ญี่ปุ่นจะเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการตรวจค้นยาเสพติด หลังพบว่ามีการลักลอบนำเข้าจากประเทศไทยและเอเชียเพิ่มมากขึ้น พร้อมเตือนให้ระวังการนำยารักษาโรคที่มีส่วนผสมของยากระตุ้นประสาทเข้าประเทศญี่ปุ่น จะมีความผิดอาญา
สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ปริมาณของยากระตุ้นประสาทที่ยึดได้เมื่อปีที่แล้วมีปริมาณสูงสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และชี้ว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น เพราะมีการลักลอบนำยาเหล่านี้เข้าญี่ปุ่นจากประเทศในเอเชีย เช่น จีนและไทย
เมื่อปีที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นยึดยากระตุ้นประสาทไว้ได้ 487.5 กิโลกรัม ซึ่งมีมูลค่าราว 282 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย 45 กรณีมาจากจีน 27 กรณีจากฮ่องกง และ 19 กรณีจากไทย ซึ่งคิดเป็นถึงร้อยละ 60 ของกรณีทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นสงสัยว่า กลุ่มผู้ลักลอบนำเข้ายาเสพติดอาจใช้คนไทยเป็นผู้ขนยา หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีมาตรการยกเว้นวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยเมื่อปี 2556
ทางการญี่ปุ่นระบุว่า จะเพิ่มมาตรการตรวจค้นยาเสพติดตามสนามบินและสถานที่ต่างๆ พร้อมเตือนว่ายารักษาโรคบางชนิดที่มีส่วนผสมของยากระตุ้นประสาท ที่เป็นยาถูกต้องตามกฎหมายในบางประเทศ อาจถือเป็นยาเสพติดผิดกฎหมายในญี่ปุ่น ดังนั้นผู้ที่เดินทางมายังญี่ปุ่นจึงพึงระวังในการนำยาเข้าประเทศ เพราะอาจถูกจับกุมโดยไม่รู้ตัว
ทั้งนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ครูสาวชาวอเมริกันรายหนึ่งได้ถูกจับกุมตัว หลังจากเธอรับพัสดุส่งยา Adderall ซึ่งเป็นยารักษาอาการสมาธิสั้นที่ถูกกฎหมายในสหรัฐฯ แต่ยานี้ถือเป็นยาเสพติดตามกฎหมายของญี่ปุ่น ขณะนี้ ครูสาวชาวอเมริกันรายนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำเมืองนาโกย่า