ช่วงจบการศึกษาของนักเรียนทั่วแดนอาทิตย์อุทัย นักเรียนส่วนใหญ่จะเฉลิมฉลองอย่างเอิกเกริก หากแต่ในชนบทห่างไกลของญี่ปุ่น ยังมี “โรงเรียนสุดขอบฟ้า” แห่งหนึ่ง ซึ่งมีนักเรียนเพียงแค่ 7 คน และคุณครูก็ได้เตรียมของขวัญจากใจไว้ให้ลูกศิษย์ที่รักในโอกาสสำเร็จการศึกษาด้วย
ที่หมู่บ้านห่างไกลบนภูเขาในเมืองฮิดะ จังหวัดกิฟูของญี่ปุ่น มีโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งมีนักเรียนทั้งหมดเพียงแค่ 7 คน โดยเป็นนักเรียนมัธยมปลาย 3 คน และนักเรียนประถม 4 คน โดยปีนี้ อิชิบาชิ มาโนรุ และ โอคิตะ ยูตะ ได้จบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย โดยคุณครูประจำชั้น ทาบาตะ ทากะยูคิ ได้เตรียมของขวัญพิเศษไว้ให้กับนักเรียนทั้งคู่
ด้วยสภาพที่ขาดแคลน ครูทากะยูคิไม่มีสิ่งของที่มีราคาค่างวดจะมอบให้นักเรียนทั้งคู่ จึงใช้ชอล์กวาดภาพนักเรียนทั้งสองคนบนกระดานดำ แทนคำอวยพรแด่ลูกศิษย์ที่กำลังจะก้าวไปสู่โลกของผู้ใหญ่
ครูทากะยูคิ บอกว่า “น่าเสียดายที่ของขวัญชิ้นนี้ไม่อาจนำกลับบ้านไปได้ จึงขอให้นักเรียนบันทึกไว้ในความทรงจำ”
ครูทากะยูคิสอนวิชาเคม และไม่เคยเรียนวาดรูป หากแต่ที่ครูสามารถวาดรูปนักเรียนทั้งคู่ได้เหมือนกับตัวจริง ก็เพราะทั้งคู่เป็นลูกศิษย์เพียงสองคนที่ครูได้สอนมาตลอดสามปี และครูทากะยูคิก็ต้องการทำให้ลูกศิษย์ที่รักดีใจในวันจบการศึกษา
ครูทากะยูคิใช้เวลาว่างค่อยๆวาดภาพลูกศิษย์ทั้งสองคน รวมนานกว่าหนึ่งสัปดาห์จนเสร็จสิ้น ซึ่งครูทากะยูคิ บอกว่า “หากเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ คงไม่มีเวลาทำแบบนี้อย่างแน่นอน”
โรงเรียนบนดอยแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองราว 20 กิโลเมตร ความจริงแล้ว นักเรียนเกือบทั้งหมดเคยอาศัยอยู่ในตัวเมือง หากแต่ผู้ปกครองหวังให้ลูกหลานเติบโตขึ้นท่ามกลางธรรมชาติ จึงย้ายจากตัวเมืองมาอยู่ในชนบทห่างไกลตั้งแต่เด็ก
เมื่อปีที่แล้ว อิชิบาชิ เคยไปประกวดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษที่ตัวอำเภอ เขาเล่าว่า โรงเรียนของเขาอยู่ในเขตชนบท ซึ่งขาดแคลนทุกอย่าง ไม่มีร้านสะดวกซื้อ ไม่มีไฟจราจร ไม่มีรถยนต์ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นศูนย์ ช่วงที่ย้ายมาอยู่ใหม่ๆ เขาทำใจรับไม่ได้กับความกันดาร และไม่เข้าใจความคิดของพ่อที่ย้ายมาจากในเมืองอันแสนสุขสบาย
แต่หลังจากได้ใช้ชีวิตกับชาวบ้าน เขาจึงสัมผัสได้ว่าเพราะที่นี่ขาดแคลนทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะฉะนั้นผู้คนจึงต้องเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกันจึงจะมีชีวิตอยู่ได้ ไม่นานอิชิบาชิก็เข้าใจว่า “ความสุขที่แท้จริงคืออะไร”
วันนี้ นักเรียนทั้งสองคนบอกว่า “มาอยู่ที่ชนบทแบบนี้ มีความสุขจริงๆ” อิชิบาชะบอกว่าอยากเป็นเภสัชกร ส่วนโอคิตะอยากเป็นช่างผลิตรถยนต์ ทั้งคู่จึงต้องอำลาโรงเรียนบนดอยแห่งนี้ เพื่อไปศึกษาต่อ
ขณะที่ชั้นประถมศึกษา มีนักเรียนจบการศึกษาแค่หนึ่งคน คือน้องสาววัย 11 ขวบของอิชิบาชิ สาวน้อยกล่าวอำลาทั้งน้ำตาว่า “ตอนมาถึงใหม่ๆ ฉันรู้สึกเหงามาก เพราะไม่มีเพื่อนนักเรียนเลยสักคนเดียว แต่ต่อมาจึงค้นพบว่าถึงแม้จะไม่มีเพื่อนนักเรียน แต่รอบตัวๆ ก็มีสิ่งต่างๆ เป็นเพื่อนมากมาย โรงเรียนแห่งนี้ทำให้ฉันมีเวลาอันแสนสุขอย่างแท้จริง”.