นิตยสาร CEOWORLD เก็บข้อมูลจากความเห็นผู้อ่าน 265,000 คน จัดให้ไทยเป็นอันดับ 1 ประเทศที่น่าเยี่ยมชมที่สุดประจำปี 2024 (World’s Best Countries To Visit In Your Lifetime 2024) ได้คะแนนกว่าร้อยละ 72 ตามด้วยกรีซ และอินโดนีเซีย ที่ได้ร้อยละ 67 และ 65 ตามลำดับ
.
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอบคุณทุกการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนไทยทุกคนที่เป็นเจ้าภาพที่ดีจนไทยได้รับการจัดให้เป็นอันดับ 1 ประเทศที่น่าเยี่ยมชมที่สุดในปี 2024 (World’s Best Countries To Visit In Your Lifetime, 2024) รวมทั้ง เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงทุกปัจจัยที่ส่งเสริมศักยภาพด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย
.
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดอันดับในครั้งนี้ ดำเนินการโดยนิตยสาร CEOWORLD ซึ่งเป็นนิตยสารด้านธุรกิจชื่อดัง โดยใช้วิธีจัดอันดับโดยการเก็บข้อมูลความคิดเห็นจากผู้อ่านมากกว่า 295,000 ราย ที่มีต่อ 67 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ และประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศที่น่าเยี่ยมชมที่สุด เป็นอันดับ 1 (World’s Best Countries To Visit In Your Lifetime) ในปีนี้ ด้วยคะแนนร้อยละ 72.15 (https://ceoworld.biz/.../worlds-best-countries-to-visit...) โดยทางนิตยสารได้ระบุว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทยทำให้ได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น สีสันยามค่ำคืน อาหารอร่อย ศิลปะและวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา แหล่งชอปปิ้งที่ขึ้นชื่อ แม่น้ำลำคลองที่คดเคี้ยวอย่างสวยงาม วัดของศาสนาพุทธ ตลาดกลางคืน ตลาดน้ำ และ สวนสาธารณะสุดพิเศษ
.
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพประเทศไทย และทำให้รัฐบาลได้วางแผน ดำเนินการผลักดันการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างรอบด้าน โดยการจัดอันดับในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่พิสูจน์ว่า แนวนโยบายของไทยที่สนับสนุนศักยภาพการท่องเที่ยวนั้น เดินหน้ามาอย่างถูกทาง และพร้อมที่จะพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) ในระดับโลกต่อไป” นายชัย กล่าว
.
อนึ่ง สำหรับผลการจันดับดับประเทศที่น่าเยี่ยมชมที่สุดประจำปี 2024 โดยนิตยสาร CEOWORLD ที่น่าสนใจ 20 อันดับแรก มีดังนี้
.
1.ประเทศไทย ได้คะแนนร้อยละ72.15
2.กรีซ ร้อยละ 67.22
3.อินโดนีเซีย ร้อยละ 65.15
4.โปรตุเกส ร้อยละ 64.32
5.ศรีลังกา ร้อยละ 60.53
6.อาฟริกาใต้ ร้อยละ 59.76
7.เปรู ร้อยละ 59.76
8.อิตาลี ร้อยละ 57.77
9.อินเดีย ร้อยละ 57.65
10.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร้อยละ 57.38