ภาวะเพลียแดด หรือ ลมแดด เป็นอาการที่เกิดร่างกายไม่สามารถปรับตัวตามสภาวะอากาศได้ สูญเสียน้ำมากเกินไป ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น โดยจะมีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ มึนงง กระสับกระส่าย คลื่นไส้ อาเจียน สาเหตุหลักมาจาก ภัยความร้อน (Heat Hazard) ร่างกายที่สัมผัสความร้อนเป็นเวลานาน
อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรง ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องทำความรู้จักกับอาการของภาวะเพลียแดดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคลมแดดจนเป็นอันตรายถึงชีวิต รวมไปถึงวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดเหตุอันตรายจากภัยความร้อน
ภาวะเพลียแดด อาการเป็นอย่างไร
เป็นสัญญาณเตือนที่ต้องระวัง เพราะหากปฐมพยาบาลไม่ถูกวิธี สามารถเปลี่ยนเป็น โรคลมแดด หรือ Heat stroke ได้ ซึ่งอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต โดยปกติแล้วร่างกายคนเรามีอุณหภูมิ ประมาณ 36 – 37 องศาเซลเซียส ถ้าอากาศร้อนมากจนร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ไม่ถึง 40 องศาเซลเซียส อาจเกิดอาการเพลียแดดได้ และถ้าสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ร่วมกับเริ่มมีอาการทางสมอง เช่น ซึม สับสน ชักเกร็งหรือหมดสติ เรียกว่า โรคลมแดด
แดดจัด อากาศร้อน คนทำงานกลางแจ้งต้องระวัง!
โรคเพลียแดด (Heat Exhaustion) และ โรคลมแดด (Heat Stroke) นี้ เกิดได้กับทุกคนที่ถูกแดดจัดหรืออยู่ในที่ร้อนจัดเป็นเวลานานแต่ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ได้ง่ายขึ้น ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เกษตรกร ผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรจะต้องระมัดระวังการเกิดภาวะอันตรายจากแดดและอากาศร้อนจัด
นอกจากโรคเพลียแดด และโรคลมแดดแล้ว ด้วยอุณหภูมิของอากาศที่ร้อน เรายังต้องระวังภาวะโรคจจากแดด ได้แก่ โรคตะคริวแดด (Heat Cramps) และผิวหนังไหม้แดด (Sunburn) โดยโรคดังกล่าวล้วนเกิดจากการได้รับความร้อนมากจนเกินไป ประกอบกับเกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งแต่ละโรคจะเกิดภาวะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และการอยู่ท่ามกลางแสงแดดนานแค่ไหน แต่ภาวะที่รุนแรงและเสี่ยงเสียชีวิตที่สุด คือ โรคลมแดด
ตากแดดจัดนานๆ ระวังเป็นฮีทสโตรก!