเวนเข้ามาในน่านน้ำพื้นที่พิพาทอยู่เป็นประจำ ขณะที่กองทัพของญี่ปุ่นสามารถรับมือได้ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากฐานทัพที่ใกล้ที่สุด อยู่ที่หมู่เกาะโอกินาวะ ซึ่งค่อนข้างไกลจากพื้นที่พิพาท นอกจากนี้ ยุทธโธปกรณ์ของญี่ปุ่นก็ถูกจำกัดตามกฎหมายตั้งแต่สมัยสงครามโลก ทำให้แสนยานุภาพทางการรบของฝ่ายญี่ปุ่นด้อยกว่าของจีนอยู่มาก.