ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 บรรยากาศหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเต็มไปด้วยความตึงเครียดจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ก่อนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทย จะออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อถึงท่าทีล่าสุดของรัฐบาลท่ามกลางแรงกดดันทั้งจากในประเทศและเวทีระหว่างประเทศ โดยเริ่มต้นด้วยการชี้แจงว่า การประชุมร่วมรัฐสภาตามมาตรา 165 เรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งถูกจับตามองอย่างกว้างขวางนั้น อาจต้องเลื่อนไปหารือประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน เพราะรัฐบาลยังไม่มองว่าถึงเวลาที่เหมาะสมจะเปิดญัตติใดๆ ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนยังคุกรุ่นอยู่ทุกชั่วโมง และจำเป็นต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ความเสี่ยงสูง
.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรายงานเหตุการณ์ที่กัมพูชาถูกกล่าวหาว่าใช้ “โดรนพลีชีพ” โจมตีเจ้าหน้าที่ไทย นายกรัฐมนตรีตอบสั้นและหนักแน่นว่า กองทัพรับทราบสถานการณ์และมีแผนรับมือไว้อยู่แล้ว พร้อมย้ำว่าช่วงเวลานี้ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์กันเกินจำเป็น และควรร่วมกันสนับสนุนขวัญกำลังใจของฝ่ายปฏิบัติการซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายบนแนวชายแดน
.
ส่วนคำถามเรื่องการบิดเบือนข้อมูลจากกัมพูชา นายอนุทินระบุว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญคณะทูตจากทั่วโลกเข้ารับฟังคำชี้แจงของไทยแล้ว พร้อมทั้งทำรายงานส่งถึงเวทีสหประชาชาติ โดยยืนยันว่าประเทศไทยไม่เคยปรุงแต่งข้อมูลและยืนอยู่บนข้อเท็จจริงทุกประการ มิฉะนั้นก็ไม่อาจไปชี้แจงให้ประชาคมโลกเข้าใจได้อย่างที่ทำอยู่ในปัจจุบัน
.
เมื่อถูกถามว่ากัมพูชายังไม่ได้ติดต่อมาเพื่อเปิดการเจรจาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบชัดว่า “ไม่มีครับ” ก่อนจะขยายความว่า ขณะนี้ไทยกำลังทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และได้แสดงให้ผู้ที่คิดไม่ดีต่อประเทศเห็นแล้วว่าไทยมีศักยภาพในการปกป้องตนเองเพียงใด พร้อมเรียกร้องให้สังคมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่แนวหน้า มากกว่าจะตกไปอยู่ในกระแสความขัดแย้งที่ถูกขยายผ่านข้อมูลจากภายนอก
.
คําถามสำคัญคือ จะมีการสั่งให้ทหารหยุดปฏิบัติการหรือไม่ นายอนุทินยืนยันหนักแน่นว่า “ไม่มี ตอนนี้หยุดไม่ได้แล้วครับ” พร้อมระบุว่ารัฐบาลได้ให้คำมั่นกับกองทัพแล้วว่าจะสนับสนุนการปฏิบัติการตามแผนที่วางไว้ทุกประการ ทั้งด้านยุทธศาสตร์ ทรัพยากร และความชอบธรรมทางการเมือง โดยยืนกรานว่า “กองทัพไทยไม่มีวันสิ้นสภาพ” เมื่อถูกนักข่าวถามจี้ถึงคำกล่าวของฝ่ายตรงข้าม
.
ขณะเดียวกัน ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้เผยแพร่ภาพนายอนุทินและผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน พร้อมกล่าวหาว่าเป็นความพยายามสร้างคะแนนนิยมเพื่อประโยชน์ทางการเมือง นายกรัฐมนตรีตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ชัดเจนว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหรดังกล่าว พร้อมเสริมว่า แม้เพียงออกไปกินก๋วยเตี๋ยว กวยจั๊บ หรือข้าวต้ม ประชาชนก็ยังให้กำลังใจอย่างอบอุ่น จึงไม่จำเป็นต้องสร้างกระแสใดๆ ตามคำกล่าวหาจากต่างชาติ และชี้ว่าเรื่องที่ควรกังวลไม่ใช่ภาพที่เผยแพร่ แต่เป็นการดูแลความปลอดภัยของประชาชนไทยในสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้มากกว่า
.
ในช่วงท้าย นายอนุทินกล่าวชัดว่า ไทยจะเดินหน้าบนมาตรการที่ตั้งใจไว้ ไม่หวั่นต่อการโจมตีทางการเมืองหรือปฏิบัติการด้านข้อมูลจากภายนอก พร้อมย้ำว่า “ที่นี่ประเทศไทย” และรัฐบาลจะโฟกัสเพียงสิ่งที่จำเป็นต่อประชาชน โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ ขณะที่การปฏิบัติการตามแนวชายแดนยังดำเนินต่อเนื่องอย่างเข้มข้น


